ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : เรื่องดีดีที่อยากให้ทุกคนอ่านและไม่มองข้ามการทำความดี

(D)
"อย่าหนีนะ ไอ้เด็กขี้ขโมย"
เสียงผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งตะโกนลั่น พร้อมกับมีเด็กคนหนึ่งกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งวิ่งผ่านฉันกับแม่
ที่กำลังซื้อเนื้อหมูในตลาดไปอย่างรวดเร็ว ทั้งแม่และฉันหันไปดูทันเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นแค่แวบเดียว
แม่ถามฉันว่า

โดยคุณ aumphorn (771)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 13:47 น.]



โดยคุณ aumphorn (771)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 13:52 น.] #23964 (1/25)
"อ้าว นั่นป้าร้านขายของไม่ใช่เหรอ"
"ใช่จ้ะแม่ แกวิ่งไล่ใครกันละ"

โดยคุณ aumphorn (771)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 13:53 น.] #23965 (2/25)
ป้าคนนั้นชื่อว่า “ป้าหนอม” เป็นแม่ค้าขายของชำสารพัดอย่างในตัวตลาดในอำเภอที่ฉันอยู่มีฐานะจัด
ว่าดีกว่าแม่ค้าคนอื่นๆ ในละแวกเดียวกันและเป็นที่รู้จักกันว่าแกเป็นคนที่ขี้เหนียวอย่างร้ายกาจแถม
ปากจัดที่สุดในตลาดอีกด้วย ใครต่อราคาของมากเกินไปหรือถามราคาแล้วไม่ซื้อป้าแกจะโวยวายชนิด
ต้องรีบเผ่นออกจากร้านแทบไม่ทันทีเดียว เสียงเอะอะดังมากขึ้น ฉันหันไปมองป้าหนอมจับข้อมือ
เด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 12-13 ขวบ ไล่เลี่ยกับฉันซึ่งกำลังดิ้นรนอยู่ และป้าแกกำลังจะลงไม้ลง
มือแม่จึงเดินเข้าไปถาม

โดยคุณ aumphorn (771)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 13:55 น.] #23966 (3/25)
"พี่หนอม มีไรหรอคะ"
"ก็ไอ้เด็กเวรนี่นะสิ มันมา ทำทีขอซื้อยาแก้ปวดกับยาธาตุ พอฉันหยิบส่งให้มันก็วิ่งหนีมาเลย เงินก็ไม่
จ่าย"
พูดจบป้าหนอมก็ตบหัวเด็กคนนั้นอย่างแรงหนึ่งทีและคงจะมีตามมาอีกหลายทีแน่ถ้าแม่ฉันไม่ห้ามไว้
"ตายแล้วพี่หนอม อย่าถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยนะ แล้วนี่จะทำไงต่อ"
แม่รีบตัดบทเพราะเห็นว่าเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่
"เรียกตำรวจมาเอามันไปเข้าคุกนะสิ เสียนิสัย พ่อแม่ไม่สั่งสอนยังเด็กตัวแค่นี้ก็ริจะเป็นขโมยซะแล้ว
ต่อไปก็คงต้องปล้นเขากินหละ"
ฉันสะกิดแม่ทันทีพร้อมกับมองพลางส่ายหัวน้อยๆ ทำนองว่าอย่าไปยุ่งดีกว่า แม่มองฉันแล้วมองเด็ก
คนนั้น ซึ่งท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้แม่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันไปพูดกับป้าหนอมว่า
"อย่าให้ถึงอย่างนั้นเลยนะพี่หนอม เด็กมันคงอยากซื้อยาแต่ไม่มีเงินนะเอาเป็นว่าฉันจ่ายให้ละกันนะ กี่
บาทกันละ"
ในที่สุดเรื่องก็จบลง โดยการที่แม่ยอมจ่ายเงินค่ายาแก้ปวดกับยาธาตุแล้วแม่ก็จูงเด็กคนนั้นออกมา
จากตลาด แต่ป้าหนอมยังไม่วายเตือนแม่

โดยคุณ aumphorn (771)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 13:56 น.] #23967 (4/25)
"ใจดีกับเด็กขี้ขโมยแบบนี้ ระวังจะเสียใจทีหลังนะเธอ"
แม่ไม่ได้ตอบอะไร แต่พอเดินห่าง จากร้านพอสมควรแล้วก็ถามว่า
"ทำไมหนูขโมยของป้าเขาละ"
เด็กคนนั้นเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมองแม่ แล้วตอบสะอึกสะอื้นว่า
"แม่ผมปวดท้องมากเลยครับ แล้วแม่ก็ไม่มีเงินไปหาหมอ ผมก็เลยต้อง..."
แม่มองหน้าเด็กคนนั้นอยู่ครู่หนึ่งแล้วยื่นผลไม้ที่ซื้อมาให้เด็กคนนั้นถุงหนึ่ง แล้วบอกว่า
"ทีหลังอย่าขโมยของใครนะ ถ้าไม่มีเงินมาขอเงินน้าไปซื้อก็ได้นะ น้าชื่อสมพรเปิดร้านเย็บผ้าอยู่ใกล้ๆ
นี่เอง ถามคนแถวนี้ก็ได้ รู้จักน้าแทบทุกคนเลยแหละ เอ้า...เอา ส้มไป ฝากคุณแม่ซิ คนป่วยนะต้องกิน
ผลไม้มากๆ จะได้หายไวๆ รู้มั้ย"
แม่เสริมพร้อมกับยิ้ม เด็กคนนั้นอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรับส้มพร้อมกับพูดขอบคุณแม่แล้วเดินจากไป
หลังจากนั้นพอกลับมาถึงบ้าน ฉันก็ถามแม่ทันที
"ทำไมแม่ต้องช่วยเด็กคนนันด้วยละ รู้จักกันหรอจ้ะ"
แม่ยิ้ม แล้วตอบฉันว่า
"ไม่รู้จักหรอก แต่แม่เห็นเด็กคนนั้นรับจ้างหาบขนมขายอยู่แถวบ้านเราน่ะลูกแต่แกคงจำแม่ไม่ได้หรอก
แม่ซื้อขนมแกอยู่ไม่กี่ครั้งเอง"

โดยคุณ aumphorn (771)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 13:56 น.] #23968 (5/25)
"แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องช่วยเหลือเขาถ้าเขาเป็นขโมยนี่แม่"
ฉันถามต่อ แม่มองหน้าฉันแล้วพูดว่า
"แม่เชื่อว่าเด็กที่เคยหาเงินด้วยตัวเองมาก่อนตั้งแต่อายุเท่าๆ กับลูกจะต้องเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ
รู้คุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ว่ากว่าจะได้มามันเหนื่อยยากขนาดไหน และคนที่มีความรับผิดชอบ
นะ จะไม่มีทางขโมยของใครนอกจากจะจำเป็นจริงๆ เมื่อเขาไม่มีทางอื่นให้เลือกแล้วเท่านั้น"
ฉันฟังแล้วก็ถามแม่ต่อว่า
"แล้วต่อไปถ้าเขามาขอเงินแม่ไปซื้อยาอีก แม่จะให้เขารึเปล่า"
"ให้สิลูกถ้ามันไม่มากไม่มายอะไร"
"แล้วแม่ไม่เสียดายเงินหรอ บ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ้านป้าหนอมเขานะแม่"
"ถึงแม่จะไม่มีเงินทองมากนัก แต่การที่ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากน่ะ มันทำให้แม่มีความสุข แล้วยัง
ได้บุญอีกด้วยนะ แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว ไม่อยากได้อะไรตอบแทนหรอก"
แล้วแม่ก็พูดต่ออีกว่า
"จำไว้นะลูก คนเรานะ ต้องรู้จักให้อภัยและให้โอกาสคนอื่นแก้ตัวเสมออย่างเด็กคนนั้น..แม่มั่นใจว่าแก
ทำไปเพราะรักคุณแม่ของแกจริงๆ แม่ถึงช่วยแกเอาไว้"
แล้วแม่ก็พูดต่อว่า
"ลูกอาจจะบอกว่าขโมยเป็นสิ่งที่ผิด ใช่...แม่ไม่เถียง แต่บางครั้งคนเราก็ต้องมองด้านอื่นๆ บ้างอย่าคิด
แต่เรื่องทรัพย์สินเงินทอง ตอนนี้ลูกอาจจะยังฟังไม่เข้าใจ แต่แม่เชื่อว่าสักวันลูกจะเข้าใจเองแหละ"
หลังจากนั้น ฉันกับแม่ก็หันไปคุยเรื่องอื่นๆ กันต่อฉันเองไม่เคยคิดเรื่องนี้อีกเลย จนเหตุการณ์หนึ่ง
เกิดขึ้นทำให้ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งทั้งน้ำตาว่าคำพูดของแม่ในครั้งนี้ถูกต้องที่สุดจริงๆ
หลังจากนั้นฉันเรียนจบระดับปริญญาตรีจากสถาบันราชภัฏแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด แล้วฉันก็ได้งานทำ
ในโรงงานแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดนั้นเอง เงินเดือนก็พอประมาณ สามารถเลี้ยงดูแม่ได้โดยไม่ขัดสนนัก
ฉันก็เลยขอร้องให้แม่หยุดรับจ้างเย็บผ้า เพราะอยากให้แม่พักผ่อนบ้างหลังจากทำงานหนักมาเกือบ
20 ปีเพื่อส่งฉันเรียน แม่ยอมปิดร้าน แต่ก็ยังรับงานเล็กๆ น้อยๆ ของเพื่อนบ้านมาทำบ้างโดยไม่คิดเงิน
แม่บอกว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยจะรู้สึกเบื่อ ฉันก็เลยต้องยอมตามใจแม่ฉันทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี
แม่ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายเริ่มจากปวดหัวบ่อยขึ้น ช่วงแรกๆ ไม่กี่วันก็หาย หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนานขึ้น
เรื่อยๆ ฉันบอกให้แม่ไปหาหมอ แล้วฉันก็พาแม่ไปหาหมอในเมือง หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่

โดยคุณ aumphorn (771)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 13:57 น.] #23969 (6/25)
ทำงานหนักมากเกินไป หมอให้ยามาชุดหนึ่งพร้อมกำชับให้พักผ่อนมากๆ จะได้หายเร็วๆ หลังจากกิน
ยาตามที่หมอสั่ง อาการปวดหัวของแม่ก็หายไป ฉันเริ่มสบายใจขึ้น แต่หลังจากไปหาหมอได้ประมาณ
หนึ่งเดือน แม่ก็เริ่มกลับมาปวดหัวอีก คราวนี้เป็นหนักมากกว่าครั้งที่แล้ว ยาที่เคยกินแล้วได้ผลมาก่อน
ก็ไม่ได้ผลเลย ฉันกังวลใจมาก พอถามหมอ หมอก็บอกว่าต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ
เพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่าโรงพยาบาลต่างจังหวัด หลังจากนั้นฉันรีบพาแม่ไปกรุงเทพฯ
ทันที ไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หลังจากหมอตรวจแล้วบอกว่ามีเนื้องอกในสมองต้องผ่าตัด
โดยด่วนหากปล่อยทิ้งไว้อาจไปทับเส้นประสาททำให้เป็นอัมพาตได้ หรือถ้าผ่าตัดไม่ทันก็อาจร้ายแรง
ถึงขั้นเสียชีวิต ฉันตกใจมากขอให้หมอผ่าตัดให้ทันที แต่หมอบอกว่าโรงพยาบาลที่มีหมอผ่าตัดสมองที่
มีความพร้อมที่จะผ่าตัดเนื้องอกในสมองเป็นอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงมากกว่า ดังนั้นหมอจึง
ต้องส่งตัวคนไข้ไปยังโรงพยาบาลนั้น ฉันก็ตกลงหลังจากถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลดังกล่าวแล้วแม่ก็
ถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดทันที ขณะที่ฉันรออย่างกังวลใจอยู่ด้านนอกทั้งเรื่องอาการป่วยของแม่และจาก
คำพูดของหมอที่ทิ้งท้ายไว้ก่อนส่งตัวแม่มาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ หมอบอกให้ทำใจไว้บ้าง เพราะการ
ผ่าตัดสมองเป็นการผ่าตัดที่เสี่ยงมาก โอกาสที่คนไข้จะเสียชีวิตมีมาก แม้การผ่าตัดจะประสบ
ความสำเร็จก็ตาม อีกเรื่องก็คือค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสมองค่อนข้างสูง เป็นหลักแสนบาท เมื่อรวมกับ
ค่ายา ระหว่างพักฟื้น คิดแล้วน่าจะต้องใช้เงินราวๆ ห้าแสนบาท ฉันได้ยินแล้วแทบลมจับ ฉันจะไปหา
เงินห้าแสนบาทมาจากไหน ลำพังเงินเก็บของฉันกับแม่ยังมีไม่ถึงห้าหมื่นบาทเลย แต่ยังไงฉันก็ต้อง
รักษาแม่ให้หาย ส่วนเรื่องเงินไว้คิดทีหลัง หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นลง เป็นโชคดีของแม่ที่การผ่าตัด
ประสบผลสำเร็จ และไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ทางโรง พยาบาลบอกให้พักฟื้นประมาณหนึ่งเดือนก็
สามารถไปพักฟื้นที่บ้านได้ ทางโรงพยาบาลแจ้งรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาให้ฉัน

