ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : หลวงปู่สรวง ออยเตียนสะรูล บายติ๊กเจี๊ย พระอริยสงฆ์ผู้อยู่เหนือโลก ผู้มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เหลือเชื



(D)
หลวงปู่สรวง อริยสงฆ์ผู้อยู่เหนือโลก

เรื่องราวของหลวงปู่สรวง พระอริยะสงฆ์ผู้พิสดารที่อยู่เหนือกาลเวลา ได้มีผู้เคยถาม หลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ ว่า หลวงปู่รู้จัก หลวงปู่สรวง แห่งท้องทุ่งศรีสะเกษ หรือเปล่าครับ? หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านบอกว่ารู้จัก และรู้จักมานานแล้ว เมื่อ คราวที่หลวงปู่ฤทธิ์ ทำบุญวางศิลาฤกษ์ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ที่วัดชลประทานราชดำริ หลวงปู่สรวงท่านก็มา เวลาท่านมาท่านก็มาของท่านเองไม่รู้ว่าท่านมาเมื่อไหร่ มารู้อีกทีก็เมื่อตอนที่เห็นท่าน เวลาท่านจะไปท่านก็ไปท่านเดินออกไปทางป่าด้านโน้น อยู่ด้านหน้าศาลาเป็นป่ากว้างมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ท่านเดินตรงไปแต่พอมองออกไปจะเห็นฝูงสัตว์เดินตามท่านเป็นพรวนแล้วสักพักท่านก็หายไป หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านยังได้พูดว่า เรื่อง หลวงปู่สรวงพูดไปแล้วก็เหมือนกับนิยาย เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ท่านก็มีตัวตนจริง เมื่อหลายสิบปีก่อน ได้พบเห็นท่านอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เห็นท่านเหมือนเดิม ตัวของหลวงพ่อเองนี่ซิแก่ลงไปทุกวันทุกปีนี่ก็อายุ82 แล้วแต่หลวงปู่สรวงท่านก็อยู่ของท่านอย่างนั้น ส่วนเรื่องอายุของ หลวงปู่สรวงนั้น หลวงปู่ฤทธิ์ท่านก็บอกว่า ท่านไม่รู้เหมือนกันว่าเท่าไหร่?.... สถานที่จำวัด เมื่อตอนที่พบ หลวงปู่สรวงก็คือ กระท่อมเฝ้านากลางท้องทุ่งริมถนนหมู่บ้านละลม-สะเดา ชายแดนด้านเขมร เป็นกระท่อมยกพื้นสูงมุงหลังคาด้วยไม้กระดานเก่าๆ กันลมกันฝนไม่ค่อยได้ ในวันนั้นหลวงปู่สรวงท่านนอนอยู่ในกระท่อม มีชายชราผมขาวนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ ๆ คอยบีบนวดให้หลวงปู่สรวง นอกกระท่อมมีชายหญิงชาวบ้าน 4-5 คนนั่งคุยกันอยู่เป็นชาวบ้านย่านนั้น ข้างฝากระท่อมมีว่าวจุฬาตัวใหญ่เหน็บข้างฝาอยู่ 1 ตัว มีเตาเล็กๆ แลและหม้อหุ้งข้าวเก่าๆวางอยู่ 1 ชุด และก็มีถังใส่น้ำขุ่นๆเข้าใจว่าจะตักมาจากหนองน้ำกลางทุ่งที่อยู่ใกล้ ๆ หน้ากระท่อมหลวงปู่สรวงมีแคร่ไม้ยาว สำหรับนั่ง พวกเราทุกคนเข้าไปกราบท่าน ท่านก็ลุกขึ้นมาแต่ท่านไม่พูดจาอะไร ในปากของท่าน ก็เคี้ยวใบพลูสดอยู่ตลอดเวลา มีพวกผมคนหนึ่งถามท่านว่า หลวงปู่อายุเท่าไรแล้ว ท่านก็ตอบเป็นภาษาส่วย ซึ่งผมเองและเพื่อนที่ไปจากกรุงเทพ ก็ฟังไม่เข้าใจ แต่พรรคพวกที่ศรีสะเกษแปลว่าให้ฟังว่า เรื่องของอดีตลืมไปหมดแล้ว ชื่ออะไรก็จำไม่ได้ เขาเรียกว่าปู่สรวง ก็ปู่สรวง ชื่อเสียงมันก็ไม่ใช่ตัวของเราจะเรียกยังไงก็ได้ ถ้ามาคิดกันอีกแง่นึงก็เหมือนกับว่า ท่านได้สอนธรรมะชั้นสูงให้กับพวกเราให้รู้ว่า ให้มีแต่ปัจจุบันเพราะสิ่งทั้งหลายมันผ่านไปแล้ว มันเป็นเรื่อง สมมุติทั้งนั้น....
ว่าวจุฬาตัวใหญ่ที่เหน็บ ไว้ที่ข้างฝากระต๊อบก็เป็นสิ่งที่สะดุดใจของคณะพวกผม จึงไต่ถาม ชาวบ้านที่มาเฝ้าดูแลท่าน ชาวบ้านบอกว่า หลวงปู่ท่านชอบเล่นว่าว และชอบดูเขาตีไก่ชนกัน ตอนหน้าแล้งชาวบ้านทั่งเด็กและผู้ใหญ่จะไปเล่นว่าวกันที่กลางทุ่ง หลวงปู่สรวงท่านจะนั่งดูยิ้มหัวเราะด้วยความชอบอกชอบใจ บางคนยังเล่าว่า บางครั้งหลวงปู่สรวงท่านหายไปว่าวตัวที่เหน็บอยู่ก็หายไปด้วย เมื่อเห็นว่าเหน็บอยู่ที่กระต๊อบนั่นก็คือหลวงปู่ท่านต้องอยู่ที่กระต๊อบอย่างแน่นอน ผมก็เลยถามว่าเวลาหลวงปู่สรวงท่านออกไปไหนทำไมคนที่เฝ้าอยู่ไม่รู้ ? พวกเขาบอกว่ามาดูแลท่านเฉพาะตอนกลางวัน พอกลางคืนต่างคนก็กลับบ้านในกระต๊อบก็จะมีหลวงปู่สรวงท่านอยู่รูปเดียว เมื่อท่านหายไปไหนจึงไม่มีใครรู้ ชาวบ้านในกลุ่มที่เล่าบางคนถึงกับบอกว่า ท่านบินไปพร้อมกับว่าว ส่วนเรื่องที่ท่านชอบดูเขาตีไก่ชนนั้นก็เป็นเรื่องจริง เพราะมีบ่อยครั้งที่ที่มีการตีไก่จะเห็นหลวงปู่สรวงไปนั่งดูอยู่ด้วย และท่านก็จะหัวเราะชอบใจตบมือตบไม้เชียร์ไก่ก็ยังมี การที่มีผู้คนส่วนใหญ่ไปหาท่านมักจะเป็น เรื่องของตัวเลข เพื่อเอาไปแทงหวย