(N)
ณ เวลานี้ หากจะกล่าวว่า ไม่มีใคร ไม่เคยได้ยินชื่อ พระพริ้ง หรือ หลวงปู่พริ้ง แห่ง วัดซับชมพู่ ก้คงเป็นไปได้ แต่แอดมินเชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่ทราบประวัติของหลวงปู่ เรามาชมประวัติของท่านไปพร้อมๆกันครับ^^
✅หลวงปู่พริ้ง ขันติพโล หรือหลวงปู่พ่อเฒ่าพริ้ง ฉายา เทวดาหลังเขา เกจิอาจารย์ดังแห่งวัดซับชมพู่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เป็นศิษย์พุทธาคมสายตรงของหลวงพ่อเดิม พุทธสโร วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ และหลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ วัดช้างเผือก จ.เพชรบูรณ์
👉🏻
ปัจจุบันท่านอายุ 89 ปี เป็นคนนครสรรค์โดยกำเนิด บ้านเกิดคือ บ้านสามัคคีธรรม หมู่ ๑๐ ต.ห้วยร่วม อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ซึ่งอยู่ติดกับวัดหลวงพ่อเดิม (วัดหนองโพ) และหลวงพ่อเดิมเป็นผู้ตั้งชื่อให้ครอบครัวท่าน ๓ คน คือ ๑.พริ้ง ศรสุรินทร์ ๒.กิ่ง ศรสุรินทร์ ๓.เจริญ ศรสุรินทร์ บิดาของท่านชื่อ แบน ศรสุรินทร์ เป็นกำนันตำบลห้วยร่วม
👉🏻
หลวงปู่พริ้งบวชเป็นสามเณรกับหลวงพ่อเดิม และอยู่ปรนนิบัติรับใช้ พร้อมกับได้ศึกษาธรรมะและเรียนทางโลกไปด้วย ทั้งนี้ หลวงพ่อเดิมเคยพูดฝากไว้ว่า ...คุณพริ้ง ฉันบวชให้แล้วอย่าสึกนะ ถ้าจะสึก ก็ให้กลับมาบวชใหม่ ตอนมีแรง ให้ทำความเพียรไว้ให้มากๆ ท่านต้องช่วยคนตอนแก่นะ ข้างบนเขากำหนดไว้อย่างนั้น..
👉🏻
หลังจบชั้นป.๔ ท่านได้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนประจำจังหวัดนครสวรรค์ (ชาย) จนจบชั้น ม.ศ.๕ ก็ถูกทางราชการเรียกตัวไปเป็นครูสอนหนังสือเพราะท่านเรียนเก่งมาก เนื่องจากสมัยนั้นประเทศขาดแคลนครูเป็นอย่างมาก ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประเทศชาติอยู่นานหลายปี แต่มีความเบื่อหน่ายทางโลก เพราะทางธรรมฝังอยู่ในสายเลือดแล้ว จึงได้กลับมาบวชใหม่อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ โดยมีหลวงพ่ออ๋อย สุวรรณโณ (พระครูนิกรปทุมรักษ์) วัดหนองกลับ (วัดหนองบัว) อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบวชแล้วได้เดินธุดงค์แสวงหาความสงบวิเวกไปเรื่อย ได้พบพระอริยสงฆ์ พระอาจารย์หลายองค์ โดยได้อยู่ศึกษาธรรมและศึกษาพุทธาคมพระคาถาอาคม พร้อมกัน จนในที่สุดท้ายคือ หลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก (วัดชนแดน) และหลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร โดยมีหลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน เป็นสหายธรรม
👉🏻
หลวงปู่พริ้ง ได้ออกธุดงค์จนพบสถานที่เงียบสงบวิเวกจริงๆ (บริเวณที่เป็นวัดในปัจจุบัน) จึงอธิษฐานจิตปักกลดถาวร ว่า หากบุญบารมีที่ได้สะสมไว้มีจริง ขอให้สร้างสถานที่นี้เป็นวัดได้สำเร็จ หลังจากนั้นท่านได้เริ่มปรับปรุงพื้นที่ จากกลดก็สร้างเป็นกระต็อบเล็กๆ จนมีข่าวแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ว่า มีพระธุดงค์กำลังสร้างวัดขึ้น ชาวบ้านจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาความตั้งใจของหลวงปู่พริ้ง จึงร่วมแรงร่วมใจกับท่านช่วยกันปรับปรุงพื้นที่จนสร้างเป็นวัดสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยตั้งชื่อว่า วัดซับชมพู่
👉🏻ทั้งนี้หลวงพ่อพริ้ง พูดถึงหลวงพ่อเดิม ยอดพระอาจารย์เหนือหัวว่า "ฉันเห็นกับตานะ หลวงพ่อเดิมท่านนี่ เอาเท้าจุ่มน้ำคราม วางบนกองผ้าขาวหลายพับหลายผืน ท่านหลับตาเอามือตบเข่าฉาดเดียว !!! ผ้าทุกผืน มีรอยเท้าท่านติดชัดหมด ยอมท่านเลยล่ะ
