(N)
ชีวประวัติ หลวงปู่ป่วน ถิรธัมโม วัดช้างน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา สิริอายุ 93 ปี พ.ศ. 2558
หลวงปู่ป่วน ถิรธัมโม แห่งวัดช้างน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พระเถราจารย์ชื่อดังลุ่มน้ำน้อย แก่กล้าในพลังจิตพุทธาคมศิษย์ก้นกุฏิสืบสายพระเวทย์หลวงปู่เปลี่ยน วัดช้างน้อย อดีตเจ้าอาวาส หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกอาจารย์องค์ที่ ๒ และหลวงพ่อปานวัดบางนมโค พระอาจารย์องค์สุดท้าย ........... หลวงปู่เปลี่ยน ทิ้งตำราไว้ หลวงพ่อจง สอนอาคมให้ตะกรุดสร้างวัด หลวงพ่อปาน สอนกรรมฐานให้พระและยันต์เกราะเพชรไว้ช่วยคนตอนแก่ ......... หลวงพ่อจงทำน้ำมนต์สมัยก่อนโน้น ขลังไม่ขลัง คิดดู ทำน้ำมนต์โดยไม่ต้องใช้น้ำ ก็มีน้ำมนต์ให้โยมกลับบ้าน ........ หลวงพ่อปาน เป่ายันต์เพราะเพชรทีเดียว เข้าไปถึงกระดูก ท่านให้มองดู ว่าเข้าไปหรือยัง ?
.. นี่แหละครูบาอาจารย์ของหลวงปู่
เมืองกรุง เก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งธรรมที่มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั้งเก่าและใหม่ จำนวนมาก สืบสานพุทธาคมจากรุ่น สู่รุ่น ปัจจุบันนี้พระทองคำแท้ กราบได้สนิทใจ ของทุ่งบางบาล มีอยู่องค์เดียว พระอธิการป่วน ถิรธัมโม เจ้าอาวาสวัดอนุกุลชราราราม(วัดช้างน้อย) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่ง ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธามาอย่างยาวนาน ของชุมชนบางไทรเนื่องจากศีลาจารวัตรที่งดงามบริบูรณ์ประกอบกับความเมตตากรุณาอันเป็นที่หนึ่งของบ้านบางไทร ยังเป็นพระสงฆ์ที่หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นับถือ
คนบ้านไกล ศรัทธาขอจ่ายค่าไฟให้ทางวัดทุกเดือนตลอดชีวิตของเขา มูลเหตุของเขา เขาตั้งใจทำบุญกับวัดที่ไม่ดัง ไม่มีชื่อ เมื่อตั้งใจแล้วจึงได้ขับรถมาเรื่อยๆ ระหว่างทางปรากกฎว่าไม่พบวัดสักวัดเดียว ก็แปลกใจ จนรถมาจอดหน้าวัดช้างน้อย จึงได้ขับเข้ามา ได้พบหลวงปู่ป่วน นั่งสนทนาธรรมกับญาติโยม จึงได้เข้าไปนั่งฟังธรรม บังเกิดความศรัทธา จึงได้ถวายตัวเป็นศิษย์และขอช่วยชำระค่าไฟให้กับทางวัดมาหลายปีแล้วจนถึงทุกวันนี้
ใครต่อใครมาขออะไร หลวงปู่เมตตาให้หมด ชาวบ้านบอกว่าหลวงปู่ป่วนท่านละวางทุกอย่างแล้ว ใครอยากได้อะไรท่านแจก ท่านให้หมดทุกอย่างเลย แต่ถ้าใครคิดไม่ดี ทำไม่ดีระวังกรรมสนอง เคยมีคนโดนแล้วหลายคน เหมือนมาหลอกท่าน แต่กรรมสนองทุกคนไป ถึงขนาดโจรใจบาป เข้ามาขอเงิน หลวงปู่ก็ให้ไป โจรกลับโลภมาก ขโมยยามพระของหลวงปู่ไปด้วย ไปไม่ถึงไหน ขับวนไปเวียนมา ขับเข้าโรงพัก จึงโดนจับได้