ยิ่งใกล้วันที่หวยออกจะมีรถราหลายสิบคันไปจอดเรียงรายอยู่ใกล้ๆกระต๊อบที่ท่านจำวัด ถ้าใครได้ยินหรือได้ฟังว่าหลวงปู่สรวงทำอะไรออกมาเป็นตัวเลข พวกเขาก็จะคิดกันไปต่างๆนาๆบางคนก็ถูกบางคนก็ไม่ถูก มีคนเล่าให้ฟังว่า คนที่ถูกหวยได้เงินจำนวนมากๆ หลายรายนำเงินสดไปถวายท่าน ท่านก็หยิบขึ้นมาดูแล้วก็โยนเข้ารกเข้าพงไปทั้งปึก คนที่เห็นเหตุการณ์ ก็เข้าไปหาแต่ก็หาไม่พบทั้งๆที่เงินจำนวนไม่ใช่น้อยและบางครั้ง ก็มีผู้นำเงินไปถวายท่าน เวลาที่เขากลับหลวงปู่สรวงท่านก็ขออาศัยรถเขาไปด้วยเมื่อรถแล่นไปตามถนนที่มีผู้คนมากๆหลวงปู่ท่านก็จะเอาเงินที่พวกเขาถวายออกมาโปรยไปตามถนนที่รถวิ่งให้กับผู้คนที่ยากจน นับเป็นที่ร่ำรือและฮือฮากันมาก
สมัยที่มีสงครามช่วงชิงอำนาจของเขมรยังรุ่นแรงอยู่ ก็มีผู้คนอพยพมาตามแนวชายแดนเป็นจำนวนมาก มีคนเล่าว่าหลวงปู่สรวงท่านจะเปลี่ยนเป็นนุ่งขาวห่มขาวออกไปรับผู้ที่อพยพเข้ามาทางชายแดน จุดใดที่ท่านออกไปรับผู้ที่อพยพก็มักจะปลอดภัยจากปืนใหญ่และการติดตามของทหารเขมร บางวันหลวงปู่สรวงท่านก็จะเอาผ้าสีขาวปักเป็นธงไว้ในที่สูงให้เห็นกันอย่างชัดเจน ชาวเขมรที่อพยพก็จะไปอยู่กันตรงที่หลวงปู่ปักธงสีขาวเอาไว้ วันนั้นถ้าจะมีปืนใหญ่ถล่มยิงมาตามแนวชายแดน ผู้คนที่อพยพมาอยู่ตรงที่หลวงปู่สรวงปักผ้าขาวเอาไว้ก็จะปลอดภัยจากลูกกระสุนปืนใหญ่
ภายหลังจากที่สงครามการช่วงชิงอำนาจของเขมรสิ้นสุดลง หลวงปู่สรวงท่านก็พักอยู่ที่กระต๊อบเฝ้านาด้านชายแดนเขมรแถว อำเภอ ขุขันธ์ เวลากลางวันก็มีชาวบ้านแถวนั้นมาคอยดูแลปรนนิบัติรับใช้ท่าน เวลากลางคืนหลวงปู่สรวงก็อยู่ของท่านรูปเดียว บางครั้งท่านก็จะหายไปนานๆ ท่านถึงจะกลับมา เมื่อมีผู้คนเดินทางไปหาท่านเขาก็จะถามร้านตรงที่อยู่ตรงปากทางเข้าบ้านละลม-สะเดา ว่าหลวงปู่อยู่ หรือไม่? ถ้าหลวงปู่สรวงอยู่เขาก็จะบอกว่า ท่านกลับมาแล้วเมื่อคืนนี้ แล้วต่างก็เข้าไปหาท่านที่กระต๊อบเฝ้านา ไม่แห่งใดก็แห่งหนึ่ง ในท้องทุ่งนั้นเคยมีผู้นิมนต์ท่านไปเจิม ร้านวันเปิดร้านทำบุญขึ้นบ้านใหม่ก็มีอย่างปั๊ม ปตท. ปากทางเข้า อำเภอ ขุขันธ์ ที่พวกเราแวะเติมน้ำมันรถและรับประทานอาหารกลางวัน ก็ได้พบรูปหลวงปู่สรวงติดไว้ในร้านทั้งยังมีข้อความใต้ภาพว่า “ หลวงปู่สรวง อายุ 500 ปี จำวัดทั่วจักรวาล” ทางเจ้าของร้านได้นิมนต์หลวงปู่สรวงท่านมาเปิดร้านให้ ปั๊มก็เจริญมาตลอดจนเป็นปั๊มใหญ่ดังที่ได้เห็นอยู่ทุกวันนี้
