(D)
http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=56716
หลังครองแชมป์เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมากว่าสิบปี ในที่สุด บิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟต์ ก็ถูกโค่นตำแหน่งแชมป์รวยอภิมหารวยลงแล้ว โดยนิตยสารฟอร์จูน นิตยสารด้านธุรกิจซึ่งทรงอิทธิพลของอเมริกา ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่า นายบิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟต์ ซึ่งครองแชมป์บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของโลก ติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2538 ได้ถูกโค่นแชมป์แล้วในปีนี้ โดยนายคาร์ลอส สลิม เจ้าของบริษัทอเมริกา โมวิล ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมในเม็กซิโก วัย 67 ปี ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีที่มั่งคั่งเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยสินทรัพย์ มูลค่า 59,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2 ล้านล้านบาทเศษ) หรือมากกว่าบิล เกตส์ 1,000 ล้านดอลลาร์ นับเป็นครั้งแรกที่เคยมีมา ที่นักธุรกิจจากประเทศกำลังพัฒนา จะขึ้นสู่อันดับสูงสุดของฟอร์จูนในการเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
นายคาร์ลอสซึ่งสืบเชื้อสายจากบิดา ที่อพยพมาจากเลบานอน ดำเนินธุรกิจหลายอย่างครอบคลุมชนิดไม้จิ้มฟันยันเรือรบ เขาเป็นเจ้าของบริษัทกว่า 200 บริษัทในเม็กซิโก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร บุหรี่ ก่อสร้าง โทรคมนาคม เหมืองแร่ โรงงานผลิตจักรยาน โรงงานผลิตน้ำอัดลม สายการบิน โรงแรม บริการรถไฟ กิจการโรงพิมพ์ ไปจนถึงกิจการธนาคาร โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ถึงกับกลายเป็นเรื่องขำขัน เมื่อร้านอาหารบางแห่งในเม็กซิโกถึงกับต้องเขียนข้อความระบุว่า ร้านนี้คาร์ลอส สลิมไม่ได้เป็นเจ้าของ
ข้อมูลระบุมูลค่าหลักทรัพย์ของธุรกิจนายคาร์ลอส คิดเป็น 1 ใน 3 ของมูลค่าหลักทรัพย์โดยรวมในตลาดหุ้นเม็กซิโก ขณะที่ธุรกิจครอบครัวเขาสร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วน 7% ของจีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ซึ่งมีมูลค่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ความมั่งคั่งของนายคาร์ลอสเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากที่เคยรวยกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ก็เพิ่มมาอยู่ที่เกือบ 60,000 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่มาจากมูลค่าหุ้นในบริษัท ที่เพิ่มขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเช่นกัน ที่นายคาร์ลอสทำรายได้วันละประมาณ 27 ล้านดอลลาร์ หรือราว 918 ล้านบาท
เคล็ดลับความสำเร็จของนายคาร์ลอสอยู่ที่การทำธุรกิจแบบผูกขาดในตลาด ช่วงยุคทศวรรษ 1990 การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเม็กซิโก นำไปสู่การเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนแปรรูปรัฐวิสาหกิจ นายคาร์ลอสเป็นบุคคลหนึ่งที่เข้าไปยึดหัวหาดตลาดโทรศัพท์ในเม็กซิโก โดยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเทเลโฟนอส เดอ เม็กซิโกหรือเทเลเม็กซ์ บริษัทโทรศัพท์ของรัฐ โดยบริษัทในเครือของเขาสามารถครองตลาดโทรศัพท์บ้านถึง 92% และตลาดโทรศัพท์มือถือ 73% นายคาร์ลอสเปิดเผยว่า ความสำเร็จส่วนหนึ่งของเขามาจากการมองเห็นโอกาสก่อนใครอื่น ซึ่งสิ่งนี้เขาได้เรียนรู้จากการอ่านหนังสือ ฟิวเจอร์ ช็อค หนังสือขายดีของนักเขียนชื่อดัง อัลวิน ทอฟเลอร์ นายคาร์ลอสได้ดำเนินกลยุทธ์ในการกว้านซื้อบริษัทต่างๆ ที่ไม่ทำกำไรในราคาถูก ก่อนนำมาบริหารใหม่จนมีกำไร และทำให้เขี่ยคู่แข่งออกจากตลาด
หลังทราบข่าวว่าตัวเองถูกจัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก นายคาร์ลอสกล่าวว่า การจัดอันดับดังกล่าวไม่มีผลใดๆต่อตัวเขาเลย และเป็นเรื่องไม่สำคัญว่าเขาจะอยู่อันดับ 1 อันดับ 200 หรืออันดับ 2,000 สิ่งสำคัญยิ่งกว่าความร่ำรวยคือ งานที่ทำมีความสอดคล้องกับชีวิตส่วนตัวและครอบครัว นอกจากนั้น นายคาร์ลอสยังแสดงท่าทีว่า เขาไม่สนใจจะแข่งขันกับบิล เกตส์ในด้านการกุศล ขณะที่มูลนิธิบิล และเมลินดา เกตส์ เน้นการขจัดปัญหาความหิวโหยและปัญหาด้านสาธารณสุขในประเทศยากจน นายคาร์ลอสมุ่งส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชน รวมถึงการสนับสนุนงานด้านสาธารณสุขแก่คนยากไร้ในเม็กซิโก โดยปีนี้เขาตั้งเป้าบริจาคคอมพิวเตอร์แลปท็อป มูลค่า 70 ล้านดอลลาร์ แก่นักเรียนเม็กซิโก
ด้านนิตยสารฟอร์บส์ ได้จัดอันดับนักแสดงฮอลลีวูด ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุด โดยอันดับ 1 ตกเป็นของแมท เดมอน พระเอกหนุ่มวัย 36 ปี ที่ทุก 1 ดอลลาร์ที่จ่ายเป็นค่าจ้างเขา ผู้จ้างจะได้รับผลตอบแทน 29 ดอลลาร์ ในรูปรายได้รวม ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน ภาพยนตร์เรื่อง เดอะ บอร์น อัลติเมทัม ที่เดมอนแสดงนำ ลงโรงฉายในสหรัฐฯ และขึ้นอันดับ 1 ในบ็อกซ์ ออฟฟิศ ด้วยรายได้ 70.2 ล้านดอลลาร์ สำหรับพระเอกที่จัดว่าคุ้มค่าแก่การว่าจ้าง อันดับ 2 ได้แก่ แบรด พิตต์ ที่รายได้รวมจากการว่าจ้าง 1 ดอลลาร์ จะอยู่ที่ 24 ดอลลาร์ อันดับ 3 เป็นของนักแสดง 2 คน คือจอห์นนี่ เดปป์ กับวินซ์ วอห์น ส่วนนักแสดงหญิงที่ให้ผลการลงทุนคุ้มค่ามากที่สุดคือ เจนนิเฟอร์ อานิสตัน อดีตภรรยาของแบรด พิตต์ ขณะที่แองเจลีนา โจลี แฟนใหม่ของแบรด พิตต์ ขึ้นแท่นอันดับ 6 ฟอร์บส์จัดอันดับดังกล่าว โดยคำนวณจากรายได้สุทธิของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง บวกกับรายได้จากดีวีดีหรือวีซีดีให้เช่า จากนั้นลบด้วยต้นทุนสร้าง |
|