โดยคุณ aumphorn (771)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 13:59 น.] #23970 (7/25)
ฉัน
>ปรากฎว่าเป็นเงินจำนวนไม่ถึงหนึ่งพันบาท เป็นค่าติดต่อประสานงานเท่านั้น
ฉันแปลกใจมาก จึงสอบถามกับนางพยาบาล นางพยาบาลบอกว่าคุณหมอที่เป็นคนผ่าตัดและเป็น
เจ้าของไข้บอกไม่ให้คิดเงินกับฉันและแม่โดยที่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ทราบสาเหตุ ฉันจึงขอพบคุณหมอ
คนนั้นเพื่อขอบคุณ
นางพยาบาลบอกว่าหลังจากเสร็จคุณหมอก็ถูกส่งตัวไปต่างประเทศทันทีเพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
การผ่าตัดสมองที่อเมริกาแต่คุณหมอได้ฝากจดหมายไว้ให้ฉันกับแม่โดยกำชับกับทางโรงพยาบาลให้
ฝากให้ฉันพร้อมกับใบเสร็จค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของทางโรงพยาบาลในวันที่แม่สามารถออกจาก
โรงพยาบาลได้เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันกับแม่ก็เปิดอ่านจดหมายของคุณหมอคนนั้นเมื่ออ่านจบทั้งฉันและ
แม่ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกันเนื้อความในจดหมายมีดังนี้
>ข้าพเจ้านายแพทย์เดชา ทองวิจิตร แพทย์ผู้ผ่าตัด นางสมพร ภู่จันทร์
>ขอสรุปค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งหมดดังนี้
> ค่าผ่าตัด 0 บาท
> ค่ายาทั้งหมด 0 บาท
> ค่าใช้จ่ายอื่นที่เหลือ 0 บาท
> รวมเป็นเงินทั้งหมด 0 บาท
>ป.ล. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้รับแล้ว เมื่อยี่สิบปีก่อนด้วยยาแก้ปวด ยาธาตุ ส้มหนึ่งถุง
>ขอให้สุขภาพแข็งแรงไปอีกนานๆ นะครับคุณน้า
> นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร

โดยคุณ aumphorn (771)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 14:00 น.] #23971 (8/25)
ต้องขออภัยหากเป็นการรบกวนเวลาของท่านผู้อ่านครับ

โดยคุณ เด็กตลาดช่องแค (449)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 14:19 น.] #23973 (9/25)

โดยคุณ spjpleoil (3.8K)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 16:12 น.] #23984 (10/25)

โดยคุณ conun (3.1K)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 18:50 น.] #23994 (11/25)

โดยคุณ theman (492)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 19:55 น.] #23997 (12/25)
ขอขอบคุณคุณ aumphorn มากครับ ได้อ่านแล้วอยากให้สมาชิกทุกท่านได้อ่านคงมีประโยชน์บางไม่มากก็น้อยครับ