เรื่องของการเปิดป้ายร้านค้า ชาวบ้านผู้หนึ่งที่ได้เฝ้าดูแลหลวงปู่สรวงอยู่เล่าให้ผมฟังว่า มีร้านค้าเปิดใหม่แถวนั้นได้นิมนต์หลวงปู่สรวงเปิดร้าน พอท่านสวดมนต์และฉันอาหารเสร็จท่านก็เดินออกมาหน้าร้านด้านนอกถลกจีวรยืนฉีที่หน้าร้าน เจ้าของร้านรู้ทันจึงได้เข้าไปเอามือรองฉี่ของท่านสะบัดไปทั่วหน้าร้าน เจ้าของร้านที่เอามือรองฉี่เล่าให้ฟังภายหลังว่าฉี่ของหลวงปู่สรวงแทนที่จะร้อนหรืออุ่นๆ ที่มือฉี่ของท่านกลับเย็นเหมือนน้ำแข้งและเมื่อหวยออกงวดนั้น หมายเลขร้านค้าดังกล่าวตรงกับเลขของหวยที่ออกพอดี หลายคนที่อยู่ในที่นั้นเลยถือโอกาสรวยไปตามๆกัน บางรายได้นิมนต์ท่านสวดมนต์เย็นขึ้นบ้านใหม่ร่วมกับพระสงฆ์ที่มาจากที่อื่น เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้วหลวงปู่สรวง ท่านจะลุกมาที่กลางบ้านนั่งถ่ายหนักอย่างหน้าตาเฉย ส่วนใหญ่เจ้าของบ้านก็จะรู้ทันรีบเอามือละเลงอึของท่านจนทั่วบ้าน เพราะเขารู้กันว่าอึของท่านไม่เหม็นแต่มีกลิ่นหอมคล้ายๆน้ำผึ้ง พฤติกรรมแปลกของหลวงปู่สรวง บางคนที่ไม่รู้ก็หาว่าท่านบ้าๆบอๆบางคนก็เห็นว่าท่านอยู่เหนือโลก บางคนเล่าให้ฟังอีกว่า ถ้าหลวงปู่สรวง ท่านจะไปไหนในเวลากลางวันท่านก็จะขอโดยสารรถไปดื้อๆ และก็ไม่มีรถคันไหนปฏิเสธท่าน ถ้ารถคันใดปฏิเสธท่านไม่ยอมให้ท่านไป รถคันนั้นก็จะขัดข้องเครื่องยนต์ก็จะดับบ้างติดบ้างหรือไม่ก็ยางแตกขับไปไหนไม่ได้ ดังนั้นเวลาท่านต้องการที่จะโดยสารรถคันไหนไปจึงไม่มีใครที่จะกล้าปฏิเสธ บางรายก็บอกว่าเมื่อท่านนั่งรถไปแล้วก็จะให้คนขับๆไปเรื่อยๆ ถ้าท่านให้หยุดส่งท่านตรงไหนท่านก็จะลงตรงนั้นแล้วท่านก็จะเดินหายไปเฉยๆ ไม่มีใครรู้ว่าท่านไปทำอะไรที่ไหน บางคนก็บอกว่าท่านกลับไปจำวัดที่กระต๊อบเฝ้านากลางทุ่งละลม-สะเดา แต่บางครั้งท่านก็จะหายไปนานๆ หลายๆวันแต่ก็ไม่มีใครทราบว่าท่านไปไหน จึงมีบางคนที่ถามท่านว่าท่านไปไหน ท่านก็ไม่ตอบ

