(N)
หลวงปู่เขียน ปุญญกาโม
ก่อนบวช ท่านเป็นวัยรุ่นคะนอง เดินข้ามความตายมานักต่อนัก ตอนเป็นนักเลงบางขุนพรหม ในขณะนั้นครูดีที่เป็นฆราวาสจอมขมังเวท 2 ท่าน สายพราหมณ์เก่าสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านจอมพล ป. พิบูลสงคราม สอนวิชาอาคมต่างๆ และสักยันต์ให้ คือ "ครูทองลือ" และ "ครูปลั่ง" ทำให้ท่านเก่งและกล้า เป็นนักเลงไม่กลัวใคร มีเรื่องกับขาใหญ่จนตำรวจขอร้อง
ต่อมาเริ่มเบื่อในชีวิตฆราวาส หันมาสนใจทางธรรม เข้าบวช มี พระครูสุจิตตานุวัตร วัดผักแว่น เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งสืบวิชาชั้นสูงจากพระอุปัชฌาย์วันดี วัดผักแว่น ศิษย์ในสาย ญาครูขี้หอม และสมเด็จลุน นครจำปาสัก พระมหาดำรงค์ วัดใต้ยางขี้นก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประทีปธรรมโสภณ วัดเหนือยางขี้นก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "ปุญญกาโม"
หลังจากบวชแล้ว ท่านก็สนใจศึกษาเล่าเรียนทางธรรม ครั้งหนึ่งได้เข้าไปกราบเรียนวิชากับ ท่านเจ้าคุณนรรัตราชมานิจ ซึ่งท่านเจ้าคุณนรฯ ได้สอนเน้นกรรมฐานเพื่อเป็นพื้นฐานยกจิตให้สูง ให้พ้นโลกเหนือโลก จากนั้นได้กลับไปจำพรรษาที่บ้านเกิด จ.อุบลราชธานี แล้วไปเรียนวิชากับหมอธรรม ซึ่งท่านเป็นพระรูปเดียวที่สืบทอดวิชาสาย สมเด็จลุน นครจำปาสัก และญาท่านกรรมฐานพระครูธรรมบาล (เผย) มุ่งปฏิบัติธรรมอย่างอุกฤษฏ์มานานและออกบำเพ็ญเพียรในป่าเข้าไปในประเทศลาว เขมร พม่า จนได้สมณศักดิ์ "พระครูสถิตปุญญานุวัฒน์"
หลวงปู่เขียน เป็นพระที่สมถะเรียบง่าย ชอบแสวงหาความสงบวิเวก มีเจตนาแน่วแน่ แรงกล้า ตลอดเวลาท่านตั้งใจจักสร้างศาลาไว้ให้ญาติโยมปฏิบัติธรรม ด้วยการบอกบุญเชิญชวนลูกศิษย์ลูกหาและท่านผู้มีบุญมาร่วมสร้างบารมี การสร้างวิหารทาน เป็นทานวิเศษ ปัจจุบันหลวงปู่เขียนจำพรรษาอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมตำบลยางขี้นก (ป่าช้าบ้านโพนสิม) ต.ยางขี้นก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี |