(N)
หลวงปู่โสฬส ยโสธโร กับการสร้างวัตถุมงคล
หลวงปู่โสฬส ยโสธโร หรือ พระครูธำรงโพธิเขต มงคลนาม หมายถึงตัวเลขมงคล คือ ๑๖ ในทางการศึกษาตำรับ ตำรา พระคัมภีร์โบราณ พระอรรถกถาได้รจนาผูกขึ้นเป็นหนึ่งตำราทางศาสตร์วิชาการที่ต้องศึกษาเรียนรู้ ได้แก่ ตำราโสฬสมงคลหากเป็นในเรื่องสูตรองค์ยันต์นั้น องค์ยันยันต์ตรีนิสิงเห ๓ ชั้น หรือ องยันต์โสฬส เป็นองค์ยันต์ที่มีวิธีเรียกสูตรลงพระอักขระแทนคุณด้วยตัวเลข ๑ ถึง ตัวเลข ๑๖ ดังนี้
ตัวเลข ๑ แทนพระอักขระ เอกะยักขา มิ
ตัวเลข ๒ แทนพระอักขระ ทะเวราชา พุทโธ หรือ ทะเวเทวา พุทโธ
ตัวเลข ๓ แทนพระอักขระ ตรีนิสิเห มะอะอุ หรือตรีนิสิงเห อิสวาสุ สุสวาอิ
ตัวเลข ๔ แทนพระอักขระ จัตตุโร นะ มะพะทะ จะภะกะสะ
ตัวเลข ๕ แทนพระอักขระ ปัญจะวิสะณุกัญเจวะ ทีมะสังอังขุปัญจะอินทรานะเมวะจะ อาปามะจุปะ ปัญจะพุทธา นะมามิหัง นะโมพุทธายะ
ตัวเลข ๖ แทนพระอักขระ ฉะราชา อะระหัง สุคะโต
ตัวเลข ๗ แทนพระอักขระ สัตตะนาเคสะธะวิปิปะสะอุ
ตัวเลข ๘ แทนพระอักขระ สัตตะนาเคสะธะวิปิปะสะอุ
ตัวเลข ๙ แทนพระอักขระ นะวะโลกุตตะระ ธัมมะตา อะสังวิสุโลปุสะพุภะ
ตัวเลข ๑๐ แทนพระอักขระ ทะสะมังปารมีเมวะจะ เตชะสุเนมะ ภูจะมาวิเว
ตัวเลข ๑๑ แทนพระอักขระ เอกาทะสะวิษณุราชา
ตัวเลข ๑๒ แทนพระอักขระปาฏิหารัญจะ ทะวาทะสะ
ตัวเลข ๑๓ แทนพระอักขระ เตรัสสะ ธุตังคาจะ
ตัวเลข ๑๔ แทนพระอักขระ จุททัสสะจักกะวิตติจะ
ตัวเลข ๑๕ แทนพระอักขระ จุททัสสะ จักกะวิตติจะ
ตัวเลข ๑๖ แทนพระอักขระ โสฬสสะมังคะลัญเจวะ
หากถอดออกมาเป็น พระคาถาโสฬสมงคล (มงคล ๑๖ ประการ) เพื่อใช้เสกกำกับทำน้ำพระพุทธมนต์เพื่ออาบสะเดาะเคราะห์ปัดเสนียดจัญไร หมดทุกข์โศก หายจากโรคร้าย ดังนี้ โสฬสสะมังคะลัญเจวะนะระโลกุตตะระธัมมา จัตตาโรจะมะหาทีปาปัญจะพุทธามะหามุนี เตปิฎะกาธัมมัขันธาฉะกามาวะจะราเทวา ปัญจะทะสะภะเวตัพพัง ทะสะมังสีละเมวะจะ เตระสะธุตังตานิ ปาฏิหาริยัญจะ ทัวาทะสะ เอกะ เมรุสุราอัฏฐะ ทะเวจันโทสุริโยตะถา สัตตาสัมโพชฌังคาเจวะ จะตุททะสะจัก กะวัตติจะเอการะสะวิสะนุราชา สัพเพ เทวา มังปาละ ยันตุ ฯ
การสร้างวัตถุมงคลของ หลางปู่โสฬสยโสธโร จึงเป็นมหามงคลนามดังที่กล่าวถึงนัยความหมายที่แอบแฝงซ้อนเร้นไว้ด้วยคุณวิเศษที่มีอยู่ในตัวเองนั้นย่อมบ่งชี้ชัดถึงพระอนุภาพที่สถิตอยู่ในมงคลรุ่นต่างๆ ที่มีการจัดสร้างขึ้นมาอย่างเป็นทางการด้วยขึ้นค่าที่น่าศึกษาเรียนรู้ ต่อไปในวันข้างหน้าจัดขึ้นเป็น วัตถุมงคลที่เล่าหาเก็บสะสมกันแบบมาตรฐานสากลนิยม ด้วยปัจจัยเกื้อหนุนที่ จังหวัดปราจีนบุรี นั้นค่อนข้างจะขาดแครนพระเกจิคณาจารย์ ที่จะมาประดับไว้เป็นเกียรติยศในวงการพระเครื่องนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นับเนื่องได้ไม่อีกองค์เท่านั้น
กระแสความนิยมที่ได้รับนั้น สำหรับพระเกจิคณาจารย์ จังหวัดปราจีนบุรี ค่อนข้างจะน้อยยิ่งนัก ไม่มีความเคลื่อนไหวเท่าไรนัก แตกต่างจากจังหวัดที่อยู่ชิดติดกันและ จังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกัน พระเกจิคณาจารย์ ในยุคเก่านั้นก็หา พระเคริ่งพระบูชา วัตถุมงคล ที่จะเข้ามาเคลื่อนไหวเป็นแรงขับเคลื่อน หรือ แรงกระตุ้นสร้างสีสันแรงจูงใจให้เกิดความนิยมศรัทธากันแต่อย่างไรหากจะถามว่าเป็นเพราะอะไรนั้นก็คงจะตอบได้ยากอยู่เหมือนกันว่า เกิดจากสาเหตุอะไรแต่ที่เห็นเด่นชัด คือ จำนวน พระเครื่องพระบูชา วัตถุมงคลที่มีออกมาหมุนเวียนกันในวงการพระเครื่อง นั้นออกจะหาได้ยากมากทีเดียว และ เหตุผลที่สำคัญ คือ สื่อสารมวลชนไม่อาจที่จะช่วยเหลือประชาสัมพันธ์อะไรได้เลยด้วยขาดปัจจัยสนับสนุนหลายอย่าง
หลวงปู่โสฬส ยโสธโร ได้จัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ซึ่งเป็นการสร้างแบบไม่เป็นทางการ เช่นตะกรุดมหาระงับ ตะกรุดตันน้อย ตะกรุดตันใหญ่ผ้ายันต์เกราะเพชร ( จารมือ ) ผ้าประเจียดลูกอม สี่ผึ้ง เหรียญรุ่นต่างๆ เป็นต้น แต่เป็นการสร้างที่ไม่เป็นทางการแบบมรวาระพิเศษ และ มีรูปแบบที่ไม่เป็นมาตรฐานนิยมคือ ไม่สามารถระบุได้อย่างเด่นชัดว่าใช่ หรือ ไม่ใช่ เป็นการเล่นหาเก็บสะสมเฉพาะในกลุ่มลูกศิษย์เท่านั้น หากจะนับที่เป็นแบบมาตรฐานสากลนิยมแล้ว ต้องนับการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นใน ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ถึงแม้อายุการจัดสร้างขึ้นเพียง ๘ ปี และ ได้มีการจัดสร้างต่อเนื่องมาจนถึงรุ่นสุดท้ายใน ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งในวงการพระเครื่อง จัดว่าเป็น พระใหม่ แต้ต้องยอมรับว่ามีการจดบันทึกจัดทำรายละเอียดในการจัดสร้างไว้อย่างสมบูรณ์ สามารถใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงได้อย่างถูกต้องครบถ้วน มิต้องมาถกเถียงกันในภายหลังว่ามีการจัดสร้างขึ้นจริงหรือไม่รุ่นนี้จัดสร้างไว้ทันหรือไม่ทัน เป็นต้น
เรื่องสำคัญประการหนึ่ง คือ การจัดทำหรือจัดเก็บการบันทึกภาพในงานพุทธาภิเษก ที่สมัยนี้มีมีวิทยาการสมัยใหม่เข้ามาช่วยเหลืองานพุทธาภิเษกของ พระเกจิคณาจารย์ ถือว่าเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การเก็บบันทึกไว้เป็นอย่างยิ่งเพราะต่อไปในวันข้างหน้าภาพบันทึกเหล่านี้จะใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงให้พิสูจน์ได้ว่า พระเกจิคณาจารย์องค์ไหนบ้างที่มาร่วมพิธีพุทธาภิเษก ที่รองลงมา คือ ท่านผู้มีเกียรติท่านใดบ้างที่มาร่วมเป็นสักขีพยานบุคคล ณ วันนี้บ้าง เป็นเรื่องที่โต้เถียงกันไม่ได้ หรืออยากรู้อะไรดูที่รูปถ่ายเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าเท็จ จริงประการใด
การประกอบพิธี ในการปลุกเสก หรือประกอบพิธีพุทธาภิเษก ถูกต้องตามแบบอย่างที่กำหนดไว้ตามศาสตร์สายวิชาหรือไม่ถูกต้องพิธีการที่ปฏิบัติกันมาแต่โบรานหรือไม่ เป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาให้เห็นแด่นชัด ด้วยมีแบบแผนธรรมเนียมปฏิบัติที่สามารถศึกษาเรียนรู้สืบต่อกันมาทั้งตามธรรมเนียมปฏิบัติแบบพิธีทางพระพุทธศาสนา หรือ ศาสนพิธี ซึ่งเป็นเรื่องที่พระเกจิคณาจารย์ จะต้องศึกษาเรียนรู้กันมาอย่างต่อเนื่องทั้งการกำหนดฤกษ์ยามมหามงคลทั้งที่เป็นฤกษ์ล่าง ฤกษ์กลาง ฤกษ์บน เพื่อให้วัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นมานั้นคงความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังทางด้านกฤตยาคม กฤตยาคุณ แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ดอกบัว ๗ สี โดยที่จะเลือกใช้สีใดสีหนึ่งก็ได้ เพื่อนำใช้ลงพระอักขระ หัวใจพระคาถาแม่บท แม่ธาตุเสกกำกับทำ น้ำพระพุทธมนต์ดอกบัวบานซึ่งเป็นสูตรโบรานที่เรียกกันว่าสูตรสัตตะบงกช หรือ ดอกบัว ๗ ชนิด ได้แก่ บัวหลวง ๑ บัวขาบ ๑ บัวเขียว ๑ บัวขาว ๑ บัวผัน ๑ บัวเผื่อน ๑ บัวแดง ๑ บัวเหล่านี้มีความหมายมาแต่ครั้งเริ่มต้นก่อนการประกาศพระพุทธศาสนา ด้วยองค์ พระบรมศาสดา พระพุทธชินสีห์ ทรงพิจราณาเปรียบเทียบระดับสติปัญญาของมนุษยนิกรเป็น บัว ๔ เหล่า ที่ผิดแผดแตกต่างกัน ดังนี้
๑. อุคฆฏิตัญญู ผู้ที่รู้ และเข้าใจได้โดยฉับพลัน คือ บัวพ้นน้ำจักบานเมื่อยามอรุณรุ่ง
๒. วิปจิตัญญู ผู้ที่รู้ เข้าใจได้โดยการขยายความแบพิสดาร คือ บัวปลิ่มน้ำ รอวันเวลาที่จักโผล่พ้นน้ำ
๓. เนยยะ ผู้ที่พอจะแนะนำให้เข้าใจได้และ ต้องฝึกฝนอบรมอย่างหนัก คือ บัวใต้น้ำรอคอยวันเวลาที่เนินนานวันกว่าที่จะโผล่ขึ้นเหนือน้ำ
๔. ปทปมะ ผู้ที่ไม่สามารถแนะนำได้เลย คือ บัวใต้โคลนตม คอยแต่เพียงจะเป็นอาหารของเต่า ของปลา เท่านั้นไม่มีวันที่จะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำได้เลย
นอกเหนือจาก บัวทั้ง ๗ ข้างต้นหากสามารถบัวอื่นๆ ที่ชื่อเป็นมงคล ได้แก่ บัวฉลองขวัญ บัวกาญจนเทพ บัวนิล เข้ามาประกอบร่วมด้วยจะดียิ่ง สูตรการลบผงวิเศษสัตตะบงกชมีที่มาอย่างไรเป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันอย่างละเอียดแต่ครั้งนี้ยกพระคาถาที่ให้กับการเสกกำกับลบผงให้ใช้บริกรรมภาวนาเป็นเป็นมงคลอย่างยิ่ง ดังนี้ มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี ปาณีนังสะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง ฯ
คำแปล นางฟ้า คือ พระไตรปิฎกอันเกิดจากดอกอุบล คือ พระโอษฐ์ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดา ผู้พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่มปรีดาปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ ปฏิบัติตามได้ ในพระไตรปิฎกทั้งโลกียะ และโลกุตตระธรรมนั้น เทอญ ฯ
อธิบายแต่โดยย่อในเรื่องผงวิเศษสัตตะบงกช ด้วยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เป็นไปในทางปัญญาบารมี ความรอบรู้แตกฉานทั้งอรรถ และ พยัญชนะในพระไตรปิฏก แต่แฝงไว้ด้วยความเป็นสิริมงคลวัฒนะ เจริญด้วยลาภ ยศ ความสุข สรรเสริญกิจการหน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง มหาโชค ลาภเป็นอย่างยิ่ง กล่าวกันว่า ผงวิเศษสตตะบงกชเป็นสายวิชาของ สมเด็จพระวันรัต ( แดงสีลวฑฒโน ) วัดสุทัศนเทพวราราม อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ความพิสดารในสายวิชาในการเสกกำกับทำ น้ำพระพุทธมนต์ ดอกบัวบาน ดังนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโตสัมมา สัมพุทธัสสะ ฯ ( ๓ จบ ) พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ( ทุติยัมปิ ) พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
( ทุตอยัมปิ ) พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
( ตะติยัมปิ ) พุทธัม สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
พระคาถาอิติปิโส ฯ ดอกบัวบานอิติปิโส ภะคะวา มะอะอุ มะ ทุกขัง กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา ฯ
อิติปิโสภะคะวาอุมะอะ อุ อนัตตา ทุกขาธัมมา อทุกขาธัมมา ฯ สวาสุนามรูปังทุกขา สวาสุนามรูปังอนิจจัง สวาสุนามรูปัง อนัตตาอะระหังสัมมาสัมพุทโธ ติวาคะภะโธพุท
อานุภาพ ใช้เสกกำกับทำน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกป้องกันสารพัดเคราะห์ สารพัดโศก สารพัดภัย สารพัดเสนียดจัญไร ที่จะจะมากล้ำกลายทำลายพิธีอุปเท่ห์นั้น ท่านใดที่นำดอกบัวที่ลงพระอักขระแม่บท แม่ธาตุองค์ยันต์ใส่ในน้ำพระพุทธมนต์ ใช้เทียนขี้ผึ้งหนักอย่างเดียวหนักเล่มล่ะ ๑ บาท นั่งบริกรรมด้วยพระคาถานี้ในเวลากลางคืนระหว่างเวลา ๑๑.๐๐ นาฬิกา
หากเสกกำกับทำน้ำพระพุทธมนต์ เผื่อทำน้ำพระพุทธมนต์สำหรับอาบเป็นสิริมงคลชำระล้างทุกโศกโรคภัยไถ่ถอนคุณคนคุณไสย ไสยต่ำ มนต์ดำแก้คดีความแก้ข้อกล่าวหา อุปเทห์นั้นท่านใดนำดอกบัวใส่ในน้ำพระพุทธมนต์ ๕ ดอก ควรใช้ภาชนะรองรับน้ำพระพุทธมนต์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น ตุ่มขนาดใหญ่ ใช่เทียนขี้ผึ้งหนักอย่างเดียวหนัก เล่มละ ๑ บาท นั่งบริกรรมด้วยพระคาถานี้ในเลาลากลางคืน หรือ ภาวนา ๑๐๘ คาบก็ได้แต่ระวังย่างให้ผิด หากผิดต้องขึ้นต้นนับกันใหม่ เมื่อเสร็จสิ้นพิธี เวลาใกล้รุ่งอรุณพระอาทิตย์เริ่มทอแสงแรกของวันใหม่ให้อาบเพื่อความเป็นสิริมงคลนักแล ให้ภาวนาจนกล่าวจะอาบเสร็จ ดังนี้
โสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ ฯ
ดอกบัวพุทธาภิเษก สัตตะบงกช หรือดอกบัว ๗ สี ๗ กลิ่น ๗ เหล่า ที่ใช้ในการประกอบพิธีพิธาภิเษก สัตตะบงกชนี้ยังสามารถนำสูตรมาจัดสร้างเป็นเนื้อหามวลสารส่วนผสมที่มีพระพุทธานุภาพได้อย่างวิเศษสุด สามารถนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลที่เรียกว่าผงวิเศษสัตตะบงกชโดยการนำดอกบัวที่ใช้ประกอบพิธีพุทราภิเษกมาตากแดดรับพลังจากสุริยะประภา และ จันทร์ประภา แล้วจึงบดเป็นผงผสมกับดินสอพองปั้นเป็นแท่งดินสอสำหรับนำมาเรียกสูตรลงพระอักขระ ลงสูตรลบผงวิเศษสัตตะบงกช เพื่อนำมาเป็นเนื้อหามวลสารส่วนผสมจัดสร้างเป็นวัตถุมงคล
ในการเรียกสูตรลงบนอักขระ ลงสูตรลบผงวิเศษสัตตะบงกช หลวงปู่โสฬส ยโสธโร จัดสร้างขึ้นเพียงครั้งเดียวก่อนวาระการล่วงลับดับขันธ์ เพื่อคงไว้เป็นมรดกมงคลวัตถุให้น้อมรำลึกถึงกัน เป็นของดีของวิเศษเพื่อยังเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานเหมือนกีบประทุมมานบานแย้มคลี่กลีบเกสรเมื่อยามรับแสงอรุณรุ่งของวันใหม่ ครึ่งถึงเวลาเย็นย่ำค่ำลงแล้วปทุมมาลย่อมหุบดอกซ่อนกลีบเลี้ยงเกสรเพื่อรอรับวันรุ่งพรุ่งนี้เช้าต่อไปเหมือนกับเป็นมงคลแห่งชีวิตที่ได้มีมงคลวัตถุไว้ติดกาย คุ้มครองตัว เพื่อประกอบหน้าที่การงานนั้นเราหากรู้ได้ว่า ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงเพียรทำการร่วมกันนั้นจะเป็นมิตรแท้เป็นมิตรแท้ที่จริงใจ หรือมวลหมู่ศัตรูที่แอบแฝงซ้อนเร้น ซ่อนดาบไว้ในรอยยิ้ม ซ่อนมีดไว้ด้านหลัง
ด้วยอานุภาพ ผงวิเศษ สัตตะบงกช หลวงปู่โสฬส ยโสธโร นั้นสามารถป้องกันภัยจากสิ่งที่ไม่เห็นรอบข้างกาย แต่สิ่งที่ปกกันได้ยากยิ่ง คือจิตใจที่คิดร้ายคิดอิจฉาริษญา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง หลวงปู่โสฬส ยโสธโร จึงได้พร่ำบอกพร่ำสอนให้รู้จักแผ่เมตรตาไว้สม่ำเสมอแผ่ให้ไปทั่วทั้ง ๑๐ ทิศ นอกจากอนุภาพชองวัตถุมงคลที่คุ้มครองป้องกันภัยแล้วการแผ่เมตรตาไว้สม่ำเสมอก็จะเป็นเกาะเพชรเกล็ดแก้วที่ส่องประกายทำร้ายประสาทสายตาผู้ที่จะมาคิดร้าย ปองร้ายได้
พระปิดตารวยทันใจ พิมพ์ขี่ไก่ เนื้อผงสัตตะบงกช หลังยันเกราะเพชร หากสนใจใคร่เป็นเจ้าของ คงต้องสืบเสาะหากันเองตามศูนย์พระเครื่อง หรือ วันโคกอูทองก็น่าจะพอมีเหลืออยู่บ้างเพราะเป็นวัตถุมงคลที่สร้างเป็นรุ่นสุดท้ายของ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร หรือ อาจจะคงเหลือเนื้อผงเก่าเนื้อผงวิเศษผสมใบลาน เนื้อดิน ก็สามรถพอที่จะทดแทนกันได้เพียงแต่ต้องเจริญพระคาถาเสกกำกับไว้ทุกเช้าเย็นเป็นอนิสงค์แห่งภาวนามัย คือ บุญกุศลทั้งหลายสำเร็จได้ด้วยการภาวนา
นอกเหนือจากวัตถุมงคลที่หลวงปู่โสฬส ยโสธโร ได้ทิ้งไว้ให้เหล่าศิษยานุศิษทั้งหลายไว้ใช้ติดตัวรวมถึงพระคาถาบทต่างๆที่มีอนุภาพดียิ่ง สามารถนำไปใช้เษกกำกับได้ด้วยตนเองแล้วอมตะธรรมที่หลวงปู่โสฬส ยโสธโร ได้เมตรตาสั่งสอนแสดงไว้ตามแต่โอกาสที่สมควรบางคนก็เข้าใจบางคนก็มือบอด บางคนก็หนักข้อถูกโลภะครอบงำอย่างไม่รู้ตัว ตกเป็นทาสของมารหลุมหลงงมงายในสิ่งที่มิชอบ ของตน ละโมบโลภมากในของผู้อื่นที่ได้สร้างประโยชน์แก่วัดวาอารามยึดติดในความคิดเห็นที่ผิดจากสัมมาทิฏธิไปเสียแล้วบันได้สวรรค์มิได้เคยคิดที่สร้างขึ้น เพื่อที่จะได้ใช้ก้าวเดินเมื่อล่วงถึงมรรกรรมแต่หุบเหวนรกไม่มีขั้นบันไดไว้ในปีนป่ายลงไป ก็ยังดิ้นรนหาทางลงไปจนได้
หลวงปู่โสฬส ยโสธโร ได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี่ พ.ศ. ๒๕๔๘ วัตถุประสงศ์เพื่อหาทุนในการก่อสร้างซุ้มประตูทางเข้าวัดโคกอู่ทองด้านหน้าและด้านหลังเพื่อกำหนดเขตที่ชัดเจนของแนวเขตวัดโคกอู่ทองเพื่อความสวยงามเป็นเขตพระพุทธสถานจากการออนุญาติให้จัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งที่ทำให้องการพระเครื่องที่จำกัดวงใน พระใหม่ ได้ทราบถึงคุณวิเศษของหลวงปู่โสฬส ยโสธโร เป็นการเปิดตัวพระเกจิ สายวิชาพระพุทธคุณแห่งภาคตะวันออก พระดีศรีประจันคามหลังจากที่ถูกลืมเลือนหายไปทางการเวลาไม่ได้รับความสนใจหรือนิยมจากผู้นิยมสะสมพระเครื่องเป็นเวลาหลายสอบปีแล้ว
วัตถุมงคล ที่จัดสร้างหากได้ศึกษาในราบละเอียดแบบเจาะลึกจะทำให้ทราบว่ามีการสร้างในแต่ละรุ่นแต่ละพิมพ์มีจำนวนไม่มากบางอย่างบางรุ่นอาจจะมีมากเพียงแค่หลักพันเท่านั้น จึงมีความหน้าสนใจที่จะหาเก็บสะสมเพื่ออนาคตวันข้างหน้าจึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามผ่านไปได้และด้วยประสบการที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นในพระพุทธคุณครบทุกด้านทั้งทางด้านคงกะพันชาตีที่เด่นชัด ทั้งทางด้านแคล้วคลาดปลอดภัยจากอัตรายอย่างไม่น่าเชื่อ และทางด้านเมตตามหาเสห่น์ ซึ่งนี้เกิดกับบุคคลหมู่มากมักจะบอกเล่าเรื่องราวอภินิหาร เรื่องราวความเข็มขลังศักดิ์สิทธิ์ในวัตถุมงคลรุ่นต่างๆที่ได้ประสบพบเจอด้วยตนเองแบบปากต่อปากจึงก่อกระแสความเชื่อ และความศรัทธาให้เกิดขึ้นต่อ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร แต่สิ่งหนึ่งที่ควรจะทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อนคือวัตถุมงคลแบบเดียวกันพิมพ์เดียวกันเนื้อเดียวกันคนละคนที่นำไปใช้ติดตัวประสบการที่ได้รับนั้นอาจจะเหมือนกันก็ได้หรือไม่เหมือนกันก็ได้ทั้งนี้ย่อมมีเหตุปัจจัยที่มาเกื้อหนุนพาให้เกิดประสบการณที่แตกต่างคือบุญที่เคยสร้างและกรรมที่ได้ทำมาแต่อดีตชาติที่มักคุ้นเคยเรียกว่า วาสนา คำในไทยอาจมีความหมายที่เป็นมงคลแต่ในบาลีมีในความหมายที่ตรงกันข้ามอาจจะหมายถึงนิสัยเก่าดั้งเดิมที่ได้ติดตัวมา