(N)
ปฏิปทาหลวงปู่สมนึก วาจาสิทธิ์ ตอน บิณฑบาตเป็นวัตร
ในสมัยที่หลวงปู่สมนึก ขาท่านยังมีเรี่ยวแรงท่านจะเดินบิณบาต ตลอด ถึงแม้จะป่วย หรือฝนตกขนาดไหน ท่านก็ไม่หยุดบิณฑบาต มีลูกศิษย์นิมนต์ท่านให้หยุดบิณฑบาตในวันที่ฝนตก จะหุงข้าวและทำอาหารถวาย เพราะกลัวท่านป่วย ท่านก็ไม่หยุด เพราะท่านได้กล่าวว่า คนรอเรามีอยู่ แม้แต้คนเดียวเขาก็รอ จะให้เรานั่งรออยู่ไม่ได้ บางครั้งท่านกลับมามีไข้มาด้วย เพราะท่านเป็นหวัดได้ง่าย และชาวบ้านพอทราบ ก็ได้มาใส่บาตรที่วัด ท่านก็ได้กล่าวว่า อยู่ที่บ้านละดีแล้ว เพราะเป็นหน้าที่ของพระ ที่จะต้องโปรดชาวบ้านเป็นลำดับบ้าน
ซึ่งระเบียบข้อนี้อยู่ในธุดงค์วัตร คือ พระสงฆ์นั้น ต้องบิณฑบาต เป็นลำดับ โดยไม่เลือกที่จะรับ ไม่ใช่เห็นคนรวยแล้วจะเลือกเอาแต่คนรวย กับคนจนก็เดินผ่าน และไม่หยุดนั่งรับที่ใดที่หนึ่ง ต้องเดินเป็นลำดับบ้านโดยไม่เลือกคนจน คนรวย
มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านบิณฑบาต ปรากฎว่า น้ำขังบนถนนเป็นแอ่งเล็กๆ ท่านหยุดพิจารณา เห็นมดตกอยู่ในน้ำ แล้วท่านหาใบไม้แห้งเขี่ยวมดขึ้นจากน้ำ หลายคนที่พบเห็นท่านในวันนั้น ต่างปลื้มใจเล่ากันถึงความเมตตาของท่าน
ศิษย์ : หลวงปู่ทำไมต้องเอาใบไม้แห้งมาเขี่ยหมดด้วย ทำไมไม่ดึกยอดไม้จากบริเวณนั้นก็ได้
หลวงปู่สมนึก : การพรากของเขียวนั้นเป็นอาบัติ พระวินัยห้ามไว้
แสดงให้เห็นว่า หลวงปู่ท่านสำรวมและรักษาวินัยอย่างดียิ่ง
เมื่อได้อาหารบิณฑบาตมาแล้ว ท่านก็จะนำไปรวมกับพระรูปอื่นๆ เพื่อเป็นการแบ่งปันกัน และไม่ยึดติดในอาหารที่คนถวายมาว่า เป็นของเรา ก่อนฉันท่านก็จะพิจารณาอาหารก่อน ด้วยบทว่า ปฎิสังขา โย นิโส ฯ หลังจากฉันเสร็จ ท่านก็จะให้พรคนที่ถวายมา ทุกครั้งถึงแม้จะไม่มีใคร ท่านก็จะให้พร เป็นเรื่องปกติ อาหารที่เหลือจากเศษๆ ท่านก็จะโยนให้ปลา ให้หมา แมว ไก่ ส่วนอาหารเหลือ ก็เป็นหน้าที่ของเด็กวัด และถึงเวลาที่เด็กวัดทานกันเรียบร้อย ท่านก็จะมอบให้กับพม่า ซึ่งเป็นผู้ใช้แรงงาน ท่านกล่าวว่า พม่าก็คน ไทยก็คน ยิ่งเขามาอยู่ต่างถิ่น เราควรต้องเมตตาต่อเขา
-----------
จะเห็นได้ว่า หลวงปู่ท่านยึดมั่นใจศีล ในธรรม ปฏิบัติตนตามคำสั่งสอนพระพุทธเจ้า |