กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : พระเนื่้อนวะโลหะ

(N)

ตามสูตรต้องมีส่วนผสมของทองคำ
เเต่สมัยนี้คงไม่เต็มสูตรเเน่ๆ เพราะราคาทองเเพงมาก
ถ้าเราเช่าพระเนื้อนี้มาเเล้วนำไปตรวจสอบ
ปรากฎว่าไม่มีส่วนผสมของทองคำเลย
เเบบนี้ผู้สร้างพระผิดไหมครับ

ปล.ถามเล่นๆนะครับ ไม่ได้ซีเรียส

โดยคุณ ติณณ์ณชัย (2.6K)

[ศ. 29 ม.ค. 2559 - 15:32 น.]

โดยคุณ เมฆินทร์ (2K)

[ส. 30 ม.ค. 2559 - 00:30 น.] #3715683 (14/26)

แล้วแต่รุ่นและทีมงานจัดสร้างครับ..
แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าทีมงานดีๆมีมาตราฐานจะใส่ทองคำลงไปด้วยครับ
ส่วนปริมาณที่ใส่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนการจัดสร้างครับผม

ส่วนงานเล็กๆที่เป็นงานบุญ บางครั้งงบน้อยครับ
และราคาที่ออกให้บูชาก็ไม่ได้แพงอะไรมาก
บางครั้งในส่วนนี้อาจจะไม่ได้ใส่ทองคำเลย

แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็อยู่ที่ศรัทธาของเราครับ
ไม่ว่าเนื้ออะไรถ้าชอบรุ่นนั้น ผมมองสวยหมดทุกเนื้อครับ

โดยคุณ ช็อคโกแลค (484)

[ส. 30 ม.ค. 2559 - 06:58 น.] #3715713 (16/26)

นวะโลหะที่ผสมตามสูตรที่แท้จริงต้องมีโลหะ 9 อย่างคือ 1.ชินหนัก 1 บาท 2.จ้าวน้ำเงินหนัก 2 บาท 3.เหล็กละลายตัว หนัก 3 บาท 4.บริสุทธิ์ หนัก 4 บาท 5.ปรอท หนัก 5 บาท 6.สังกะสี หนัก 6 บาท 7.ทองแดง หนัก 7 บาท 8.เงิน หนัก 8 บาท 9.ทองคำหนัก 9 บาท = รวมหนัก 45 บาท ซึ่งจะต้องใช้ทองคำถึง 20 %
สมัยก่อนที่เขาทำแทบไม่ต้องเข้าพิธีเลยครับผสมถูกสูตรจะกลายเป็นแร่ที่มีคุณวิเศษในตัวเอง ยิ่งเข้าพิธีด้วยแล้วยิ่งสุดยอดครับ เดี๋ยวนี้ก็เป็นนวะอยู่นะ แต่เป็นนวะนครไปแล้ว555 ถ้าเช่านวะเช่าอัลปาก้า หรือชนวน หรือทองแดงดีก่าครับ

โดยคุณ มอมแมม (59)

[จ. 01 ก.พ. 2559 - 09:34 น.] #3716140 (21/26)

ปัจจุบันสร้างเนื้อนวะตามนี้เลย แต่ที่ใส่เนื้อทองคำก็มีแต่น้อยมากครับ
โลหะอีกชนิดหนึ่งที่วงการพระพูดถึงเสมอคือ นวโลหะ ตามสูตรโบราณ หมายถึงโลหะ ๙ ชนิดที่หลอมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ประกอบด้วยโลหะ ๕ ชนิด เรียนว่าเบญจโลหะ ได้แก่ เหล็ก ปรอท ทองแดง เงิน ทองคำ (ทองเป็นเกล็ดหรือทองเป็นก้อนซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ) ถ้าเพิ่มอีก ๒ ชนิด คือ เจ้าน้ำเงิน (แร่ผสมชนิดหนึ่งมีพลวงเป็นส่วนผสมหลักสีเขียวเป็นสีน้ำเงิน) และสังกะสี รวมเป็น ๗ ชนิด เรียกว่า สัตตโลหะ (สัตตะ=เจ็ด) และถ้าเพิ่มอีก๒ ชนิด คือ ชิน (โลหะผสมชนิดหนึ่งประกอบด้วยตะกั่วและดีบุก นิยมใช้ทำพระเครื่อง) และบริสุทธิ์ (คือทองแดงบริสุทธิ์) รวมเป็น ๙ ชนิด เรียกว่า นวโลหะ (นวะ=เก้า)

พระเครื่องที่สร้างด้วย เนื้อนวโลหะ แบบโบราณนั้นสร้างได้ยากมาก เพราะส่วนมากผู้สร้างพระมักจะหาโลหะสำคัญบางชนิดไม่ได้ เช่น ชิน (ดีบุกผสมกับตะกั่ว) เจ้าน้ำเงิน (คนส่วนมากไม่ทราบว่าเป็นโลหะอะไร) จึงทำให้ยุคหลังๆ การสร้างพระเนื้อนวโลหะ มักจะไม่เต็มสูตร