ฝันเห็นช้างเผือก ๒ ตัว ด้านหลังช้างเผือก มีพระชรารูปหนึ่ง ยืนยิ้มให้พร้อมกับกวักมือเรียก จึงเดินเข้าไปหา พระชรารูปนี้ได้มอบพระให้ 1 องค์ รุ่งเช้ามีคนนำพระมาปล่อยให้ ปรากฏว่าจำได้ชัดว่า เป็นพระเครื่องที่ฝันเห็นเมื่อคืน จึงได้เช่าเอาไว้ จากนั้นได้ค้นหาที่มาของพระเครื่อง จึงได้รู้ว่า พระของวัดช้างน้อย หลวงปู่ป่วน จึงเดินทางมาที่วัด ได้พบพระชราที่อยู่ตรงหน้า เป็นองค์เดียวกับความฝัน จึงได้เกิดความศรัทธา หลวงปู่ท่านบอกว่า ทำบุญร่วมกันมานานแล้ว อยากให้มาร่วมบุญกันอีก
ฝันเห็นเปรตมาหา รู้สึกกลัวมาก ฝันติดๆกันหลายคืน จึงมาหาหลวงปู่ป่วนที่วัด หลวงปู่ท่านนั่งพิจารณาอยู่สักพัก เขาอยากได้บุญ เคยเป็นญาติกับโยมมา ทำบุญให้เขาเถอะทุกวันนะ สัก 1 เดือน หลังจากทำบุญกรวดน้ำให้เขาประมาณ 1 เดือน ก็เลิกฝันเห็นเปรตตนนั้น หลังจากเลิกฝันแล้ว ก็ได้โชคลาภ ถูกหวยติดๆกัน ถึง 3 งวด
หลวงพ่อมาอย่างงัย ใครมาส่ง
เอ..ทำไมหลวงพ่อไม่เปียกฝนนะ ? สมัยก่อน ที่ยังอายุไม่เยอะขนาดนี้ ถึงจะหน้าฝน หลวงปู่ป่วน ท่านก็รับกิจนิมนต์ โปรดญาติโยม ไม่ขาด โยมนิมนต์มาขึ้นบ้านใหม่ ฉันเช้า ฉันเพล หลวงปู่ก็จะไปโปรดทุกบ้าน เรื่องประหลาด มีอยู่วัน ฝนตกหนักมาก หลวงปู่ก็ไปบ้านงาน โดยเดินเข้าบ้านงาน สบง จีวร ก็ไม่เปียกฝน เจ้าของงานนึกว่าหลวงปู่นั่งรถมา แต่ก็หารถที่พามาไม่เจอ ขากลับเจ้าภาพจึงขับรถไปส่งเอง
หลวงปู่ให้พร งานบุญ งานวัด หลวงปู่ป่วน จะขึ้นศาลาทุกวันพระ หลวงปู่จะเป็นผู้ให้พรญาติโยม ที่ตั้งใจมากราบพระทำบุญ มีคนนำเงินธนบัตร 1,500 บาทถวายหลวงปู่ เพื่อใช้ส่วนตัว หลวงปู่หยิบขึ้นมา หลวงปู่บอกบนศาลาว่า 15 หรือโยม หลายคนต่างก็นำคำพูดหลวงปู่ไป ซื้อหวย ปรากฏว่า ถูกกันทั้งบาง
พรหมน้ำมนต์เคาะกระหม่อม ใครๆ ที่มาถึงวัดช้างน้อย ต้องขอให้หลวงปู่ป่วน พรหมน้ำมนต์เคาะกระหม่อมให้ทุกคน โดยเฉพาะข้าราชการ เขาเชื่อว่า ถ้าหลวงปู่ท่านทำให้ จะเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ปลายปี คอยดูเถอะ กลับมาถวายสังฆทานจนเต็มกุฏิหลวงปู่ป่วน คนที่ไม่ได้รับราชการ ทำกิจการดีขึ้น รายได้มากขึ้น ใครดวงตกทำอะไรก็ไม่มีดี เหมือนกับพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกอย่างนั้น น้ำมนต์หลวงปู่ป่วน ช่วยได้ เชื่อหรือไม่ ไม่ว่ากัน แต่คนที่ได้ไป บอกว่าดี .........................
