(ต่อภาค2)ลืมไปว่ายังเหลืออีก 1เซียน วันนี้ขอเสนอคำว่า "เซียนพริ้ว" เซียนพริ้วในความหมายของผมก็คือ ผู้ที่เป็นเซียนพระ ซึ่งมีหน้าตู้ขายพระ ตามห้าง หรือสนามพระก็แล้วแต่เมื่อเราสนใจองค์ใดในตู้ ก็ต้องสอบถามราคา ดูสภาพพระและคำนวนตังค์ในกระเป๋า เสร็จสรรพแล้วก็ถามต่อ ว่ารับประกันให้ไหมครับ? เราก็จะได้รับคำตอบว่า แท้100%ถ้าเก๊เอามาคืนทีนี้เราก็ตกลงเพราะ คนขายเค้ารับประกันให้แล้ว(เชื่อเซียนน่ะแหล่ะ)เพราะเราดูไม่ยังเก่ง หรือดูไม่ขาดยังแยกเก๊-เเท้ไม่ออก ก็เพราะว่าเราไม่ใช่เซียนนี่นา ได้มาด้วยความภูมิใจ ฮ่าๆข้าก็มีพระแท้ เช่าจากตู้เซียนใหญ่เชียวน๊า ฮึๆไม่ใช่ร้านธรรมดาน๊า ทีนี้แหล่ะเมิงเอ๊ย! มีอยู่วันหนึ่งมีเพื่อนมาที่บ้าน เราก็คิดในใจไปเอาพระตู ออกมาอวดมันดีก่า พอเพื่อนเห็นปั๊บ เฮ้ย!พระสวยนี่หว่าแบบนี้น่าจะส่วประกวดนะเผื่อ ติดรางวัลเอาใบประกาศ แปะข้างฝาบ้านโชว์ซะเลย อ้า!คิดแล้วไม่เลวดีเหมือนกัน เพราะตั้งแต่เอามา ก็ยังไม่เคยเช็คหรือแห่ดูซักที แล้วฏ็ถึงวันประกวดเราฏ็ส่งด้วยความมั่นใจ เต็ม100ว่าพระข้าสวยขนาดนี้ คงมีรางวัลติดมือกลับ มามั่งแหล่ะว้าซื้อกล่องเสร็จก็ส่งเข้าประกวดเลย กรรมการก็รับพระเข้าไป ...20นาทีต่อมากรรมการรับพระคนเดิม ก็เรียกเราไปหา และบอกว่าพระของคุณ..........เก๊100%ครับคว่ำออกมาเลย ฉิกหาย!แล้วเพื่อนตัวดีบอก ไปเช่าใครมาเอ็งรีบเอาไปคืนเลย รีบเลยครับทีนี้ พอเอาไปคืนเซียนบอกว่า....เก๊ตรงไหน? เราก็บอกว่าผมส่งประกวดมา กรรมการไม่รับคว่ำพระออกมาคืน รู้มั๊ยเซียนใหญ่ว่าไง? ปั๊ดโธ่!...แม่มเอาใครเป็นกรรมการวะ! พระตูแท้ดันตีพระเก๊ เอายังงี้แล้วกันถ้าคุณเชื่อกรรมการว่า พระของผมเป็นพระเก๊ ผมยินดีรับคืน....โอ้เซียนผู้นี้มีสปิริทเยี่ยม(คิดในใจ)แต่.....ผมต้องหัก%คุณเพราะว่าพระของผมแท้ ตกลงผมจะหักคุณ20%แล้วกัน ไอ๊หย่า!ตูซื้อเมิงมา30,000บาท20%ก็ขาดทุนฟรีๆ6,000ซิวะแต่...มาคิดแล้วเอาวะกำขี้ดีกว่ากำตด นี่แหล่ะ "เซียนพริ้วของผม" ใครจะเอาไว้เป็นบทเรียนก็ไม่สงวนสิทธิ์นะจ๊ะ |
|