(D)
วัตถุมงคลของวัดห้วยเขน จ.พิจิตร ตอนนี้ถือว่ากำลังมาแรงมาก นับวันก็จะหายากขึ้นทุกที และราคาก็ไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากประวัติการสร้างเริ่มมีความชัดเจน อีกทั้งผู้ที่นำไปใช้ต่างมีประสบการณ์ต่าง ๆ นานา แต่ความที่ผมเป็นคนช่างสงสัย ไม่ค่อยจะเชื่ออะไรใครง่าย ๆ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสผมจึงขับรถไปที่วัดห้วยเขนด้วยตัวคนเดียวเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ม.ค. 2551 พอไปถึงฝนก็ตกพรำ ๆ ผมได้มีโอกาสพบพระคุณเจ้ารูปหนึ่งที่มีอายุค่อนข้างมาก ท่านได้เมตตาพาผมไปที่อุโบสถที่หลวงพ่อเงินมาสร้างเอาไว้ พร้อมทั้งเปิดประตูให้เข้าไปชมข้างใน นอกจากนี้ผมยังได้มีโอกาสพบกับท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ผมจึงได้สอบถามท่านถึงประวัติการสร้างวัดและวัตถุมงคลของวัดห้วยเขน ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า พระครูล้อม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น ได้ขี่ช้างไปหาหลวงพ่อเงิน ที่วัดบางคลาน เพื่อขอให้ท่านมาช่วยสร้างวัดโดยท่านไม่ลืมที่จะนำนกกระทาไปฝากหลวงพ่อเงินด้วย เพราะท่านทราบว่าหลวงพ่อเงินชอบนกกระทา พอไปถึง หลวงพ่อเงินเห็นหลวงพ่อล้อมนำนกกระทามาฝาก ท่านก็หัวเราะชอบใจ พร้อมกับชมหลวงพ่อล้อมว่าช่างรู้ใจท่าน หลวงพ่อเงินจึงรับปากว่าจะไปช่วยสร้างถาวรวัตถุให้วัดห้วยเขน ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2456 หลวงพ่อเงินจึงได้ขี่ช้างมายังวัดห้วยเขน ซึ่งหากดูในแผนที่ประเทศไทยแล้วตีเป็นเส้นตรงจากวัดบางคลานมายังวัดห้วยเขนจะเป็นระยะทางประมาณ 20 ก.ม. ท่านเจ้าอาวาสได้กรุณาชี้ให้ผมดูจุดที่หลวงพ่อเงินเมื่อขี่ช้างมาถึงวัดแล้วนำไปผูกที่ใต้ต้นโพธิ์ แต่ปัจจุบันต้นโพธิ์ต้นนั้นได้ล้มตายไปแล้ว ทางวัดได้ปลูกขึ้นใหม่ในจุดใกล้ ๆ กัน เสียดายที่ผมไม่ได้นำกล้องติดตัวไปด้วย ท่านยังได้เล่าถึงวัตถุมงคลที่สร้างในยุคนั้นให้ฟังว่า มีทั้งรูปหล่อ จอบ เหรียญหล่อ ภาพถ่ายหลวงพ่อเงินขาวดำ พระที่สร้างด้วยเนื้อดินพิมพ์ต่าง ๆ เช่น พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์ยืน พิมพ์พระสมเด็จ เป็นต้น โดยวัตถุมงคลทุกชิ้น หลวงพ่อเงินได้กำหนดราคาเท่า ๆ กันคือ 1 บาท โดยเฉพาะพระที่สร้างด้วยเนื้อดินมีความพิเศษที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้ กล่าวคือ พระชุดนี้หลวงพ่อเงินจะผสมผงและคนด้วยมือของท่านเองจนได้ที่แล้วจึงให้พระและเณรไปช่วยกันกดพิมพ์ หลวงพ่อเงินเคยแจกพระเนื้อดินให้เด็กในวัด ต่อมาเด็กคนนี้ถูกสุนัขกัดแต่ไม่เข้า ชาวบ้านจึงมาเล่าให้หลวงพ่อเงินฟัง หลวงพ่อฟังแล้วก็หัวเราะชอบใจ พระเนื้อดินชุดนี้ตอนหลังได้ถูกขโมยลักลอบขุดหลายครั้ง ทางวัดจึงเปิดใต้ฐานชุกชีเพื่อนำพระออกให้ประชาชนบูชา เคยมีคนอยากได้พระชุดนี้แต่เมื่อทราบว่าหมดไปแล้ว ก็เข้าไปในโบสถ์อธิษฐานแล้วเอามือไปรองใต้ฐานชุกชี ปรากฏว่ามีพระหล่นใส่มือมา 1 องค์ ท่านเจ้าอาวาสกล่าวว่าเมื่อดูจากหลักฐานการขอเขตวิสุงคามสีมาปรากฏว่ามีการขอและอนุญาตประมาณปี 2460 - 2461 แสดงว่าหลวงพ่อเงินมาที่วัดห้วยเขน ปี 2456 และอยู่จนกระทั่งสร้างวัดเสร็จ รวมระยะเวลาประมาณ 5 ปีเศษ
ปัจจุบันทางวัดกำลังสร้างวิหารและอุโบสถหลังใหม่ โดยวิหารหลังใหม่ออกแบบโดยท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน รูปแบบสวยงามมาก คะเนแล้วคงจะก่อสร้างไปได้ราว 80% ส่วนอุโบสถหลังใหม่จะใช้แทนหลังเก่าที่หลวงพ่อเงินท่านสร้างเอาไว้เนื่องจากชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ทางวัดจะเก็บอุโบสถหลังเก่าไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
มีข่าวดีที่จะมาบอกก็คือ พระเนื้อดินที่ทางวัดเก็บไว้ยังมีเหลืออยู่ประมาณ 100 องค์เศษ ๆ ให้บูชาองค์ละ 500 บาท เพื่อนำทุนไปก่อสร้างวิหารและอุโบสถ เนื่องจากพระชุดนี้ทางวัดไม่ได้นำใส่ตู้ให้บูชา ประชาชนที่ไปวัดจึงไม่ทราบว่ายังมีหลงเหลืออยู่ ต้องสอบถามท่านเจ้าอาวาส ผมเองพอรู้ประวัติว่าหลวงพ่อเงินท่านผสมผงด้วยมือของท่านเองเลยขอบูชามา 9 องค์
ต้องยอมรับว่าในบรรดารูปหล่อแล้ว สุดยอดที่ถือเป็นจักรพรรดิ์ต้องเป็นของหลวงพ่อเงิน ดังนั้นหากจะเทียบว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน คือวัดระฆังแห่งเมืองพิจิตร พระชุดของวัดห้วยเขนก็คือวัดบางขุนพรหมแห่งเมืองพิจิตรดี ๆ นี่เอง เพราะประวัติการสร้างคล้ายกับที่สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) ไปช่วยสร้างวัดบางขุนพรหม อย่างไรอย่างนั้น
ข้อสงสัยของอีกหลายท่านที่ยังไม่แน่ใจในประวัติการสร้าง หากต้องการพิสูจน์ด้วยตนเอง ขอเชิญที่วัดห้วยเขนได้เลยครับ นอกจากท่านจะได้ทราบความจริงแล้ว ยังได้ฟังเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกด้วย ผู้ที่จะขับรถไปด้วยตนเอง ขอแนะนำว่าให้ไปทางสายนครสวรรค์ - พิษณุโลก เมื่อถึงแยกโพทะเลให้เลี้ยวขวาไปจนถึงแยกบางมูลนาก (จะผ่านทางเข้าวัดบางคลานทางด้านขวามือก่อน) หลังจากนั้นให้ตรงไป จะข้ามสะพานและมีไฟจราจร ให้ตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร จะถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 10 ก.ม. ก็จะถึงวัดห้วยเขนทางด้านซ้ายมือครับ |