ทุกคนที่มากราบหลวงปู่ป่วน พูดเหมือนกันว่า สัมผัสได้ เจอกับตัวเองแล้ว ศรัทธาหลวงปู่ป่วน
หลวงปู่ป่วน วัดอนุกุญชราราม (วัดช้างน้อย) มีนามเดิมว่า ป่วน จิตกระแสร์ เกิดวันเสาร์ เดือน พฤศจิกายน ปี 2465 ที่ ต.ช้างน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา บิดา-มารดา ชื่อ นายเติม และ นางเล็ก จิตกระแสร์ มีพี่น้องร่วมอุทร 6 คน จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 3 ที่โรงเรียนวัดสิงห์ ในสมัยนั้นการศึกษายังไม่ค่อยเจริญ พออ่านออกเขียนได้ เมื่อจบการศึกษาแล้วจึงออกมาช่วยบิดามารดาทำนา อายุ 20 ปี เข้าอุปสมบทที่วัดช่างเหล็ก มีพระ ครูพิมพ์ วัดช่างเหล็ก จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อจง และหลวงพ่อนิล เป็นพระคู่สวด ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิทยาคมกับพระครูพิมพ์ วัดช่างเหล็ก เมื่อศึกษาจนหมดไส้หมดพุงแล้ว เพื่อให้เกิดการรู้แจ้งเห็นจริงหลวงพ่อพิมพ์ท่านได้แนะให้ไปหา หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เพื่อศึกษาเพิ่มเติมในด้านสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานขั้นสูง จนบังเกิดดวงตาเห็นธรรม บวชได้ 1 พรรษาจำต้องลาสิกขาบท เพราะเกิดความเป็นห่วงบิดามารดาที่แก่เฒ่าที่ต้องทำนา
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ท่านได้สอนวิชาไว้ต่างๆ พร้อมให้ตะกรุดไว้สร้างวัด ถึงเวลาให้กลับมาบวช เร่งสร้างความเพียร สร้างบารมี ภายภาคหน้ากรุงเก่าจะมีที่ยึดเหนี่ยว....วิชาไม่ต้องไปหาที่ ไหนอยู่ที่วัดช้างน้อยหมดแล้ว หากมีข้อข้องไขสงสัย จงกลับมา...หลวงพ่อจงท่านจะแนะนำเปิดวิถีธรรมให้จนหมด
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ดอกบัวจะเบ่งบานเต็มที่เมื่อแก่ตัว พระข้างบนท่านสั่งอย่างนั้น จากนั้นท่านมอบพระให้พร้อมกับยันต์เกราะเพชร สำหรับการเจริญภาวนากรรมฐานหลวงพ่อปานท่านแนะนำจนรู้แจ้งทะลุทุกปัญญา ติดขัดข้อไหน หลวงพ่อปาน ท่านจะแนะนำให้ถึงแก่น
หลังออกมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพทำนา จึงแต่งงานมีครอบครัว มีบุตร-ธิดารวมกัน 6 คน ช่วงที่ใช้ชีวิตฆราวาส หลวงปู่ท่านชอบเข้าวัดฟังธรรมไปช่วยงานวัดโน้นวัดนี้อยู่บ่อยๆ วัดหน้าต่างนอก กับ วัดบางนมโค ท่านจะช่วยงานวัดอยู่เนืองๆไม่ขาด หลวงปู่ป่วนยังได้รู้จักสนิทสนมมีการแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับ หลวงพ่อฟ้อน วัดบ้านพาด ผู้สำเร็จวิชาพลังเสือโคร่ง หลวงพ่อเชย วัดบางคล้า พระผู้มีดวงจิตใสดั่งแก้วมณี หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อทิม วัดพระขาว พระเกจิชื่อดัง
เมื่อเบื่อชีวิตฆราวาสแล้ว จากนั้น หลวงปู่ป่วน จึงตั้งใจจะบวชตลอดชีวิต ได้กลับมาอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม 2535 ณ วัดอนุกุญชราราม(วัดช้างน้อย) ต.