ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ประวัติหลวงพ่อสมนึก วาจาสิทธิ์ วัดบ้านนา อ.กะเปอร์ ระนอง



(N)
ประวัติหลวงพ่อสมนึก พระเถระผู้มีวาจาสิทธิ์ เมตตามหานิยม ไม่ยึดติดในลาภและตำแหน่ง ตอนที่ ๑
หลวงปู่สมนึก เกิดวันที่ ๖ ธันวาคม (เดือนอ้าย) ตรงกับปี ชวด ๒๔๗๙ ปัจจุบันอายุ ๘๐ ปี หลังจากท่านเกิดมา ได้มีหมอตำแยบอกกับแม่ท่านว่า เด็กคนนี้มีบุญมาก และจะเป็นคนที่ช่วยเหลือสังคมต่อไป ในวัยเด็กนั้นมีความสนใจในเรื่องมนต์คาถาต่างๆ ได้รับสืบทอดจากคนโบราณที่เก่งกล้ามีชื่อเสียงท่านหนึ่ง ได้ศึกษาเกี่ยวกับหมอเลยไท (เลยไท นั้นคือพิธีกรรมโบราณที่ศักดิ์สิทธิ์ของภาคใต้ที่มีการแก้บน และสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ )
ในปีพ.ศ. ๒๕๓๔ ท่านได้ตัดสินใจบวชเพื่อแก้บนที่วัดธรรมาวุธาราม (วัดหลวงพ่อเบี้ยว ) ตั้งใจบวชไว้ ๑ พรรษาแล้วจะลาสิกขา เมื่อบวชก็ได้ศึกษาตำราธรรมะและมนต์ต่างๆ จนเป็นผู้ที่คล่องแคล่วในการสวดมนต์มาก เช่น บทภาณยักษ์ ธรรมจักร เป็นต้น และก็ได้ปฏิบัตินั่งสมาธิเป็นนิตย์ ทำวัตร บิณฑบาตอยู่ไม่ขาด หลังจากบวชแล้วได้ย้ายไปอยู่ที่วัดเชี่ยวเหลี่ยง ต.เชี่ยวเหลี่ยง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ซึ่งในวัดเชี่ยวเหลี่ยง(วัดคงคารี) นั้น ได้มีพบกับสองเกจิดัง ที่เป็นที่นับถือของคนภาคใต้ คือ หลวงปู่ฮอด ขันติพโล และ หลวงพ่อดำ หลวงพ่อสมนึกได้อยู่รับใช้หลวงปู่ฮอด ศึกษาธรรมอยู่ที่นี้เป็นเวลา ๓ ปี ซึ่งทุกๆคืนก็จะมาดูแลรับใช้หลวงปู่ฮอด อ่านหนังสือให้ท่านฟัง หลวงปู่ฮอดได้กล่าวไว้ว่า คุณสมนึกเก่งเรียนเร็ว จำเร็ว ใช้เวลาไม่นานก็ทรงจำมนต์ได้เยอะ สอนบทไหนก็จำได้ จำง่ายทำได้ดี บางบทที่ยาก หลวงพ่อสมนึกก็ถอดใจ แต่หลวงปู่ฮอดก็ให้กำลังใจ สุดท้ายก็สำเร็จตามปรารถนา.

โดยคุณ รามาสู (0)  [พฤ. 18 ก.พ. 2559 - 15:06 น.]



โดยคุณ รามาสู (0)  [พฤ. 18 ก.พ. 2559 - 15:06 น.] #3721229 (1/6)


