ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : > >คนเก่งจริงไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง> >

(D)
> >คนเก่งจริงไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง> >
โดย วินทร์ เลียววาริณ.
> >> >> >วันแรกที่เข้าเรียนในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
> >> >ผมพบเรื่องอัศจรรย์อย่างหนึ่งเมื่อรุ่นพี่บางคนบอกว่า
> >> >" การอดนอนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนในคณะนี้"
> >> >วันสุดท้ายในคณะนี้ ผมพบว่าตั้งแต่เรียนมาห้าปี ไม่เคยต้องอดนอนเลย
> >ยกเว้นเมื่อต้องทำงานกลุ่ม
> >> >ทั้งนี้มิใช่เพราะผมทำงานเร็วกว่าคนอื่น ... แต่เพราะผมไม่เชื่อในทัศนคตินั้น
> >> >จึงพยายามพิสูจน์ว่ามันไม่จริง และพบว่า การวางแผนที่ดีแก้ปัญหาได้ทั้งหมด
> >> >แม้แต่การสร้างสรรค์งานศิลปะ..ที่น่าขันก็คือ น้อยคนที่อดนอนได้คะแนนดี

> >> >> >ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมานานร่วมสามสิบปี..ห้าปีในนั้นผมทำงานในต่างประเทศ
> >.. เมื่อกลับมาเมืองไทย ผมพบเรื่องอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง
> >> >นั่นคือหลายคนมองการก้าวเท้าออกจากสำนักงานตรงเวลา "เป็นเรื่องประหลาดที่สุดในโลก "
> >> >ผมรู้ความจริงภายหลังว่า
>>...> >> >คนจำนวนมากไม่ยอมออกจากสำนักงานตรงเวลา
> >> >เพื่อแสดงให้เจ้านายเห็นว่า ตนเองขยันขันแข็ง ยิ่งอยู่ดึก
> >ยิ่งเป็นพนักงานตัวอย่าง
> >เสียสละเพื่อองค์กร น่ายกย่องชมเชย
> >> >บ่อยครั้งมีผลถึงการได้รับโบนัสตอนท้ายปี..เนื่องจากเจ้านายมักเห็นหน้าเห็นตาใครคนนั้น
> >หลังเวลาเลิกงานแล้วเสมอ
> >> >หากไม่เคยทำงานในต่างประเทศมาก่อน ผมอาจเข้าร่วมวงไพบูลย์ " มาสายกลับดึก" ด้วย
> >> >แต่หลายปีในชีวิตการทำงานในประเทศที่มีประสิทธิภาพในการจัดการที่สุด..ทำให้เห็นค่าเวลาทุกนาทีในชีวิต
> >> >ผมกลับมองว่าคนที่อยู่ดึกเป็นประจำคือพวกไร้ประสิทธิภาพ
> >> >ไม่สามารถทำงานให้เสร็จทันเวลา .จึงต้องอยู่ดึก
> >> >ยิ่งทำงานมากชั่วโมงยิ่งแสดงถึงการทำงานโดยไม่มีการวางแผน ไม่มองภาพรวม
> >> >> >ลองคิดดู
> >> >การอยู่ดึกเพื่อทำงานพิเศษหนึ่งคืนหมายถึงค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
> >> >เครื่องปรับอากาศทำงานมากขึ้น>ค่าทะนุบำรุงสูงขึ้น
> >> >ผลกระทบต่อคนทำงานคือพักผ่อนน้อยกว่าที่ควรเป็น
> >> >ยิ่งอยู่ดึก ประสิทธิภาพของงานในวันถัดไปยิ่งตกต่ำลง
> >> >> >. มือกระบี่ชั้นหนึ่งในแผ่นดินมองท่วงทีของศัตรูอย่างระวัง
> >ตวัดกระบี่ในมือเพียงฉับเดียว ก็เข่นฆ่าฝ่ายตรงข้าม
> >> >มือกระบี่ชั้นรองต้องประกระบี่ดังโคร้งเคร้งนานนับชั่วโมง
>ราวกับอยากบอกโลกว่า
> >.. ข้าก็ใช้กระบี่นะ....โว้ย
> >> >โลกรับรู้ แต่คมกระบี่ก็บิ่น ต้องเสียเวลาลับกระบี่อีกหลายวัน
> >> >> >. งานดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องตรงเวลาด้วย
> >> >งานดีไม่มีทางเกิดขึ้นตามยถากรรม .หรืออารมณ์ขึ้นลง
> >> >ไปจนถึงความหนาแน่นรัดกุมของกฎเกณฑ์ "ตอกบัตร"
> >> >ปริมาณเวลาในการทำงานชิ้นหนึ่งไม่ได้เป็นสัดส่วนกับคุณภาพของผลงานเสมอไป
> >> >> >บ่อยครั้งเป็นปฏิภาคกัน .หลายครั้งงานที่ให้เวลาน้อย
> >กลับออกมาดีกว่างานที่ให้เวลามาก
> >> >" คนเก่งจริงไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง
> >> >ทำงานเสร็จแล้วก็เลิก!

>ไม่ต้องรอเทวดาบนสวรรค์วิมานมารับรู้ "

> >> >เพราะถึงเวลานั้นเทวดาก็กลับบ้านไปแล้ว..

โดยคุณ pong071976 (50)  [อ. 17 ก.ค. 2550 - 21:10 น.]