วัตถุมงคลของหลวงปู่สรวงทุกชนิด โดดเด่นหลายทางตามคำอธิฐานดังนี้
1. บูชา 1 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ทางเมตตามหานิยม เจ้านายรัก ติดต่อการงานดี
2. บูชา 2 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ด้านโชคลาภ ค้าขาย ขายของดี ขายคล่อง เงินมาไม่ขาดสาย
3. บูชา 3 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ด้านเสี่ยงโชค เล่นการพนัน เสี่ยงดวง หวยล็อตเตอรี่ เห็นผลแน่นอน หากผู้นั้นบูชาด้วยความศรัทธาแน่วแน่
4. เรื่องความปลอดภัยทางรถยนต์ แคล้วคลาด ไม่มีตายโหง
5. ขอได้ดังใจนึกทางด้านค้าขายธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เวลาเดือดร้อนทางการเงิน ให้ทำพิธีบอกกล่าวจุดธูปบอกท่านและอาราธนาขอพรเช้าเย็น 9 จบ ท่านจะช่วยให้เห็นผลได้รับความสำเร็จสมหวังมามากแล้วไม่เชื่อทดลองเถิด
6. คงกระพันชาตรี ไว้ใจได้เห็นอภินิหารบ่อยๆ
7. ป้องกันคุณไสย์ แก้อาถรรพณ์ ป้องกัน ผีสางนางไม้ เจ้าที่เจ้าทางได้
8. เสริมดวง หนุนดวงชะตา
9. ป้องฟ้าผ่า ไฟไหม้ ได้
พระชุดนี้ตกอยู่ที่อาจารย์เสริฐ สำนักสงฆ์ตาโคล และเมื่อครั้งหลวงปู่สรวงมาเยี่ยมอาจารย์เสริฐ
หลวงปู่สรวงได้เมตตาอธิฐานจิตให้อีกหลายครั้ง(หลวงปู่สรวงไม่เสกให้ใครง่ายๆ)
และทางสำนักสงฆ์วัดตาโคลได้จัดงานพุทธาภิเษกใหญ่ตลอด 3 วัน 3 คืน โดยได้นิมนต์พระอาจารย์สายอีสานใต้
ซึ้งเป็นลูกศิษย์สายหลวงปู่สรวงมาปลุกเสกให้อีกเมื่อปี 2540 ท่านอาจารย์เสริฐมีเหตุจำเป็นต้องลาสิขาบท จึงได้นำพระชุดนี้ไปให้พระอาจารย์จ่อย วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว
เมื่อคราวอาจารย์จ่อย ท่านจำพรรษาที่วัดสุทัศน์ ทางพระอาจารยืจ่อยจึงได้นำพระชุดนี้
เข้าเก็บไว้ที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์ตั้งแต่ปี 2540-2550 ตลอดเกือบ 10 ปี ทางวัดสุทัศน์ได้มีพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลต่างๆ
หลายครั้ง รวมแล้วประมาณ 200 กว่าพิธี โดยเฉลี่ยแล้ว 1 ปี มีพิธีพุทธาเษกใหญ่ประมาณ 12 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะมีสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังองค์สำคัญของประเทศ
มาร่วมด้วย รายชื่อพระเกจิอาจารย์ทั่วทุกภาคที่มาร่วมพิธีที่พอจะนับได้มีดังนี้ (เฉพาะที่มีชื่อเสียงที่พอจะรวมรวบได้)
พระเกจิอาจารย์สายอีสาน-เหนือ-ออก-ตก-ใต้
1. หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
2. หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ
3. หลวงปู่นิล
4. หลวงปู่เกลี้ยง
5. หลวงปู่เครื่อง
6. หลวงปู่เจียม
7. หลวงปู่หงษ์
8. หลวงปู่คีย์
9. หลวงปู่ชื่น
10. หลวงปู่อิง
11. หลวงปู่สาย
12. หลวงปู่ฤทธิ์
13. หลวงปู่ผาด
14. หลวงปู่สิงห์
15. หลวงปู่มา
16. หลวงปู่พวง
17. หลวงปู่หมุน
18. หลวงปู่ญาท่านสวน
19. หลวงปู่พุธ
20. หลวงปู่เหรียญ
21. หลวงปู่หลวง
22. หลวงปู่ไพบูลย์
23. หลวงปู่ทิม
24. หลวงพ่อรวย
25. หลวงพ่ออั๊บ
26. หลวงพูล วัดไผ่ล้อม
27. หลวงพ่อตัด
28. หลวงปู่ทอง
29.หลวงปู่ละมัย
30. หลวงปู่เมฆ
31. หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
32. หลวงปู่นอง
33. หลวงพ่อกลั่น
34. หลวงพ่อเขียว
35. หลวงพ่อฉิ้น
36. หลวงพ่อดำ
37. หลวงพ่อกาหลง
38. หลวงพ่อเปิ่น
39. หลวงพ่อไสว
40. หลวงพ่อจืด
41. หลวงพ่อโกย
42. หลวงพ่อรอด
43. หลวงพ่อเงิน
44. หลวงพ่อประสิทธิ์
45. หลวงปู่ดี
46. หลวงพ่ออวยพร
47. ครูบาน้อย
48. ครูบาชัยวงศา
49. ครูบาคำตัน
50. ครูบาคำเขื่อนแก้ว
51. หลวงปู่มี
52. หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย
53. หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ
54. หลวงพ่อหลวง
55. หลวงพ่อชำนาญ
56. หลวงพ่อสุพจน์
57. หลวงปู่พิมพา
58. ครูบากฤษณะ
59. หลวงพ่อหล่ำ
60. หลวงพ่ออ้น
61. หลวงปู่โถม
62. หลวงพ่อแพ วัดพิลทอง
63. หลวงพ่ออั้น จ.อุทัย
64. หลวงปู่กาหลง
และยังพระเกจิย์อาจารย์อีกจำนวนมาก ฯลฯ
(ปลุกเสก 10 ปี รวมแล้วประมาณแสนรูป และพระเณรวัดสุทัศน์ 200 รูปร่วมกันทำวัตรเช้า-เย็นปลุกเสกอีกทุกวัน)