โดยคุณ เอกจิตต์ (1K)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 20:23 น.] #24000 (13/25)

โดยคุณ pongdej (1.1K)  [พ. 22 ก.พ. 2549 - 22:51 น.] #24011 (14/25)
ขอบคุณมากครับ

โดยคุณ ศตกมล (8.3K)  [พฤ. 23 ก.พ. 2549 - 00:48 น.] #24017 (15/25)
เนื้อเรื่องเขียนได้ดีมากค่ะไม่เสียเวลาที่อ่านหรอกค่ะ ......

โดยคุณ sakchai323 (2K)  [พฤ. 23 ก.พ. 2549 - 04:38 น.] #24020 (16/25)

โดยคุณ ปื๊ด_ปู่นนท์ (34)  [พฤ. 23 ก.พ. 2549 - 07:28 น.] #24029 (17/25)
ไม่เสียเวลาเลยครับพี่

โดยคุณ aumphorn (771)  [พฤ. 23 ก.พ. 2549 - 08:28 น.] #24046 (18/25)
ขอบคุณทุกท่านมากครับแล้วผมจะพยายามหาสิ่งดีๆมานำเสนอครับ

โดยคุณ webmaster1  [พฤ. 23 ก.พ. 2549 - 08:33 น.] #24048 (19/25)
อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลยค่ะ

โดยคุณ technolog (4.2K)  [พฤ. 23 ก.พ. 2549 - 11:30 น.] #24053 (20/25)
เยี่ยมครับ ว่าแต่ว่าเป็นเรื่องจริงหรือแต่งขึ้นมาครับ

โดยคุณ oakley (211)  [ศ. 24 ก.พ. 2549 - 09:02 น.] #24176 (21/25)
ทำดีได้ดีครับ ขอบคุณเรื่องราวดีๆที่มีมาบอกกันกัน

โดยคุณ aumphorn (771)  [ศ. 24 ก.พ. 2549 - 09:56 น.] #24185 (22/25)
ตอบคุณ technolog
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่เพราะเพื่อนส่งเมลล์มาให้ ตรงนั้นอย่าไปสนใจเลยครับเพราะเจตนาของผู้ที่นำเสนอ คืออยากให้ทุกคนเป็นคนดีครับ

โดยคุณ ดาวเงิน (2.9K)  [ศ. 24 ก.พ. 2549 - 10:22 น.] #24207 (23/25)
ปกติผมไม่ค่อยมีเวลามาเปิดเว็บดูมากนัก พอดีเห็นหัวข้อน่าสนใจ ลองอ่านดู เอ๊ะ! ยาวจัง อ่านจบ ซึ้งๆๆๆ ไม่เสียเวลาอ่านครับ จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยก็เป็นอุทาหรณ์ "จงทำดี โดยไม่คิดหวังสิ่งตอบแทน" แล้วความดีจะส่งผลให้ไม่ช้าก็เร็ว แต่ที่แน่ๆ ผู้ทำย่อมปลื้มใจก่อนแล้วละ

โดยคุณ narendra (1.2K)  [ศ. 24 ก.พ. 2549 - 21:35 น.] #24257 (24/25)
น้ำตาซึมครับ ถ้าเป็นเรื่องจริงของให้คุณน้าสุขภาพแข็งแรง ถ้าเป็นเรื่องแต่งขอให้ชาว g-ora ทุกคนสุขภาพแข็งแรงครับ

โดยคุณ ปื๊ด_ปู่นนท์ (34)  [ส. 25 ก.พ. 2549 - 16:05 น.] #24293 (25/25)
เพื่อนผมที่เป็นหมอเค้าบอกว่าเป็นเรื่องจิงมีชื่อคุณหมอคนนี้จริงๆครับ แต่ก็ต้องเช็คให้แน่ใจก่อน แต่ก็อย่างที่ว่านั้นแหละครับ ไม่ว่าจะจริงหรือจะแต่ง คนที่เขียนก็มีเจตนาที่ดีครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM