(D)
ธรรมะจากข่าว : อย่าเชื่อคำโฆษณา
อาตมาอนุโมทนาด้วยกับนายกรัฐมนตรีที่หันมาเอาจริงเอาจังกับสินค้าด้านการเกษตร ตั้งแต่นโยบายเรื่องแหล่งน้ำ เรื่องการส่งเสริมพัฒนาพันธุ์พืชคุณภาพดี การแปรรูป การบรรจุ***บห่อ รวมทั้งการหาตลาด
แต่สิ่งที่นายกฯ รวมทั้งข้าราชการต้องให้ความสำคัญยิ่งกว่า คือ ต้องกวดขันเรื่องคุณภาพของยาฆ่าวัชพืช และแมลง ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ รวมทั้งอุปกรณ์การเกษตรอื่นๆ ที่บริษัทต่างออกมาโฆษณาชวนเชื่อ
วันก่อนอาตมาดูโฆษณาขายปุ๋ยของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ช่วงเวลา ๐๔.๐๐-๐๕.๐๐ น. มันโฆษณาว่า "ใส่พืชแล้วเหมือนติดซูเปอร์เทอร์โบเร่งการเจริญเติบโตให้ต้นไม้"
แปลงผักแปลงพืชที่เอามาถ่ายในโฆษณามันก็งามจริงๆ ใครดูโฆษณาชิ้นนี้แล้วอดไม่ได้ที่จะซื้อมาใส่แปลงพืชผักของตน ชนิดที่เรียกว่า ขนาดอาตมาเป็นพระหัวแข็ง ไม่ยอมเชื่อใครง่ายๆ แต่ด้วยเหตุที่อยากให้พืชผลที่ปลูกไว้ได้ผลผลิตดี จึงซื้อเอามาใช้ สุดท้ายก็เสียเงินไปฟรีๆ
จากนั้นอาตมาก็ติดต่อซื้อปุ๋ยตามที่โฆษณา ๕,๐๐๐ บาท อาตมาตั้งใจว่าถ้าใช้ได้ดีจริงตามที่โฆษณาไว้ก็พร้อมที่จะช่วย โฆษณาให้ฟรีๆ แต่ที่ไหนได้ พอเอามาใส่เข้าจริงๆ ไม่เป็นตามที่โฆษณาไว้ ไม่รู้จะไปร้องเรียนใครดี คงมีแต่เทศน์เตือนสติ ไม่ให้เกษตรกรหลงเชื่อโฆษณา
การโฆษณาที่เกินจริงก็เข้าข่ายผิดศีลธรรมข้อ มุสา ด้วย เป็นบาปเหมือนกับการโกหกตายไปก็ตกนรกได้เหมือนกัน ใครไม่เชื่อเรื่องบาปกรรมก็ให้ไปดูหนังเรื่อง นรก เผื่อว่าจิตอกุศลจะได้ลดลงบ้าง
ประเทศไทยมีนักวิชาการเกษตรระดับดอกเตอร์อยู่ล้นกรมวิชาการเกษตร แต่ทำไมไม่คอยกวดขันเรื่องการโฆษณา ขายเคมีเกษตรที่เกินจริง อย่ามัว แต่คอยให้เกษตรกรมาร้องเรียนแล้วจึงลงไปตรวจสอบ เพราะนั่นมันหมายถึง เขาเดือดร้อนกันทั่วทั้งประเทศแล้ว
ถ้าอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยสั่งการให้ข้าราชการ กวดขัน เรื่องโฆษณา เคมีเกษตรที่เกินจริงบ้าง น่าจะเป็นบุญของเกษตรกรยุคที่ต้องพึ่งสารเคมี ไหนๆ ก็ต้องใช้สารเคมีแล้ว ก็ขอให้ได้สารที่มีคุณภาพด้วย
แต่ก็นั่นแหละ คนไทยชอบแก้เมื่อผลเกิดขึ้นแล้ว ไม่ชอบแก้ที่เหตุ ปัญหาต่างๆ มันจึงล้นกระทรวงเกษตร ใครๆ มาเป็นรัฐมนตรีก็ต้องปวดหัว
รัฐมนตรีคนใหม่ไม่ต้องทำอะไรใหม่หรอก เพียงแก้เรื่องเก่าๆ เกษตรกรก็ลืมตาอ้าปากได้แล้ว
พระพยอม กัลยาโณ
ขอบคุณข้อมูลจาก " คม ชัด ลึก "
|
[พฤ. 14 ก.ค. 2548 - 10:52 น.]