หลวงปู่สรวง ออยเตียนสะรูล พระอริยะสงฆ์เหนือโลก 500 พรรษา วัดจำทั่วจักรวาล อาจารย์เสริฐและลูกศิษย์สร้างถวาย ปี 39

ขุนแผนเนื้อขาว 500 บาท หัลงมีรอยจาร 800 บาท

ขุนแผนเนื้อสีกะปิ(ผสมปราสาทขอมพันปี) 500 บาท หลังจาร 800 บาท

ท้าวเวรสุวัณ ผสมเกษา หลวงปู่สรวง 1,500 บาท (สร้างปี19)

ขุนแผนพราย พิมพ์ พิเศษ พรายเดี่ยว ฝั้งตะกรุดคู่ 1500

ขุนแผนพราย พิมพ์ พิเศษ พรายเดี่ยว ฝั้งตะกรุดคู่ หลังมีจารหมึก 2,000

ตะกรุดเงินจารลายมือหลวงปู่สรวง เนื้อเงิน 2,000

สมเด็จฝั้งตะกรุดทองเหลือง 800

ชุดหลวงปู่สรวง หลวงพ่อสร้อย สร้างถวาย ให้หลวงปู่ปลุกเสกเดี่ยว (พิธีใหญ่ บายศรี 9 ชั้น) จัดสร้างปี 32
รูปถ่าย หลวงปู่สรวง ขนาด 2*3 นิ้ว 500 บาท
รูปหล่อฤาษี (นั่งสูบบุหรี่สบายอารมณ์) 1600 บาท
ปิดตาเนื้อผงทารัก 1600 บาท
ตะกรุดหนังเสือ 2000 บาท
เสื้อยันต์ (ตัวใหญ่มาก) 3000 บาท
http://www.itti-patihan.com/sueng.php

http://www.uamulet.com/PNewAmuletBoardDetail.asp?qid=25032

อิทธิปาฏิหาริย์ พระเครื่อง ( อยู่ใกล้ๆโรงพยาบาลตากสิน เลยปากทางเข้าวัดทองนพคุณไปนิดนึง
ติดถนน )529 ถ.สมเด็จเจ้าพระยา แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กทม 10600
เปิดบริการทุกวัน 9.00 น.-22.30 น. ติดต่อสอบถามที่ 089-052-5456 เอก ติดต่อผมได้ทุกเวลานะครับ
ลูกค้าต่างจังหวัด สนใจธนาณัติสั่งจ่ายในนาม สุกัณจักขณ์ กิตติวรเกียรติ ปณ.คลองสาน
หรือ โอนเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขา ลาดหญ้า เลขที่ 075-2-80735-3 ก่อนโอนกรุณาโทรแจ้งให้ทราบด้วยครับ
http://www,itti-patihan.com

โดยคุณ aekcub (969)  [จ. 08 ต.ค. 2550 - 16:02 น.]



โดยคุณ aekcub (969)  [จ. 08 ต.ค. 2550 - 16:07 น.] #162137 (1/3)


(D)


ขุนแผนสีกะปิ หลังไม่มีจาร

โดยคุณ chiu2002 (5.4K)  [อ. 09 ต.ค. 2550 - 17:20 น.] #162707 (2/3)

โดยคุณ 52331 (1.2K)  [ศ. 12 ต.ค. 2550 - 21:49 น.] #164337 (3/3)


(D)


ผมได้ฟรีมา 1 ภาพ จากสมาชิก กลุ่มเพื่อนเสรี เกือบปีแล้ว ท่านบอกว่าภาพที่เห็นเป็นภาพที่ ลป.ท่านแต่งกายเต็มยศ ครั้งแรก/ครั้งเดียว ส่วนตัวท่านก็เก็บก้นบุหรีของหลวงปู่ไว้ ท่านขอจากหลวงปู่ก็ไม่ได้ ต้องไปหาเอาเองหลังจากหลวงปู่สูบแล้วโยนทิ้ง แย่งกันหาอยู่หลายคน

ขอร่วมสนุกด้วยคนครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1