(N)
ขอเล่าเรื่องเก่าๆให้ฟังหน่อยครับโดยส่วนตัวผมไม่ได้รู้จักกันเแต่อย่างใดตามแต่ข่าวเพราะอยู่ในวงการพระเครื่องด้วยกัน
ตอนที่พี่แกติดคุกตั้งหลายปีชื่อเสียงก็ตกไปหมด
ตอนแกออกจากคุกก็พยายามจัดสร้างพระกริ่งอีกหลายรุ่นก็ไม่เดินพระไม่เป็นที่นิยมควรจะเป็นอุธาหรณ์ของคนสร้างที่ยังเหลืออยู่
เรื่องก็มีเพียงแต่ว่าผมมีหลวงพ่อพระอาจารย์เก่าแก่แถวบางเชือกหนังเสมือนพ่อองค์นีงเป็นที่นับถือของวัดแถวเขตฝั่งธนและถนนจรัล
วันนีงขณะนั่งสนทนาท่านก็หยิบจดหมายเป็นรูปองค์กรในฃองมีแผ่นทองสามแผ่นสำหรับจารอธิปฐานจิตเป็นมวลสารปลุกทำพระเครื่องอะไรสักอย่างไม่ได้ระบุแจ้งไว้
ด้วยพระอาจารย์ท่านมีเมตตาสูงแก่คนทั่วไปท่านก็ทำให้แล้วก็ฝากผมไปส่ง ปณ กลับไป
ไม่ช้าไม่นานสักเดือนกว่าก็มีกล่องพัสดุมาส่งให้หลวงพ่อของผมแกะออกมาดูก็พบว่าเป็นพระสมเด็จเหนือหัวของเสี่ยอู๊ดนั่นเองหนี่งกล่อง100องค์พอดี
ผมก็เลยถีงบางอ้อว่าแผ่นจารที่เราทำส่งไปก็คือส่งไปให้เสี่ยอู๊ดทำพระกริ่งสักรุ่นนั่นเอง
ด้วยความอยากรู้อาจารย์ก็ให้ตรวจสอบพระเหนือหัวขอบอกไว้ก่อนว่าสมัยตอนออกพระแพงมากพันกว่าสองพันเลยไม่เคยเห็นมาก่อนส่องดูแล้วก็บอกว่าอาจารย์พระปูนด้านๆใส่สี
ไม่ค่อยสวยเลยปูนผสมสีอย่างงั้นๆแต่ด้วยเป็นคนมีของ
พอจับพระดูแล้วก็อี้งว่าหลวงพ่อทำไมพระแรงจังยังกับจับหลวงปู่ทวดแรงน้องๆอาจารยฺทิมเลย
ทำให้ทัศนะไม่ดีต่อเสี่ยอู๊ดก็เปลี่ยนไปตอนได้ข่าวว่าไปกินยาฆ่าตัวตายที่พิษณุโลกเหลือเงินติดตัวไม่กี่พันบาทก็อนิจจัง
พอทราบว่าพระกริ่งที่ขายไม่ออกก็เขียนพินัยกรรมยกให้ รพ บอกข่าวประชาชนว่าไปทำบุญให้ รพ เชียงใหม่ตั้งหลายสิบล้าน
ทำบุญสองสามพันได้พระกริ่งเสี่ยอู๊ดก็อนุโมทนาและเสียใจไปกับเสี่ยด้วย
เรื่องก็มีเท่านี้แหละครับหวังว่าจะเป็นอุธาหรณ์สำหรับนักสร้างพระที่เกินเลยไปครับ | 
[ส. 26 พ.ย. 2559 - 22:03 น.]