เหรียญเนื้อนวโลหะ ที่เรียกกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้ผสมด้วยโลหะ๙ ชนิดแบบสมัยก่อน อย่างเช่น เจ้าน้ำเงิน ก็ไม่มีใครทราบว่าเป็นโลหะอะไร มีลักษณะแบบไหน ถามหาผู้รู้ก็ไม่มีใครทราบ

นอกจากนี้ส่วนผสมหลัก คือ ทองคำ ก็มีราคาแพงมากเวลาทำเหรียญเนื้อนวโลหะโดยทั่วไปจึงไม่มีใครใส่ทองคำกันแล้ว

ดังนั้นทุกวันนี้เหรียญเนื้อนวโลหะจะมีส่วนผสมเพียง๓ อย่างเท่านั้น คือ ทองแดง ๘๕ เปอร์เซ็นต์ เงิน ๑๐ เปอร์เซ็นต์ สังกะสี ๕ เปอร์เซ็นต์

โดยคุณ เจ่กเตี้ย (4.6K)

[พ. 03 ก.พ. 2559 - 11:17 น.] #3716691 (23/26)

ตำนานแห่งจ้าวน้ำเงิน...คำนี้ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน แต่เกิดมีอยู่ในคำอธิบายว่า นวโลหะ...เป็นหนึ่งในโลหะทั้งเก้า เป็นส่วนผสมในการสร้างพระกริ่งที่สำคัญ แม้แต่ในตำราการสร้างพระกริ่งขององสมเด็จพระสังฆราชแพยังกล่าวไว้ จ้าวน้ำเงินโบราณเชื่อว่าเป็นโลหะที่สามารถเรียกเงินได้ เป็นโลหะสำคัญในตำนาน 3 ชิ้น ได้แก่ เหล็กไหล จ้าวน้ำเงิน และสุวรรณขีด
*******************************************************************
&#9678เจ้าน้ำเงิน&#9678
คำนี้ไม่มีในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน แต่เกิดมีอยู่ในคำอธิบายคำว่า นวโลหะเป็นหนึ่งในโลหะทั้งเก้า ส่วนผสมในพระพุทธรูปโบราณ หรือพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์
ทางภาคใต้ของไทย เรียกชื่อว่า "มิด"
เจ้าน้ำเงิน เชื่อกันว่าเป็นโลหะเรียกเงินได้ เกิดมาจากหินชนิดหนึ่งในป่า แถวเมืองสุพรรณบุรีและกาญจนบุรี
วิธี ตรวจสอบ...ให้เอาเหรียญเงินหลายๆเหรียญโปะทับ เอาชามครอบ วางที่น้ำค้างตก...รุ่งเช้าเปิดชามดู ถ้าก้อนโลหะนั้น โผล่ไปอยู่บนกองเหรียญ สิทธิการิยะ ท่านว่า เจ้าน้ำเงินแท้
อีกวิธีหนึ่ง...ให้ใช้ปูนแดงที่กินกับหมากพลู ป้ายแต้มลงไป ไม่เกิน 5 นาที จะแสดงปฏิกิริยาออกมาคือ ปูนแดงนั้น
จะเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเขียวออกน้ำเงินหรือสีคราม
เนื้อนวโลหะ หมายถึง การนำแร่ธาตุ 9 ชนิด มาหลอมรวมกัน
พระเนื้อนวโลหะ ที่มีตำราชี้เฉพาะปริมาณของส่วนผสม ได้แก่ พระในกลุ่มพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ที่มี สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนฯ กทม.เป็นองค์ปฐมการสร้าง สืบตำราต้นแบบที่บังคับในการสร้างพระกริ่งเนื้อนวโลหะสายวัดสุทัศนฯ ประกอบไปด้วย
๑.ชิน น้ำหนัก 1 บาท (1บาท = 15.2 กรัม)
๒.เจ้าน้ำเงิน น้ำหนัก 2 บาท (แร่ชนิดหนึ่ง สีเขียวปนน้ำเงิน)
๓.เหล็กละลายตัว น้ำหนัก 3 บาท
๔.บริสุทธิ์หรือทองแดงบริสุทธิ์น้ำหนัก 4 บาท
๕.ปรอท น้ำหนัก 5 บาท
๖.สังกะสี น้ำหนัก 6 บาท
๗.ทองแดง น้ำหนัก 7 บาท
๘.เงิน น้ำหนัก 8 บาท
๙.ทองคำ น้ำหนัก 9 บาท
เนื้อสัตตโลหะ หมายถึง โลหะผสม 7 ชนิด อันประกอบด้วย
1.เหล็ก 2.ปรอท 3.ทองแดง 4.เงิน 5.ทองคำ 6.เจ้าน้ำเงิน และ 7. บริสุทธิ์
ตามอัตราส่วนของแต่ละตำรา และวัสดุที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ เช่น อาวุธที่เป็นเนื้อสัตตโลหะจะมีปริมาณของแร่เหล็กมากกว่าแร่ชนิดอื่น
เบญจโลหะ หมายถึงโลหะผสม 5 ชนิด อันประกอบด้วย
1.เหล็ก 2.ปรอท 3.ทองแดง 4.เงิน และ 5.ทองคำ
อัตราส่วนตามความเหมาะสมของวัตถุที่สร้าง แต่โลหะหนักส่วนมากมักจะเป็นเหล็ก เพราะเหล็กมีราคาถูกกว่าโลหะชนิดอื่นๆ