ช้างน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี พระครูวิจิตรนวกรรม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโสภณบุญญาทรเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ดำรง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ถิรธัมโม ภายหลังการอุปสมบท หลวงปู่ป่วนท่านตั้งใจพำนัก อยู่วัดช้างน้อยเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนวิชาการต่างๆที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ในสมัยโน้น หลวงปู่เปลี่ยน อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างน้อย ชาวบ้านต้องตลึงเห็นกันทั้งหมู่บ้าน หลวงปู่เปลี่ยน ไปนั่งสมาธิบนก้านกล้วย ที่สูงท่วมหัว ท่านนั่งได้อย่างไร ?? ลือกันจนถึงทุกวันนี้ หลวงปู่เปลี่ยนทำตะกรุดปีละดอกทำเสร็จโยนข้ามแม่น้ำน้อยตะกรุดวิ่งข้ามแม่น้ำกลับมาตกท่าน้ำหน้าวัดช้างน้อย หลวงปู่เปลี่ยนเป็นพระที่มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์โด่งดังไปทั่ว หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกมาเป็นลูกศิษย์ จำวัดอยู่วัดช้างน้อย ขอศึกษาวิชาอาคมกับหลวงปู่เปลี่ยนนานหลายพรรษาจนสำเร็จธรรมขั้นสูง จากนั้นจึงได้ถ่ายทอดสู่หลวงปู่ป่วน เข้าวัดช้างน้อย ตามลำดับ
ด้วยภูมิธรรมความรู้ อันเกิดจากความวิริยะพากเพียร หลวงปู่ป่วน ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยในด้านพระคันถธุระ วิปัสสนาธุระและวิชาอาคมที่ตกทอดลงมา โดยมองเห็นประโยชน์ในด้านการปฏิบัติ สามารถสอนชาวบ้านได้ การรักษาศีลอันมั่นคงไม่เคยตกหล่นแม้แต่ข้อเดียว และการให้ทานที่เป็นเลิศแก่สาธุชนที่มากราบไหว้จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของญาติโยมทั้งหลาย ต่อมาเมื่อพระครูโสภณบุญญาทร ละสังขาร ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดช้างน้อยว่างลง ชาวบ้านต่างเห็นพ้องต้อง กันว่า พระภิกษุป่วน มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้รับตำแหน่ง พระอธิการป่วน จากการพัฒนาวัดอย่างไม่หยุดนิ่ง คณะสงฆ์เห็นควรว่าจะมอบชั้นยศ พระครูให้กับหลวงปู่ป่วน เพราะตลอดระยะเวลาการบวช หลวงปู่ป่วน ได้พัฒนาวัดช้างน้อยมาจนรุ่งเรือง แต่หลวงปู่ป่วน ท่านไม่ขอรับตำแหน่งใดๆอีก ท่านบอกว่า อายุมากแล้ว ไม่เอาแล้ว ท่านขอเป็นสมภารเรียบง่าย สันโดษ สมถะ ไม่ยึดติด ชาวบ้านเรียกท่านว่า หลวงปู่ผู้เมตตาแห่งลุ่มน้ำน้อย เพราะไม่เคยมีใครไม่ได้อะไรจากหลวงปู่ ไปขออะไร อะไรหลวงปู่ก็ให้หมด ..... หลวงปู่ป่วนมีอุปนิสัยไม่ค่อยพูดจา เวลามีใครมาสนทนาธรรมด้วย ท่านก็จะแนะนำ บางครั้งท่านก็ไม่ค่อยพูด มักได้แต่ยิ้มและทุกครั้งหลวงปู่ท่านจะให้พรอันประเสริฐว่า เจริญ เจริญนะลูกนะ.. โชคดีนะ... แล้วจะเป่ากระหม่อมให้ ก่อนกลับทุกครั้ง ใครกลับไปจะมีโชค มีชัย ทุกคน
หลวง ปู่ป่วน วัดช้างน้อย นั่งฉันข้าวร่วมกับ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ด้วยกันสององค์ ตอนหลวงปู่ป่วนไปวัดบ้านไร่งานมุทิตาจิตหลวงพ่อคูณ พระเกจิอาจารย์มามากมาย หลวงพ่อคูณ ท่านได้เดินมาจูงมือหลวงปู่ป่วน ไปฉันเพลด้วยกันเพียง ๒ รูป ต่างได้สนทนาธรรมเสมือนเคยเจอกันมานานแล้ว ... จะสังเกตได้ว่า หากคนอยุธยาไปวัดบ้านไร่นั้น หลวงพ่อคูณท่านบอกว่า มึงมาจากอยุธยารึ พวกไม่ต้องมาหากูดอก....พ่อป่วนของมึงเก่งไม่แพ้กูดอก มึงไปหาท่านที่วัดช้างน้อยเด้อ !