👉🏻ส่วนหลวงพ่อทบนี่ ฉันไปหาท่านตั้งแต่ท่านยังไม่ดัง ไม่มีคนรู้จัก ตอนตาท่านเสีย ท่านให้ตำหมากให้เป็นประจำ ท่านถามฉันว่า กล้ากินขี้หมากที่ท่านคายออกจากปากไหม ฉันบอกกล้าซีคุณพ่อ ท่านหัวเราะชอบใจ คายให้กินเดี๋ยวนั้น พอฉันกินหน้าตาเฉย ท่านบอกว่า คุณรู้ไหม ชานหมากผมนี่ วิชาทั้งนั้นเลยนะ นอนภาวนามาทั้งคืน นึกอธิษฐานเอาว่า จะให้ใครดีวิชานี้ ก็มาจำเพาะได้ที่คุณ กินขี้หมากผมให้ได้สัก ๓ วัน ๗ วัน ร่างจะเป็นทิพย์ จิตจะเป็นแก้ว เก่งไม่แพ้ใครแล้ว
👉🏻หลวงปู่พริ้ง ท่านชอบเลี้ยงเด็ก มีเด็กลูกหลานชาวบ้านที่ยากจนที่ท่านส่งเสียเลี้ยงดูให้การศึกษาอยู่เกือบ ๔๐ คน บางคนได้เป็นใหญ่เป็นโต มีอาชีพการงานที่มั่นคง เป็นคนดีของสังคมไปก็มาก ความข้อนี้ทราบถึงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดให้หลวงปู่พริ้งเข้าเฝ้าฯ และประทานพระราชทรัพย์ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กๆ เหล่านี้
ที่มาฉายา เทวดาหลังเขา
👉🏻แม้ปัจจุบันหลวงปู่พริ้งมีอายุมากถึง 89 ปี แต่ยังคงปฏิบัติธุดงควัตรอยู่ตลอดไม่มีเว้น ดำรงตนสมถะ ออกรับญาติโยมที่เดินทางมาขอพรอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งนี้ มีเรื่องเล่าจากแม่ย่าบ้านท่าด้วงถึงที่มาฉายา เทวดาหลังเขา ว่า เมื่อครั้งที่ชาวบ้านเดือดร้อนเกิดวิกฤติ ฝนไม่ตก ภัยแล้ง ดำเนินทุกวิถีทางทั้งราชการและพิธีกรรมก็ไม่เป็นผล ยังประสบภัยแล้งอยู่ ชาวบ้านทราบเรื่องมีพระอภิญญาสูงมาปักกลดอยู่หลังเขาบ้านซับชมพู่ จึงพากันมาขอพึ่งบารมีพระธุดงค์หลังเขา หลังจากมากราบบอกเรื่องราวแก่พระธุดงค์ แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า เออจริงๆ ด้วยวะ ฝนแล้ง แล้วก็ร้อนด้วย ลมก็ไม่พัดเลย เทวดาจ๋า ขอฝนหน่อยซิ น้ำอาบจะหมดตุ่มแล้ว พระเจ้าไม่มีน้ำอาบ น้ำฉันเลย
👉🏻ตกกลางคืนคืนนั้นเอง เกิดลมพัดแรง เมฆฝนตั้งเค้าไม่นานฝนตกมากลางดึก ถึงเกือบตี ๓ รุ่งเช้า ชาวไร่ ชาวนา หน้าบาน มีน้ำพอสูบเข้านาเข้าไร่ เรื่องนี้ มีคนไปกราบท่านตอนหลัง แล้วเรียนถามท่านว่า หลวงปู่เก่งจัง เรียกฝนให้ตกได้ด้วย ท่านตอบว่า ฉันจะไปเรียกฝนได้ไง ฉันไม่ใช่เทวดานิ ที่ฝนตกมานี่สงสัยเทวดาสงสารพระแก่ จะไม่มีน้ำอาบละม้างนะ นี่คือที่มา เทวดาหลังเขา
👉🏻หลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน เคยบอกกับลูกศิษย์ว่า หากปู่ไม่อยู่แล้ว ให้ไปเป็นศิษย์เรียนกับตาเฒ่าพริ้งเขานะ เขามีบารมีมาก มีเทวดาเป็นพวกเยอะ วิชาอาคม เขาก็ได้สารพัด อีกหน่อย เพชรบูรณ์บ้านเรา ก็จะมีตาเฒ่าพริ้งนี้แหละ เป็นเสาหลัก
👉🏻ทุกวันนี้หลวงปู่พริ้งยังเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน เดือนร้อนอะไร ก็มาขอให้ช่วยสารพัดจะขอ ท่านก็ทำให้ได้สารพัดเหมือนกัน สมดังคำหลวงพ่อเดิม พูดฝากไว้ว่า
✅..คุณพริ้ง ฉันบวชให้แล้วอย่าสึกนะ ถ้าจะสึก ก็ให้กลับมาบวชใหม่ ตอนมีแรง ให้ทำความเพียรไว้ให้มากๆ ท่านต้องช่วยคนตอนแก่นะ ข้างบนเขากำหนดไว้อย่างนั้น..✅
✅✨วัตถุมงคลประเภทเหรียญ : เหรียญรุ่นแรก รุ่น เจริญพร เป็นการจัดสร้างเหรียญครั้งแรกของหลวงปู่ หลวงปู่ได้ประกาศออกมาหลังปลุกเสกเสร็จว่า "พระรุ่นนี้ เป็นเหรียญรุ่นแรกของฉัน ฉันอัญเชิญครูบาอาจารย์ทุกองค์ (พ่อเดิม พ่อทบ พ่อเขียน) ท่านมาช่วยฉันเสกด้วย พระชุดนี้ นำไปใช้เกิดผลสำเร็จแน่นอน ปัจจุบันเหรียญรุ่นแรก เป็นที่เสาะหาต้องการอย่างมากเนื่องจากจำหน่ายบูชาหมดตั้งแต่เสร็จสิ้นพิธี✨✅
+++วัตถุมงคลของหลวงปู่มีทั้งประเภทเหรียญ และ เครื่องรางของขลัง+++ท่านใดขึ้นไปกราบหลวงปู่ที่วัดลองบูชากลับมาใช้นะครับ ของดีทั้งนั้น^^ |