คัดลอกมาจากเฟซบุ๊ก โปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่านด้วยครับ

โดยคุณ เจ่กเตี้ย (4.6K)

[พ. 03 ก.พ. 2559 - 11:22 น.] #3716692 (24/26)

(N)
บทความนี้ค่อนข้างเป็นวิทยาศาสตร์ซักหน่อยครับ
BORNITE (Peacock Ore) แร่นกยูง หรือคนไทยเรียกว่า แร่เจ้าน้ำเงิน

นกยูงแร่ยังเป็นที่รู้จัก BORNITE เป็นแร่ทองแดงที่ขุดได้ในประเทศเม็กซิโก จะมีเป็นสีรุ้ง แต่โดยมาจะออกไปทางโทน น้ำเงิน เขียวและม่วง ชื่อของมันมาจากการเรียกของคนงานเหมืองแร่

บอร์ไนท์ หินแห่งความสุข ช่วยให้คุณปรับแต่งความคิดในเชิงบวกในการใช้ชีวิต และสามารถกระจายพลังงานเชิงบวกที่ให้กับผู้อื่นได้เสียด้วย มันสามารถนำมาซึ่งความสามารถในการมองเห็นและความสุขในช่วงเวลาที่คุณต้องการ ช่วยให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้น

มันสามารถพลังด้านลบและเปลี่ยน พลังในด้านลบให้กลายเป็นพลังบริสุทธิ์ แร่บอร์ไนท์นี้จึงเป็นแร่ธาตุที่มีประสิทธิภาพมาก

ในเชิงการบำบัดรักษา จะเน้นจักระสะดือ, ที่สูงประมาณหนึ่งนิ้วเหนือสะดือ จักระนี้ยังช่วยในการไหลของต่อมหมวกไต นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เพื่อลดระดับแคลเซียมในร่างกาย ทำงานได้ดีในการรักษาสภาพข้อต่ออักเสบ

ในด้านความเชื่อของคนไทยเองนั้น บอร์ไนท์ช่วยในการดึงดูดเงินตรา อีกทั้งยังชัวยป้องกันคุณไสย มนต์ดำ ไสยเวท และอาถรรพณ์ต่างๆได้

ทั้งมีเชื่อกันว่าช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจสดชื่น นำสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิต ช่วยให้เรามีความสุข จัดระเบียบอารมณ์ความรู้สึกที่สับสนยุ่งเหยิง ขจัดสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ออกไปจากชีวิต เป็นหินแห่งความสุข

แร่ชนิดนี้จึงถูกใช้ในการเป็นส่วนผสมของวัตถุมงคลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการหล่อองค์พระ หรือการสร้างเครื่องรางของคลังต่างๆ เป็นอีกหนึ่งที่นักสะสมพลาดไม่ได้

โดยคุณ chaipad (5.4K)

[พ. 10 ก.พ. 2559 - 07:08 น.] #3718425 (26/26)

จะดูว่าพระองค์ไหนที่เป็นเนื้อนวะใส่ทองคำหรือเปล่าไม่ยากครับ มีวิธีครับ แต่ต้องทำใจหน่อยน่ะครับ เพราะถ้าพระรุ่นนั้นไม่ใส่ทองคำขึ้นมาเป็นเนื้อนวะแบบแต่งผิว ผิวก็จะไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้
วิธีง่าย ให้ใช้แปรงสีฟันกับยาสีฟันแบบสีขาวขัด แล้วล้างน้ำเช็ดให้แห้งแล้วขัดด้วยแป้งพม่า เสร็จแล้วใช้แปรงขัดฝุ่นแป้งออกให้หมด ถ้าเป็นเนื้อนวะที่ใส่ทองคำผสมอยู่ สีเนื้อพระจะออกสีคล้ายๆเนื้อนาก พอตั้งทิ้งไว้ให้โดนอากาศก็จะกลับดำในเวลา 2-3 วัน แต่ถ้าไม่ใส่ก็จะเป็นอีกแบบน่ะครับ วิธีนี้ใช้ดูงานพระหล่อน่ะครับ ส่วนพระเหรียญอยากได้เอาไปทำโดยเด็ดขาดครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!