หรือนิสัยที่ค้างมาเรียกอย่างไม่สุภาพคือสันดารเถื่อน สันดานดิบที่ไม่ได้ปรุงแต่งในทางประสงค์ผู้ที่มีอุปนิสัยดั้งเดิมที่น้อมนำทำมาทางกุศลที่เป็นคนดีย่อมได้เกิดมาใกล้ชิดติดขอบพระพุทธศาสนามีความพากเพียรพยายามที่จะทำกุศลเพื่อสร้างสมอุปนิสัยเพื่อการอย่างรู้แจ้งแทงตลอดเจริญจิตวันเพ็ญความเพียรเข้าถึงพระไตรได้เร็วขึ้น วิบากกรรมหรือผลของกรรมที่ได้เคยร่วมกระทำไว้ย่อมตามมาแบบห่างๆเมื่อถึงคร่าวจังหวะชะตาชีวิตลิขิตตัว วัตถุมงคลพระเครื่องเครื่องรางของขลังย่อมแสดงอนุภาคต้านทานแรงปะทะแห่งกรรมในส่วนหนึ่งเท่านั้นอีกส่วนหนึ่งอยู่ที่กุศลผลบุญที่ได้กระทำไว้ดีแล้วในชาตินี้รับผลักดันเป็นต้นไป
กรรมและวิบากจึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ทีจะได้รับอนุภคแห่งวัตถุมงคลพระเครื่อง เครื่องรางของคลังเป็นเรื่องที่ยากแก่คำอธิบายใดๆทั้งสิ้นที่จะทำให้เกิดความเข้าใจได้ตรงตามพระไตรปิฏกด้วยค่อยข้างจะเป็นความเชื่อที่ค้านขัดกันกับพระพุทธวจนะขององสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระชินสีห์ พระบรมไตยโลกนาทเพราะด้วยเรื่องแห่งกรรมและวิบากกรรมนี้เป็นเรื่องที่มีทั้งกุศลกรรมและอกุศลเป็นตัวล่อเลี้ยงในตัวเองกล่าวคือผู้ที่ประสบแต่กรรมที่ดีล่อเลี้ยงให้ดำรงคงอยู่เสวยวิบากกรรมที่ทำไว้เมื่อไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สามารถแคล้วคราดปลอดภัยจากภัยอันตรายนั้นมาได้ด้วยอำนาจบารมีแห่งวัตถุมงคลที่ตนนั้นนับถือการบูชาติดตัวและประฎิบัติตนตั้งมั่นในข้อห้ามต่างๆที่ครูบาอาจารย์กำหนดไว้ขึ้นก็เป็นไปตามข้อศีลข้อธรรมนั้นเองจึงต่างจากผู้ได้รับภัยอันตรายทุกข์โศกทุกข์เวทนาด้วยเป็นผู้ที่มีความคิดเห็นที่ผิดจากศาสนาไม่เคยไหว้พระสวดมนต์ให้เข้าสู่ไม่เคยเจริญจิตภาวนาคำว่าพุทโธเจริญจิตเมตรธรรมไม่เคยถือศีลประฏิบัติธรรมตั้งอยู่บนความประมาทไม่เคยลำลึกถึงสติแต่อย่างได้จึงมิได้สร้างเกราะคุ้มครองตนเองไว้ก่อนล่วงหน้าที่จะประสบณ์อันเลวร้ายเมื่อถึงเวลานั้นสติกลับไม่สามารถระลึกนึกถึงคุณแห่งพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า
กรรม และ วิบากกรรม ที่เกิดขึ้นได้นั้นเป็นเพราะตัดกิเลส นัยความหมายทางพระพุทธศาสนา คือ วัฏฏสงสาร หรือ ผลภูมิในการเวียนว่ายตายเกิดนั้นเอง แล้วมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับวัตถุมงคลที่พากันเล่นหาเก็บสะสมความเชื่อ ด้วยความศรัทธา ด้วยการแสวงหามาเป็นทรัพย์สิน แปลงมูลค่าได้ คนเราหายึดเหนี่ยวจิตใจ ถึงจะเป็นวัตถุมงคลตามความเชื่อของพระพุทธศาสนาย่อมดีเลิศกว่าผู้ที่ไปเที่ยวเสาะหาเอาอัปมงคลชั่วร้ายมาเป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
สึ่งหนึ่งที่ควรทราบไว้สำหรับท่านผู้นิยมสะสมพระเครื่องทั้งหลายการที่เล่นหาเก็บสะสมวัตถุมงคลพระเครื่องเครื่องรางของคลังนั้นนั้นหมายความว่าท่านทั้งหลายได้ตั้งสัจจะอธิฐานขอถึงซึ่งบารมีแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเป็นสารหะที่พึ่งสูงสุดในชีวิตเป็นการประกาศตนพุทธสาวกพระพุทธองค์จึงเป็นการตั้งความภพภูมิเดี๋ยวกันกับพุทธสาวกภูมิและพระพุทธเจ้าภูมิจึงเป็นไปในความศรัทธาบารมีที่ตั้งมั่นดำรงน้อมนำไปในทางพระอภิยาญาติพระปัญญาญาติโดยที่ไม่รู้สึกตัวแต่ในเบื้องสุดท้ายของการเวลาสร้างสมบารมีเพียงพอดีแล้วย่อมเข้าสู่พระนิพานนั้นเอง
หากมีใครคนใดคนหนึ่งมาตราหน้าท่านว่าเป็นผู้ที่หลงใหลงมงายกับสิ่งที่หาแก่นสารสาระไม่เป็นประโยชน์อันใดแก่ชีวิตได้เลยมัวแต่มานั่งเก็บก้อนหินก้อนกราวที่นำมาพิมพ์ปั้มเป็นองค์พระ องค์หลวงพ่อ องค์หลวงปู่ ที่ต่างก็ล่วงลับดับหายไปจากโลกนี้แล้วทั้งสิ้น เหตุใดจึงไม่ใช้ชีวิตให้สนุกสนานเพลิดเพลินเจริญใจตามวัยของแต่ละบุคคลท่านไม่ควรไปถือโทษโกรธเคืองผู้นั้นจมปักในอวิชชาคือความมือบอดสิ่งที่ควรกระทำในขณะนั้นการเจริญทำแผ่เมตราให้แก่ผู้นั้นเป็น(ที่น่าสงสารสมเพชเวทนาเป็นอย่างยิ่งด้วยผู้นั้นจะเป็นผู้ที่จมลงสู่ก้นเหวนรกและกว่าจะเข้าถึงพระนิพานนั้นได้อย่างเร็วอีกกว่าสื่อสงไขยแสนมหากลับเป็นระยะเวลาที่นานมากแต่ะมากขนาดไหนต้องศึกษาเรียนรู้ในวัตถุมงคลของหลวงปู่โสฬส ยโสธโรจึงเป็นไปในทางกุศลที่ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งที่เป็นสัญลักษ์การสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาจึงได้รวบรวมจัดทำเป็นธรรมเนียมรุ่นไว้แต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ จนถึงรุ่นสุดท้าย พ.ศ. ๒๕๕๕ ดังนี้
๑.รุ่นโสฬสมหามงคลปี พ.ศ. ๒๕๔๘
๒.รุ่นกฐินทานปี พ.ศ. ๒๕๔๘
๓.รุ่น เศรษฐี ๕ พลังปี พ.ศ. ๒๕๔๙
๔.รุ่นสรงน้ำ ปีพ.ศ. ๒๕๔๙
๕.เหมือนปั๊มรุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๔๙
๖.รุ่นโสฬสมหามงคล ปี พ.ศ.๒๕๕๐
๗.รุ่นโสฬสมหามงคล ปี พ.ศ.๒๕๕๑
๘.รุ่นโสฬสมหามงคลไตรมาส ๕๒ ปี พ.ศ.๒๕๕๒
๙.รุ่นเสาร์ ๕ มหาเศรษฐี ปี พ.ศ.๒๕๕๓
๑๐.รุ่นโสฬสมหามงคล ๘ รอบ ๙๖ ปี พ.ศ.๒๕๕๓
๑๑.รุ่นเจริญลาภ ปี พ.ศ.๒๕๕๔
๑๒.รุ่นเจริญพรเสาร์ ๕ ปี พ.ศ.๒๕๕๔
๑๓.รุ่นสมปรารถนา ปี พ.ศ.๒๕๕๔
๑๔.รุ่นจักรพรรดิ ปี พ.ศ.๒๕๕๕
๑๕.รุ่งสรงน้ำ ๕๕ ปี พ.ศ.๒๕๕๕
๑๖.รุ่นรวยทันใจปี พ.ศ.๒๕๕๕
หลวงปู่โสฬส ยโสธโร อธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยววัตถุมงคลรุ่นรวยทันใจทุกรายการทีจัดสร้าง เมื่อวันอังคารที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๕
รายละเอียดในการจัดสร้าง
เหรียญ ปั้มนั่งพาน หลังยันเกราะเพชร เป็นเหรียญปั้ม มีห่วงหูเหรียญในตัวขนาดเหรียญกว้างประมาณ ๒๕ มิลลิเมตร ความสูง รวมหูห่วงเหรียญ ๔๓ มิลลิเมตร ด้านหน้ายกขอบเป็นซุ้มกนกพญานาคขาสิงห์ ขมวดหางตรงกลางใกล้ห่วงหูเหรียญปรากฏองค์พระพุทธพื้นเหรียญปรากฏสัญลักษณ์พระพุทธศาสนา เสมาธรรมจักรด้านหลังพื้นเหรียญเรียบ ถอดแบบล้อพิมพ์ลักษณะ เหรียญนั่งพานที่ได้รับความนิยมในวงการพระเครื่อง
ในความหมายที่ปรากฏในเหรียญปั้มนั่งพานหลังยันเกราะเพชร พญานาคเกี๊ยว หรือ ลายนาคขนด โค้งไปตามขอบเหรียญ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเรื่องราวที่มีในพระพุทธประวัติว่า พญานาค ผู้ที่มีจิตใจเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทะศาสนาปรารถนาแสวงหาพระสัจจะธรรม คือ ความหลุดพ้นจากวัฏฏสังสารวัตร จึงจำแลงแปลงกายเป็นมานพหนุ่ม เพื่อมาขออุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ แต่เมื่ออยู่ร่วมกันกับภิกษุสงฆ์รูปอื่นแล้ว ปรากฏว่าความแตกถูกจับได้ว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานปลอมตัวมาบวชผิดกฎข้อห้ามแห่งพุทธบัญญัติ แต่ด้วยความศรัทธาที่ตั้งมั่นดีแล้ว พระพุทธเจ้า ทรงรับในคำกล่าวขอถึงความเป็นที่ระลึก คือ ให้เรียกขานผู้ที่จะอุปสมบท ในพระพุทธศาสนานั้นว่า นาค และยังปรากฏสัญลักษณ์ของพญานาค ที่เชิงบันไดขึ้นลงพระเจดีย์ หรือพระอุโบสถ ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ก็เป็นตัวแทนที่หมายถึงพญานาค
เสมาธรรมจักร คือ กงล้อแห่งวัฏฏสังสารวัฏอันหมุนเวียนวนรอบเป็นปริศนาแห่งธรรมในหลายเรื่องทั้งกงกรรมกงเกวียนกฏแห่งกรรม ทั้งการเวียนว่ายตายเกิดปฏิจจสมุปบาท ๑๒ หมายถึง การที่พระพุทธศาสนาจพเริญกาลมาถึง ๒,๖๐๐ ปี ในกงล้อ ย่อมปรากฏลูกศร หมายถึง การประหัตประหารเผาผลาญกิเลส ตัณหา กรรม วิบากกรรม ดังนี้แล
ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางปรากฏเป็นรูปสมมุติ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร อยู่ในอาการนั่งสำรวมสมาธิบนพานรองฐานสูงปรากฏรู)สมมุติ พระแม่โพสพ และนางกวัก ส่วนล่างที่เป็นแท่นฐานรองรับเหรียญ มีอักษรภาษาไทย อ่านได้ว่า อายุ ๙๘ ปี พรรษาที่ ๗๗
ด้านหลังเหรียญ ตรงกลางปรากฏเป็นองค์ยันต์เกราะเพชร ใต้องค์มีอักษรภาษาไทย ๒ บรรทัด อ่านได้ว่า วัดโคก อู่ทอง และ ๒๕๕๕
รายละเอียดในการจัดสร้าง เหรียญนั่งพาน รุ่นแรก หลังยันต์เกราะเพชร ดังนี้
๑.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้อทองคำ จำนวนสร้าง ๑๖ เหรียญ
๒.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้อเงินหน้ากากทองคำ ซุ้มทองคำ จำนวนสร้าง ๒๙ เหรียญ
๓.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้อเงินลงยา จำนวนสร้าง ๒๙ เหรียญ
๔.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้อเงินลงยา จำนวนสร้าง ๓๙๙ เหรียญ