โดยคุณ thanaanan (6.7K)  [อ. 17 ก.ค. 2550 - 21:41 น.] #122402 (1/6)
อือออออออออออม์ม์ม์ม์ เอาอีกครับ

โดยคุณ kumairoo (3.7K)  [อ. 17 ก.ค. 2550 - 22:01 น.] #122410 (2/6)
กินใจคนอย่าง จริง ๆ

โดยคุณ yacool (3.1K)  [อ. 17 ก.ค. 2550 - 23:39 น.] #122516 (3/6)
ในเมืองไทยส่วนใหญ่ทัศนะคติเป็นแบบนี้ล่ะครับ ต้อง acting ให้เห็นว่าทำงาน บางคนผลงานไม่มีแต่พวกทำท่าซีเรียสซะ เหมือนแบกทั้งโปรเจคไว้คนเดียว เจอมากะตัว นั่งพิมพ์งานหน้าคอมพ์ 2 วัน ได้กระดาษมาแผ่นเดียว (เล่นกั๊กเครื่องคอมฯ ส่วนรวม ซะ 2 วัน)

ต่อมาอยู่อีกบริษัทฯ องค์กรใหญ่ ผลิตสินค้าแบรนด์ดัง นึกว่าจะได้ทำงานกับมืออาชีพ เปล่าเลย ช่วงจัด event ต่างจังหวัด แบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบทำงานเสร็จก่อนชาวบ้าน กลับโดนกล่าวหาว่า ทำงานน้อย ไม่เป็นไร งานรอบหน้าสลับหน้าที่กันทำ ทำเสร็จก่อน ก็โดนด่า หาว่าไม่ช่วยเพื่อนร่วมงาน เวรกรรรมที่สุด สรุปงานหน้าเดี๋ยวผมรับทำ 2 หน้าที่เลย น่าจะจบ แต่ไม่จบ กลับเข้า office หาว่าเราโดดงาน ไม่เห็นตัวเราตอนจัดงานเลย เวรควบ 2 job วิ่งวุ่นพวกแมร่....ง ทั่วงาน พวกที่เหลือส่วนใหญ่เมากันทั้งวัน ตรูรับเต็มๆ จบ 4 เดือนช่วงโปรฯ หาว่าเราไม่มีผลงาน ไม่พ้นโปรฯ กรรมที่สุด แผนการตลาดทั้งปีก็ของเรา ผจก. แมร่...ง copy งานเราแล้วไปวางโต๊ะนาย ข้อมูล & ผลงานก็ขอจากเราไปเสนอที่ประชุม แล้วบอกเราไม่มีผลงาน อยากจะกรี๊ดดดดดด เฮ้อ นี่ละสังคมไทย ทุกวันนี้ทำงานที่ใหม่รับเงินเดือนๆ ละ หมื่น แต่ไม่เจอปัญหาปวดกระโหลกแบบนี้ผมก็พอใจละครับ สมัยก่อนได้เงินเดือนมากกว่านี้แต่ไม่คุ้มกับสภาพจิตใจที่เสียเลยครับ

โดยคุณ เด็กตลาดช่องแค (450)  [พ. 18 ก.ค. 2550 - 07:52 น.] #122590 (4/6)
คมลึกมากครับ

โดยคุณ pong071976 (50)  [พ. 18 ก.ค. 2550 - 08:40 น.] #122609 (5/6)
(ขอเพิ่มเติมครับพี่ๆ) ผมเคยอ่าน หนังสือ เรื่อง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน หลายปีแล้ว ((ชอบมาก))ตามข่าวนักเขียนผู้นี้ บ่อยๆ ไปเจอบทความนี้เข้า เลยนำมาบอกต่อครับ โดนใจมากๆ สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ

ผู้เขียน == =วินทร์ เลียววาริณ===

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

วินทร์ เลียววาริณวินทร์ เลียววาริณ เกิดปี พ.ศ. 2499 ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นนักเขียนที่ได้รับ รางวัลซีไรต์ ถึง 2 ครั้ง คือ เมื่อปี พ.ศ. 2540 (ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน) และเมื่อปี พ.ศ. 2542 (สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน) โดยก่อนหน้าที่จะมาเป็นนักเขียน เขาทำงานด้านออกแบบมาก่อน คือเป็นสถาปนิก นักตกแต่งภายใน นักออกแบบกราฟิก และนักโฆษณา

นอกจากนี้ วินทร์ ยังเขียนเรื่องสั้น และบทความ ลงนิตยสารด้วย เช่น ำ ใน มติชนสุดสัปดาห์ และยังมีผลงานเขียน ร่วมกับนักเขียนรุ่นใหม่อย่าง ปราบดา หยุ่น ในชื่อชุด ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน (ดัดแปลงจากชื่อหนังสือที่ได้รับความนิยมของทั้งคู่ คือ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ของวินทร์ และ ความน่าจะเป็น ของปราบดา) โดยเขียนลงเป็นตอนๆ ลงในนิตยสาร open ในลักษณะการโต้ตอบอีเมลกัน และได้รวมเล่มเป็นหนังสือแล้วสองเล่ม

โดยคุณ kookkai (91)(2)   [พ. 18 ก.ค. 2550 - 12:45 น.] #122692 (6/6)
โดนครับ....โดน แฟนผมทำงานเต็นที่ในเวลางาน กลับบ้านเร็ว(มีภาระลูกอ่อน)เจ้านายไม่ปลื้ม แต่คนลอยไปลอยมาประจบสอพอ กลับบ้านดึกคุณแม่ปลื้ม......สงสารประเทศไทยจังเลย ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร สวัสดีครับพี่yacool ยินดีด้วยครับที่ได้งานใหม่ครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1