(D)
*ผลของการบริจาคเลือด*
> > >
> > > *เรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริงๆเป็นผลมาจากการบริจาคโลหิตโดยแท้!!! **
> > >
> > > รุ่นพี่คนหนึ่ง อายุประมาณ 35 ปี ทำงานอยู่ที่ ทีพีไอ สำนักงานใหญ่
> > > ซึ่งบริษัทมีสวัสดิการให้พนักงานตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี
> > > ผลการตรวจล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว ปรากฎว่าพี่เค้าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว
> > > ซึ่งคุณหมอก็งงเหมือนกัน เพราะเกือบทั้งหมดของคนที่เป็นโรคนี้
> > > มักเป็นมาแต่กำเนิด
> > > หลังทราบผล พี่เค้าก็ไปปรึกษาคุณหมอ สรุปว่า
>ทางเดียวที่จะรอดได้ก็ต้องผ่าตัด
> > > เพื่อดูว่าสามารถซ่อมลิ้นหัวใจได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนใหม่
> > > หลังจากปรึกษาที่รพ.เซ็นหลุยส์ ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดประมาณ 3 -4 แสนบาท
> > > จึงลองไปปรึกษาที่รพ.จุฬาฯ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1 แสนกว่า ๆ
> > > จึงตัดสินใจไปผ่าตัดที่รพ.จุฬา ฯ แต่ก่อนหน้านี้พี่เค้าบริจาคเลือดทุก ๆ
>3
> > > เดือนมาโดยตลอดรวมทั้งหมดที่บริจาคก็ 49 ครั้ง
> > > และพี่เค้าก็ได้รับคำแนะนำมาว่า
> >! > ทางสภากาชาดจะช่วยเหลือในส่วนของค่าห้องในการพักรักษาตัวได้
> > > จึงได้ไปขอจดหมายรับรองจากสภากาชาดไว้
> > >
>ว่าได้บริจาคเลือดจำนวนครั้งเท่านี้จริงอย่างน้อยก็จะได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้
บ้าง
> > > พี่เค้าเพิ่งได้รับการผ่าตัดเรียบร้อย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 48 นี้เอง
> > > วันที่ออกจากรพ.
> > > ก็ต้องไปเคลียร์ค่าใช้จ่าย ซึ่งทั้งหมดเป็นเงิน 110,000 บาท
> > > แต่พี่เค้าต้องจ่ายจริง คือค่ายาเพียง 9,800 บาทเท่านั้น เพราะสรุปว่า
> > > สภากาชาดออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้
> > > เจ้าหน้าที่ของรพ.แจ้งว่าได้รับสิทธิ์เหมือนกับข้าราชการคนหนึ่ง
> > > ส่วนของค่ายาที่ต้องจ่ายเองนั้น เพราะเป็นยาบัญชีประเภทสอง
> > > ซึ่งถึงจะเป็นข้าราชการก็ต้องจ่ายส่วนนี้เองเหมือนกัน
> > > เจ้าหน้าที่ยังแนะนำอีกว่า เพียงแค่คุณบริจาค
>เลือดกับสภากาชาด อย่างน้อย 24
> > > ครั้ง
> > คุณก็จะได้รับสิทธิประโยชน์นี้ |
|