๕.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้อเงิน จำนวนสร้าง ๑๑๖ เหรียญ
๖.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้อนวะโลหะ หน้ากากเงิน ซุ้มเงินเงิน จำนวนสร้าง ๓๙๙ เหรียญ
๗.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้อนวะโลหะ จำนวนสร้าง ๕๙๙ เหรียญ
๘.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้อตะกั่วหน้ากากทองฝาบาตร ซุ้มทองแดง จำนวนสร้าง ๙๙๙ เหรียญ
๙.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้อตะกั่วหน้ากากทองฝาบาตร จำนวนสร้าง ๙๙๙ เหรียญ
๑๐.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้ออัลปาก้า จำนวนสร้าง ๙๙๙ เหรียญ
๑๑.เหรียญนั่งพาน หลังยันต์เกราะเพชรเนื้อทองแดง จำนวนสร้าง ๒,๙๙๙ เหรียญ
หมายเหตุ มีการตอกโค้ด และ หมายเลขกำกับทุกรายการ
พระปิดตารวยทันใจ พิมพ์ขี่ไก่หลังยันต์เกราะเพชร พระพุทธลักษณะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเป็นการประยุกต์พิมพ์ตามนิยมทางความเชื่อทาด้านโชคลาภพิมพ์ทรงคล้ายกันกับ พระพิมพ์ พระปัจเจกพุทธเจ้าโปรดสัตว์ หลวงพ่อปาน โสนนโท วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นองค์บูรพาจารย์องค์ยันต์เกราะเพชรเมืองกรุ่งเก่า ด้วยเหตุผลนี้จึงจัดสร้างให้เกิดข้อแตกต่างกัน คือด้านหน้าใช้เป็นองค์พระภควัมปจิ หรือพระปิดตา ขัดสมาธิ เพชรประทับบนฐานบัวเม็ด ด้านหลังได้นำ องค์ยันต์เกราะเพชร ตำรับ หลวงปู่เส็. พุทธปาลิโต วัดศรีประจันตคาม มาประทับไว้
เนื้อหามวลสารส่วนผสมต่างๆนั้นได้นำผงวิเศษทั้ง ๗ พระคัมภีร์ ตามตำรับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ผงวิเศษแก้วมณีธาตุ ๗ ดวง ตำรับหลวงปู่ศุข เกสโร วัดปากคลองมะขามเฒ่าผงวิเศษสัตตะบงกช สุนทร์วาณีและผงพระกรุเก่าต่างๆ ที่ชำรุดแตกหักเสียหายบดผสม ลงไปจำนวนมาก สำหรับพระปิดตา เนื้อผงใบลานนั้นได้นำพระคัมภีร์ใบลานจาร พระอักขระธรรมอีสาร พระอักขระขอม ที่ชำรุดเสียหายมาบัดพลีเผาเอาเถ้าผงมาเป็นส่วนผสม และ ยังมีผงกะลาหาอุตม์ กะลาตาเดียว ผงไม้พญางิ้วดำจมน้ำ ดินกากยายักษ์ พระปิดตา เนื้อดินเผา จัดสร้างจาเนื้อดินปฐมธาตุ ดินจาดสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ดินศักดิ์สิทธิ์ในกลางเมือง ๗๗ จังหวัด ดินใจกลางพระอุโบสถ ดินจากศาลหลักเมืองทั่วประเทศ ดินอรุณแรกรุ่นเกาะยอ จังหวัดสงขลา ดินมหาภูตรูปปฐวีธาตุ ปฐวีกสิณ และ พระปิดตา ทุกองค์โรยด้วยผงตรพไบพระกริ่งโสฬสมหามงคล รุ่นแรก ผสมรวมอยู่ด้วย
นัยความ หมาย พระปิดตา ปรากฏพระพุทธคุณดีเด่นทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์ มหาชนคนทั่วไปรักใคร่นิยม ไก่หางพวง คือ ความอุดมสมบูรณ์ในการทำมาหากินเก่งเหมือนไก่ มรเสน่ห์ดี ทางเจ้าชู้ องค์ยันต์เกราะเพชรมีอานุภาพในการป้องกันคุ้มครองจากภัยอันตรายทั้งปวง ปกปักษ์รักษามิให้คุณไสยคุณคน ไสยต่ำ มนต์ดำ เดรัจฉานวิชา มากล้ำกราย แก้ทางเสน่ห์เล่ห์กลยาแฝด น้ำมันผีน้ำมันพ ราย มิให้มาต้องกายา เมือนำอานุภาพแห่งนัยความหมายทั้งหมด ๓ มารวมเข้าไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว จึงดีเด่นแบบครองจักรวาลหมื่นโลกธาตุ
รายละเอียดในการจัดสร้าง พระปิดตารวยมันใจ พิมพ์ขี่ไก่ หลังยันต์ เกราะเพชรดังนี้
๑ พระปิดตา หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงเก่าฝังตะกรุดทองคำ ๙ ดอก+เส้นเกศา+แร่วิเศษ จำนวนสร้าง ๙๙ องค์
๒ พระปิดตา หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงเก่าฝังพระนาคปรกใบมะขาม เนื้อเงินกรรมการ จำนวนสร้าง ๓ องค์
๓ พระปิดตา หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงเก่าฝังพระนาคปรกใบมะขาม เนื้อทองผ่าบาตร กรรมการ จำนวนสร้าง ๙
๔ พระปิดตา หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงเก่าฝังพระนาคปรกใบมะขาม เนื้อทองแดง กรรมการ จำนวนสร้าง ๒๙ องค์
๕ พระปิดตา หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงเก่าฝังพระนาคปรกใบมะขาม เนื้อผงสัตตะบงกชฝังตะกรุดทองคำ ๒ ดอก+เส้นเกศา+แร่วิเศษ จำนวนสร้าง ๓๙๙ องค์