วัดอนุกุญชรารามหรือวัดช้างน้อย เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ ต.ช้างน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ในอดีตวัดแห่งนี้มีฝูงช้างน้อยใหญ่เข้ามาอาศัยใบบุญหลวงปู่เปลี่ยน ไม่มีใครกล้าจับ มีหลวงปู่เปลี่ยนองค์เดียวจับช้างได้ทั้งฝูง ทุกวันนี้ไม่มีช้างให้เห็นแล้ว นอกจากรูปปั้น ปูนปั้นที่เป็นตัวแทนให้เห็นเท่านั้น จึงเห็นเป็นวัดธรรมดาเหมือนวัดทั่วไป ภายในวัด มีพื้นที่บริเวณกว้างขวาง สำหรับให้ชาวบ้านได้จัดกิจกรรมต่างๆ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
พระเครื่องวัตถุมงคลที่หลวงปู่ป่วนสร้างไว้น้อยมาก เบี้ยเศรษฐี ตะกรุดกันภัย ตะกรุดสามกษัตริย์ มีดหมอชาตรี เหรียญรุ่นแรก พระขี่สิงห์ พระขรรค์เกราะเพชร รูปหล่อเงินไม่ขาดมือ ปิดตามหาลาภ พระผงหลังสิงห์
เบี้ยเศรษฐีขณะนี้ หากันอย่างมาก เพราะดังที่ประเทศสิงค์โปลูกศิษย์ชาวสิงค์โปนำไปบูชาติดตัวปรากฏว่าทำแจ๊คพ็อตแตก ได้เงินหลายล้านบาท อีกคนโดนทำของใส่ เบี้ยหมุนติ้ว รู้สึกปวดแสบไปทั่วตัว จนชาไปถึงปลายเท้าแล้วหายไป หลวงปู่บอกโดนของต่ำ ตอนนี้ไม่มีแล้ว
มีดหมอชาตรีเมตตาแรงไม่แพ้กันลองเอาไปใช้ไม่กี่วัน ปลดหนี้หมดสิน มีดหมอชาตรีแน่ถึงขนาด ได้ใจมาก หลายคนลืมตาอ้าปากได้ นักเลงรุ่นเหลน ตีกันงานวัด มีดไม่ได้กินเลือด
ตะกรุดกันภัย สิบล้อชนเด็กกระเด็นตกถนน คลานขึ้นมาจากถนนได้ ลุกปัดตูดสองสามที วิ่งกลับบ้านเฉยเลย นี่ของวัดช้างน้อยแรงขนาดไหน รู้กันหมด ลือกันทั่ว ของดีไม่ต้องไปหาให้ไกล รอจังหวะหลวงปู่ป่วน ท่านออกของเมื่อไหร่ รีบตะคลุบกันได้เลย ไม่สร้างง่ายๆ ไม่สร้างบ่อยๆ นะ จะบอกให้
เหรียญรุ่นแรก หาไม่ได้แล้ว เปิดบูชาที่วัด วันเดียว หมดเกลี้ยง ! มีประสบการณ์ทั่วจังหวัดอยุธยา คนอยุธยาชอบใจมาก เพราะเรียกโชคลาภได้ตามจิตอธิฐาน วัยรุ่นตีกันไม่ลง ใจมันยอมกัน บ้างก็มองกันไม่เห็น ข้าราชการในจังหวัดใช้แล้วเจ้านายรักเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง อานุภาพของเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ป่วน ชาวบ้านเรียก เหรียญไข่เล็ก เล็กพริกขี้หนู
พระขรรค์เกราะเพชร บ้านไหน บ้านนั้นต้องมี อานุภาพเกราะเพชรคุ้มครองครอบจักรวาล ภูตผีปีศาจหนีหมดกลัวพระขรรค์เล่มนี้ คนร้อยเอ็ดเขาว่ามีปอบในหมู่บ้าน ส่งไปรษณีย์มาบูชาพระขรรค์ไปใช้ เอาไปไว้บ้านปอบ ปรากฏว่า ผู้หญิงในบ้านหลังนั้นหวีดร้องลั่นโหยหวน ก่อนจะหนีหายไปจากหมู่บ้าน
พระขี่สิงห์เนื้อดินเผา ( หลวงปู่ทำตามรอยเท้าหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ) ตั้งใจทำเพื่อให้ไว้เป็นตัวแทนและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจ สมเด็จขี่สิงห์ หลวงปู่ป่วน ท่านไม่บอกอะไรมาก ท่านบอกว่า พระดินเผานี้นะฉันทำตามหลวงพ่อปานและหลวงพ่อจง หากโยมหาพระของหลวงพ่อปานและ หลวงพ่อจงไม่ได้ ก็ให้เอาองค์นี้ไปใช้แทนได้ สมเด็จขี่สิงห์ต่อไปจะเป็นพระหายาก มีราคาแพง เหมือนพระทรงพาหนะสัตว์ต่างๆ ของหลวงพ่อปาน หลวงปู่ป่วนดำริว่าจะทำพระทรงสัตว์พาหนะต่างๆ ในโอกาสต่อไป เพื่อเป็นตัวแทนของครูบาอาจารย์สืบไปภายหน้า
คติธรรมที่หลวงปู่ป่วนท่านมักจะมอบให้ญาติโยม ผิดน้อยบาปน้อย...ผิดมากบาปมาก..อยากมากผิดมาก..อยากน้อยผิดน้อย |