(D)
ประมาณวันจันทร์ที่ 31 พค. 2547 ผมได้รับข้อความว่า " My Cupid Alert! Send Chat Request by txt back with(ตามด้วยชื่อ) " และตามด้วยข้อความที่เป็นตัวหนังสือขยะ คืออ่านไม่รู้เรื่อง (ลักษณะคล้ายแอสกี้โคด ) ผมจึงนิ่งเฉย เพระไม่แน่ใจว่าเป็นไวรัส หรือเปล่า หลังจากนั้น ก็ส่งมาอีก2ครั้ง เหมือนเดิม ผมก็ยังเฉยอยู่ และหลังจากนั้นก็มีข้อความส่งมาอีก แต่คราวนี้เป็นตัวหนังสือภาษาไทยที่อ่านได้และบางครั้งก็มีภาษาอังกฤษปนมาบ้าง มีข้อความเช่น อยากรู้จัก , I glad 2 know u. ผมก็ยังเฉยอยู่ จากนั้นก็ยังส่งมาเรื่อยจนกระทั่งประมาณวันพุธที่ 2 มิย.2547 ก็มีข้อความส่งมาอีกว่า " มีคนต้องการพบคุณ ให้ส่งข้อความกลับไปที่ 86222 ข้อความละ 9 บาท " ด้วยความสงสัยจึงตอบกลับไป ว่า " คุณต้องการพบเหรอ รู้เบอร์ได้ไง " เพราะอยากรู้ว่าใคร และมันก็แค่ 9บาท พอส่งไปปุ๊บ ก็มีข้อความตอบกลับว่า Nickname ของคุณคือ Q..q และหลังจากนั้น ก็มีข้อความส่งต่อเนื่องมาเป็นสิบ จนน่ารำคาญ ผมจึงปิดเครื่อง พอรุ่งเช้าวันพฤหัสที่3มิย.2547 ผมเปิดเครื่องปรากฎว่า มี ข้อความค้างรับอยู่อีกเพียบ และหลังจากนั้นจึงตรวจสอบยอดเงิน ปรากฎว่า จากของเดิมประมาณ 270-280 บาท จากเหตุการณ์นี้เหลือเงินเพียง 11.50 บาท หายไป 96% กว่า ผมจึงโทร.ไป 1175 Call Center ของ AIS (บริษัท ของใครเอ่ย?) เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ได้มีการ เข้าระบบ Chat และยังไม่ออกจากระบบ และที่สำคัญ แรกเริ่มผมเข้าใจว่าส่งออกข้อความละ 9 บาท แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้ามีข้อความส่งเข้ามา เจ้าของเบอร์ ก็ต้องเสียด้วยเช่นกัน. ผมจึงแย้งว่า เขาบอกแต่ว่า ข้อความละ 9 บาท เขาไม่ได้บอกว่ารับข้อความก็ต้องเสีย 9 บาท ผมจึงถามว่าแล้วผมจะหยุดมันได้ยังไงเพราะเขาไม่ได้บอกวิธีหยุด จนท. บอกว่า ให้พิมพ์คำว่า STOP แล้วตามด้วยหมายเลขที่ผมได้ส่งไปครั้งแรก ก็คือ 86222 ผมจึงทำตาม จากนั้นก็มีข้อความตอบกลับว่า " คุณหยุดแชทแล้ว ถ้าคุณต้องการแชทอีก คุณต้องรออีก 2 ชม. แล้วพบกันใหม่ " (ในใจผมตอนนั้นคิดว่า อยากพบตายHaaar..... ) ผมจึงถาม จนท.