๖ พระปิดตา หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงสตตะบงกชฝังตะกรุดเงิน ๑ ดอก+เส้นเกศา+แร่วิเศษ จำนวนสร้าง ๑,๙๙๙ องค์
๗ พระปิดตา หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงสัตตะบงกชโรยผงตะไบพระกริ่งโสฬสมหามงคล จำนวนสร้าง ๓,๙๙๙ องค์
๘ พระปิดตา หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงใบลานผสมผงเก่าฝังตะกรุดทองคำ ๓ ดอก+เส้นเกศา+แร่วิเศษ จำนวนสร้าง ๓๙๙ องค์
๙ พระปิดตา หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงใบลานผสมผงเก่าฝังตะกรุดเงิน ๓ ดอก+เส้นเกศา+แร่วิเศษ จำนวนสร้าง ๑๙๙๙ องค์
๑๐ พระปิดตา หลังยันต์เกราะเพชร เนื้อผงใบลานผสมผงเก่า โรผงตะไบพระกริ่งโฬสมหามงคล จำนวนสร้าง ๓๙๙๙ องค์
หมายเหตุ รายการที่ ๑-๖ และ๗-๘ยิ่งโค้ด และ หมายเลขกำกับด้วยเลซเซอร์
ตระกรุดมหาระงับ ยาว ๖ นิ้ว จัดสร้างตามตำรับโบนาณสายวิชา สำนักวัดประดู่ทรงธรรม เมืองกรุงเก่า รุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษมีการประกอบพิธีพุทธาภิเษก พร้องกันกับกับวัตถุมงคล รุ่นจักรพรรดิ เมื่อวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ก่อนนำมาม้วนถักเชือกลงรักปิดทองแท้ จำนวนสร้าง ๕๐๐ ดอก ยิงโค้ดและหมายเลขกำกับด้วยเลเซอร์
ตามประวัติ ตะกรุดมหาระงับ และตะกรุดหมาปราบ มรกำเนิดขึ้นพร้อมกันเพื่อนำมาบรรจุลงที่ด้ามดาบแห่ง เจ้าพระยามหากษัตริย์ ในการศึกสงครามทรงมหิธานุภาพในอำนาจบารมีตบะเดชาชัยเป็นที่เกรงขามในสมรภูมิรบ สามารถริบหัวปลิดชีวิตเป็นดาวข่มแห่งเครื่องรางของขลังทุกประเภท พร้อมกันให้อานุภาพในการปกป้องคุ้มครองดังเกราะเพชรเกล็ดแก้วมิให้มีศาสตราวุดใดๆ มาต้องพระวรกาย ย่อมมีชัยเหนืออริราชศัตรูในทุกๆ สนามรบ
กาลต่อมาจึงทรงพระราชทานให้ พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษ ปลุกเสก ตะกรุดมหาปราบ และ ตะกรุดมหาระงับ แจกจ่าย ให้เป็นขวัญและกำลังใจจ่อ ทแกล้วกล้าแม่ทัพนายกอง ขุนทหารในกองทัพ บัญญัติสร้างเป็น เครื่องคาดราชศาสตราลงในพระคัมภีร์ หมาพิชัยยุทธสงคราม เพื่อใช่ในราชการสงครามโดนเฉพาะ เหล่าแม่ทัพนายกอง ขุนทหาร ต่างต้องศึกษาเล่าเรียนตามลำดับชั้นยศ เมื่อครั้งที่ กรุงศรีอยุธยา จะเสียกรุงตำรับ ตำรา ถูกเผาทำลายเสียหายไปบ้าง แต่ตำราของ สำนักวัดประดู่ทรงธรรมชะลอลงเรือใหญ่หนีศึกสงครามพม่าขึ้นไปเก็บรักษาไว้ที่หัวเมืองเหนือพิจิตร ครั้งศึกสงครามสงบจึงได้ชะลอเรือกลับมาปัจจุบันนี้ สายวิชาต่างๆ สืบทอดจากสายวิชาโดย วัดพระญาติการาม
นักเลงตะกรุดเครื่องราง-ของขลังทั้งหลายโดยเฉพาะตะกรุด หรือ ตนะกรุด ย่อมต้องทราบคุณวิเศษขอ ตะกรุด แต่ละสำนัก แต่ละอาจารย์เป็นอย่างดี ดังนั้น จึงไม่ควรพลาดที่จะเล่นหาเก็บสะสม ตะกรุดมหาระงับ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร วัดโคกอู่ทอง อีกหนึ่งสำนักวิชาที่จัดสร้าง ตะกรุด ได้อย่างมีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบันนี้ ขณะนี้ยังพอที่จะหาได้ในราคาไม่แพง แต่ต่อไปในภายภาคหน้าจะหาได้ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร
เบี้ยแก้รวยทันใจลงรักปิดทองคำแท้เป็นที่ทราบกันดีในเรื่อง อานุภาพแห่งเบี้ยแก้ของ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร ว่าอิทธิคุณเป็นอย่างยิ่งในทุกด้าน ผนึกกับสายวิชาธาตุปรอทกายสิทธิ์ ที่หุงให้สัมฤทธิ์ทางจิตยิ่งเป็นสิ่งมงคล
และการเรียนสูตรลงอักขระมหามงคลกำกับเป็นการเฉพาะเจาะจง การสร้างในครั้งนี้ ถือว่าน้อยมากด้วย ปรอทธาตุกายสิทธิ์ ที่จับมาจากธรรมชาตินั้นเริ่มลดน้อยหายเข้าไปในป่าลึกเสียหมดแล้ว จึงจัดสร้างได้เพียงจำนวน ๙๙ ใบ จารยันต์ด้วยหมึกและหมายเลขกำกับ เบี้ยแก้ถักหุ้มเต็มใบ ลงรักปิดทองแท้จารยันต์ด้วยหมึก สร้าง ๑๖ ใบ ๖( กรรมการ )
วัตถุมงคลรุ่น รวยทันใจ ถือเป็นมรดกรุ่นสุดท้ายที่หลวงปู่โสฬส ยโสธโร ได้อธิษฐานจิตปลุกเสกให้เพื่อหาหารายได้สร้างมณฑป ซึ่งเป็นความประสงค์ของท่านทที่ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ซึ่งทุกคนต่างน้อมรับและปฏิบัติตามประสงค์ของ หลลวงปู่โสฬส ยโสธโร ทุกประการ.... |
|
[จ. 05 มี.ค. 2561 - 15:58 น.]