(N)
ประวัติหลวงพ่อสมนึก ตอนที่ ๒ เทวดามาเข้าฝันนิมนต์ไม่ให้ลาสิกขา
ในคืนที่หลวงปู่ฮอดมรณภาพนั้น หลวงพ่อสมนึกได้ดูแลอุปัฏฐากจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ก่อนมรณภาพ ได้พูดว่า ชีวิตนี้คุณต้องอยู่ในผ้าเหลืองตลอดไป ให้หมั่นศึกษาตำราคาถาต่างๆ ความศักดิ์สิทธิ์ก็จะเกิดขึ้น หมั่นพิจารณาสังเกตุที่เราสอนไว้ หลังจากนั้นหลวงปู่ฮอดได้จากไปอย่างอาการสงบ หลวงพ่อสมนึกท่านได้ระลึกถึงคำสอนของหลวงปู่ฮอด และปฏิบัติตามคำสั่งสอน ยึดมั่นปฏิบัติเสมอมา และเมื่อหลวงปู่ฮอดมรณภาพแล้ว ก็ได้อยู่กับหลวงพ่อดำ เกจิอีกท่านหนึ่ง ที่เก่งในเรื่องของฌาน สามารถหยั่งรู้ หลายครั้งที่คนของหาย ก็ต้องเข้ามาถามหลวงพ่อดำ บางท่านเดินทางจากกระบี่ พังงา ภูเก็ต หรือแม้แต่จากกรุงเทพก็มี เพื่อให้หลวงพ่อดำ ทำนายให้ และเป็นอันว่าตรงตามที่หลวงพ่อดำกล่าวทุกอย่าง หลวงพ่อสมนึกอยู่ได้สักระยะหนึ่ง จึงได้ไปจำพรรษาเพื่อศึกษาวิชาอีกที่วัดบางปรุ กะเปอร์ ระนอง ซึ่งวัดนี้มีพระศักดิ์สิทธิ์ คือ หลวงพ่อจันทร์ ในขณะนั้นหลวงพ่อม้วนเป็นเจ้าอาวาส ในขณะที่ท่านจำพรรษาที่วัดบางปรุ นั้นท่านเห็นว่าควรแล้วที่จะลาสิกขา เพราะตั้งใจว่าจะบวชเพียง ๑ พรรษาเท่านั้น ตอนนี้ก็ล่วงเลยมาเยอะแล้ว จึงสั่งให้คนตัดชุดกางเกง เสื้อผ้า แล้วเอาไปไว้ที่วัดเชี่ยวเหลี่ยง เพื่อกลับมาลาสิกขากับหลวงพ่อดำ ที่วัดเชี่ยวเหลี่ยง (ปัจจุบัน คือ คงคาวารี) ตกกลางคืนมีเทพเทวดาประจำตัวมาเข้าฝันท่านว่า อย่าได้ลาสิกขาเลย หากลาสิกขาต้องมีอันเป็นไป ขอให้ท่านอยู่บำเพ็ญตบะละกิเลสเถิด แล้วเทวดาตนนั้น ค่อยๆคลายร่างเป็นดอกบัววางบนพาน

โดยคุณ รามาสู (0)  [พฤ. 18 ก.พ. 2559 - 15:07 น.] #3721230 (2/6)


(N)
ตอนที่ ๓
ตื่นเช้าในขณะที่ท่านเตรียมตัวรอรถเพื่อไปลาสิกขาอยู่นั้น ปรากฏว่า ท่านเกิดอาการปวดสะเอวอย่างหนัก ปวดดิ้นทุรนทุนราย ไม่ทราบสาเหตุ และไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือน สะเอวกับส่วนข้อต่อตัวจะหลุดขาดกันเสียให้ได้ ท่านเล่าว่า วินาทีนั้น ท่านเกือบจะขาดใจตาย เหมือนถูกแยกร่าง ท่านบอกว่า เป็นเหตุการณ์ที่สุดในชีวิตที่เกิดมา แต่ท่านก็อดทนรอรถเพื่อจะลาสิกขาให้ได้ เมื่อจะขึ้นรถ ปรากฎว่านั่งรถจักรยายนต์ไม่ได้ เพราะปวดสุดๆ หนทางกะเปอร์ - วัดเชี่ยวเหลี่ยง ในสมัยนั้น ยังไม่ได้ลาดยาง ยังเป็นถนนลูกรัง เป็นหลุมบ่อ ท่านพิจารณาแล้วท่านน่าจะไปไม่ได้ วันนั้นจึงล้มเลิกการลาสิกขา คิดว่า ถ้าอาการทุเลาท่านค่อยเดินทางใหม่ จึงกินยา แต่กินเท่าไรก็ไม่หาย
ในขณะนั้นได้มีพระเถระรูปหนึ่งพึ่งกลับจากนิมนต์ ได้พูดขึ้นว่า "เมื่อคืนมีชายหนุ่มแต่งตัวดูดีใส่ชุดขาวมาเข้าฝันผมว่า บอกให้ผมมาห้ามคุณไม่ให้ลาสิกขา สาธุเจ้าเอ้ย..ขออย่าให้คุณสมนึกลาสิกขาด้วยเถอะ" ก็เป็นเรื่องน่าแปลกเพราะว่า หลวงพ่อสมนึกท่านไม่ได้เล่าให้ใคร คิดว่าจะลาสิกขาแบบเงียบๆที่วัดเชี่ยวเหลี่ยง (วัดคงคารี)
ชาวบ้านเมื่อรู้ว่า หลวงพ่อสมนึกจะลาสิกขา ก็พากันมาวิงวอน ขอให้อยู่ในผ้าเหลือง และมีเรื่องที่น่าแปลกเกิดขึ้น คือ ต้นไม้ที่หน้ากุฎิท่านก็เหี่ยวเฉา และหมาที่อยู่ที่วัด(เมื่อก่อนวัดบางปรุเคยเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว ) ก็ดูเงียบเหงา จากที่เคยกระโดดโลดเต้น ก็นอนเงียบ นอนหมอบแล้วคอยจ้องดูหลวงพ่อนึก อาจจะเพราะเป็นเรื่องของจิต อาการเจ็บปวดของท่านไม่หาย จนสุดท้ายท่านเลิกคิดเรื่องลาสิกขา อาการค่อยๆทุเลาลงจนหายแบบปลิดทิ้ง เหมือนไม่เคยมีอาการดังกล่าวมาก่อน

โดยคุณ รามาสู (0)  [พฤ. 18 ก.พ. 2559 - 15:08 น.] #3721231 (3/6)


(N)
ตอนที่ ๔
หากวันใดที่ท่านคิดจะลาสิกขา ก็จะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น บางครั้งอยู่เฉยๆ เพียงแต่คิดว่า จะลากสิกขา ปวดครั้นเนื้อครั้นตัวอย่างหนักไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ไม่ได้ไปทำงานหนักอะไร ท่านเล่าวว่า เวลาที่คิดจะลาสิกขา ทุกครั้งที่เป็นอย่างนี้ และนับครั้งไม่ถ้วน ในคืนหนึ่งได้มีเทวดาตนเดิมมาเข้าฝันว่า ชีวิตของท่านเหมาะกับการบวชตลอดชีวิตเพราะเคยสั่งสมบารมีมาในสายนี้ ส่วนอาการปวดของท่านนั้นเกิดจากกรรมเก่า หลังจากนั้นท่านก็คิดว่า สังสัยชีวิตนี้ถูกลิขิตไว้ให้ดำรงชีวิตในผ้ากาสาวพัสดุ์จนวันตายแน่แท้ จึงได้ตัดสินใจ เดินทางไปศึกษาวิชาต่อที่วัดในจังหวัดพังงานอีก ๑ พรรษา (ส่วนตรงนี้ท่านเริ่มเลือนๆว่า ๑ หรือ ๒ พรรษา ) เมื่อท่านไปอยู่ที่พังงา มีผู้หญิงสวยมาชอบท่าน มานิมนต์ให้ท่านลาสิกขาแล้วไปอยู่ด้วย ท่านได้ปฏิเสธว่า เรามุ่งเข้าสู่ทางธรรมแล้ว ไม่อยากหันหลังกลับสู่เพศชาวบ้านอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ละความเพียร พยายามให้ท่านลาสิกขาให้ได้ หลวงพ่อท่านมุ่งมั่นที่จะศึกษาธรรมแบบแตกหัก ไม่โอดครวญและอาลัยในชีวิตเพราะรู้ว่าชีวิตนี้ต้องตายในผ้าเหลือง พอสิ้นพรรษาแล้ว ท่านรีบกลับมา อำเภอกะเปอร์ ระนอง
เมื่อกลับมากะเปอร์ ชาวบ้านทราบข่าว ศรัทธาในการปฏิบัติของท่าน มีคนนิมนต์ให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสที่วัดบางปรุ วัดเชี่ยวเหลี่ยง และวัดบ้านนา แต่ท่านปฏิเสธ ท่านแกล้งพูดว่า " เราไม่เก่ง ไม่รู้อะไร ไม่มีความรู้ ไม่เป็นอะไรสักอย่าง ดูแลไม่ได้หรอก" ( ที่จริงท่านเป็นพระที่เก่งนะครับ มีความสามารถ ท่านชอบพูดแบบนี้ตลอดเพื่อหลีกเลี่ยง ) การเป็นสมภารนั้นมีภาระเยอะ จะทำให้ห่างจากการปฎิบัติ และต้องดูคนร้อยพ่อพันแม่ จนสุดท้ายจะไม่ได้ปฏิบัติธรรม ท่านเจริญสมาธิและวิปัสสนา จนจิตปล่อยวางไม่ยึดมั่นถือมั่น ในลาภสักการะและตำแหน่งใดๆ ท่านพูดว่า "สาระสำคัญของพระ คือ การปฏิบัติเพื่อละ ไม่ใช่อยู่เพื่อมี " ท่านไม่รับตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น ล่าสุดมีคนนิมนต์ท่่านไปวัดต่างๆ ท่านก็ได้ยืนยันคำเดิมว่า " เป็นพระต้องรู้จักละ เธอจะเอาเราไปยึดติดในกองทุกข์ที่ชาวโลกเขาวิ่งหาอีกเหรอ อย่างนั้นเราก็ไม่ต่างจากชาวบ้านที่ห่มผ้าเหลืองสิ เราขอตายด้วยธรรม จากไปพร้อมธรรม ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งใดๆ มีชื่อเสียงใดๆ ขอจากไปแบบเงียบๆ เพราะตอนเรามาก็มาเงียบๆ ตำแหน่งเรายิ่งใหญ่อยู่แล้ว คือ ลูกพระพุทธเจ้า มีอะไรใหญ่กว่านี้ไหม ?"

โดยคุณ รามาสู (0)  [พฤ. 18 ก.พ. 2559 - 15:10 น.] #3721232 (4/6)


(N)
ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น
เรื่องน้ำมนต์ของท่านศักดิ์นักแล เคยมีคนปลอดภัยจากอุบัติเหตุมากมาย ค้าขายขึ้น
สายสิญจน์เสกที่ท่านรัดให้มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องแคล้วคลาด
เคยมีเด็กจมน้ำ ก่อนตายระลึกถึงหลวงปู่สมนึก สามารถรอดปาฎิหาริย์ และเด็กคนนั้นก็บวชกับท่าน หลังจากนั้นไม่นาน
ในเรื่องวาจาสิทธิ์นั้นเยอะมาก ยกตัวอย่าง เรื่องพระลาสิกขา ท่านบอกว่า อย่าลาไปเลย เพราะจะตาย และลำบากมาก
เรื่องค้าขายที่ดิน ขายเท่าไรก็ขอไม่ออก มีคนเอาให้ท่านช่วยอธิฐานจิตให้ ปรากฏว่า ไม่นาน ก็ขายออกอย่างไม่มีการต่อรองราคา
เรื่องคุณตง ทำงานเป็นโบรกเกอร์ยางพารา ที่ไปกราบหลวงปู่บอกว่า ในภาย ๗ วันกับศิษย์ว่า โยมท่านนี่จะกลับมาภายใน ๗ วัน
เรื่องคนใส่ร้ายท่าน ก็มีอันเป็นไปอย่างไม่ดีสักคน ฯลฯ

โดยคุณ รามาสู (0)  [พฤ. 18 ก.พ. 2559 - 19:04 น.] #3721277 (5/6)


(N)
ท่านที่สนใจรูปภาพสามารถลงชื่อรับได้ครับ

https://www.facebook.com/679988745449643/photos/a.680449148736936.1073741832.679988745449643/922700977845084/?type=3&theater
-----ได้ทั้งสองเพจครับ
https://www.facebook.com/714753165327212/photos/a.714777008658161.1073741828.714753165327212/729147183887810/?type=3&theater

โดยคุณ AnUpOnG (1.1K)  [ส. 20 ก.พ. 2559 - 14:00 น.] #3721655 (6/6)

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1