ว่า MyCupidAlert เป็นใคร เขาบอกว่าเป็นของต่างประเทศ ใช้ชื่อดำเนินการว่า Hollywood ผมบอกว่าไม่ใช่ของต่างประเทศหรอก เพราะข้อความที่ระดมยิง มาที่เครื่องของผม เป็นภาษาไทยเป็นส่วนใหญ่ (และที่สำคัญก็คือพิมพ์ผิดๆถูก ประหนึ่งว่าร้อนเงินมากๆ ) ผมบอก จนท. อีกว่า เป็นไปไม่ได้หรอกที่ทาง AIS ไม่ทราบ. เพราะในการทำธุรกิจร่วมกับผู้อื่นนั้น มันต้องรู้ชื่อที่อยู่ของผู้ที่จะทำธุรกิจร่วมกัน สุดท้าย ผมจึงบอกว่า เอาอย่างนี้ดีว่า หัวหน้าศูนย์ Call Center ชื่ออะไร ผมต้องการคุยกับเข้า และผมก็ได้เบอร์ติดต่อจนได้คุยๆกันจริงตั้ง 40 กว่านาที ถึงได้ยอมรับว่าจะหาคำตอบให้ คำตอบคือ อยู่ที่จังหวัดชลบุรี หมายเลข (038) 412-271 มือถือ หมายเลข 01-723-6608 และในช่วงเย็น ก็ได้มี จนท. ได้โทร.มา บอกว่าเขาเป็นผู้ประสานงานในการติดต่อหาผู้ร่วมธุรกิจ ผมก็ได้พูดกับเขาตั้ง 30 กว่านาที กว่าจะยอมเปิดว่า เจ้าของ คือ Mr. Giltvedt สัญชาติ Norway ได้มอบหมาย ให้ คุณ วาสนา เป็นผู้ดำเนินธุรกิจ ผมจึงโทร.ไป 1133 เขาบอก เบอร์ 038-412-271 อยู่ที่สยามคันทรี่คลับ บางละมุง ชลบุรี ประเด็นก็คือ
1. ข้อความที่ส่งมา บอกแต่ว่า ข้อความละ 9 บาท ไม่ได้บอกว่า รับข้อ ความ ก็ต้องเสียเงินข้อความละ 9 บาท และไม่ได้บอกวิธีที่จะหยุดมัน มันก็เลยตัดเงิน จนหมด ( เข้าข่ายหลอกลวง ประชาชนหรือเปล่า? )
2. ถ้าผมเติมเงินเข้าไปอีก เพราะเหลือเงินเพียง 11.50 บาท ผมก็คงต้องเสียเงินอีก เพราะเขาก็จะส่งข้อความมาอีก แต่ผมเป็นคนเสียเงิน โดยปกติแล้ว ผู้ใดโทร.ออก หรือ ส่งข้อความออก ผู้นั้นก็ควรเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย ไม่ใช่หรือครับ
3. ทำไมทาง AIS บอกว่าไม่ทราบว่าทาง Partner เปลี่ยนเงื่อนไข ถ้าไม่ทราบแล้วทำไม ถึงยอมเติมเงินคืนให้ผม
4. ทาง ฝ่ายกฎหมาย พูดในลักษณะว่า " ทาง AIS ได้ชดใช้ความเสียหายให้แล้ว และจะจัดการไม่ให้มีกรณีอย่างนี้เกิดขึ้นอีก ก็น่าจะยุติได้แล้ว"
5. ข้อมูลลูกค้าถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ผมเป็นลูกค้าของ AIS ในระบบ 1-2call ฉะนั้น หมายเลขของผมก็น่าจะเป็นความลับด้วย แต่เหตุไฉน ทาง Partner ของ AIS จึงรู้เบอร์ของผม
6. อะไรคือ สิ่งที่ผมต้องการ ถ้ามีคนนิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ คิดว่า ช่างมัน มันไม่กี่บาท (สำหรับคนรวยคิด) แต่ถ้ามีผู้ถูกกร ะทำประมาณ 1,000 หมายเลขๆ ละ 260 บาท ก็เท่ากับ 260,000 บาท ในเวลาไม่กี่วินาที มันช่างเป็นธุรกิจที่ทำเงินอะไรได้มากมายปานนี้ คุณสรยุทธอยากทำบ้างไหมครับ สิ่งที่ผมต้องการ คือ เปิดโปง เจ้าของธุรกิจดังกล่าว ให้สาธารณะชนได้รับทราบ ถ้าเป็นต่างชาติ ก็แจ้ง สถานฑูต,กระทรวงต่างประเทศ ให้ได้รับทราบว่า ประชาชนของคุณเป็นแบบนี้ และจะได้เข้ามาหากินในประเทศไทยไม่ได้อีก แต่ทาง จนท.AIS อ้างว่าไม่มีหมายเลข Passport (แปลกแต่จริง ครับท่านผู้อ่าน) |