(D)
ทุกท่านที่เป็นนักสะสมพระเครื่องคงมีความต้องการที่ตรงกันอยู่ประการหนึ่ง นั่นคือการได้เป็นเจ้าของพระแท้ตามมาตรฐานนิยม ซึ่งการได้พระแท้มานั้นเป็นความสุขทางใจประการหนึ่ง หรือไม่ก็เป็นการออมเงินรูปแบบหนึ่ง ปัญหาที่มักจะพบกันมากก็คือ "ทำอย่างไรจะรู้ได้ว่าพระที่ได้มานั้นแท้หรือไม่?"
ปัญหานี้จะไม่มีกวนใจท่านนักสะสมเลย หากว่าเป็นสายตรงที่มีความรู้เกี่ยวกับพระที่ได้มาในระดับที่ดีมาก สามารถบ่งชี้แท้-ปลอมได้ด้วยตนเอง เรียกกันตามภาษาสมัยใหม่ว่า สามารถสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับพระเครื่องที่ตนเองนิยมชมชอบได้ แต่ชีวิตคนเรามันไม่ได้จบอยู่แค่ตรงนั้นครับ
หลายครั้งที่นักสะสมจะพบว่าตนเองไปชื่นชอบพระองค์ใดองค์หนึ่งเข้า โดยที่ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับพระเครื่ององค์นั้นเลย อาจจะรู้แค่ประวัติที่ผ่านตา แล้วประทับใจ โดยไม่รู้ว่าการแยกแยะแท้-ปลอมนั้นดูตรงไหน ประวัติการสร้างเป็นอย่างไร แต่ก็ตัดสินใจเช่าหามาจนได้ ผมเชื่อว่านักสะสมพระเป็นเหมือนๆกันอย่างหนึ่ง คือชอบเสี่ยงและมักจะเข้าข้างตนเองเสมอๆ ซึ่งผมก็เป็นแบบนั้น และโดนอยู่เรื่อยๆเช่นกัน
ดังนั้นจึงมีการแห่พระขึ้น จริงๆแล้วเราก็ไม่ได้จัดขบวนเอาพระใส่บ่าแห่ไปที่ไหน แต่การแห่พระคือการพิสูจน์ความแท้-ปลอมของพระเครื่องที่ได้ผลประมาณ 99% ส่วนตัวผมเชื่อการแห่พระในสนามมาตรฐานมากกว่าการส่งพระเข้าประกวดเสียอีก เหตุผลคือ กรรมการที่รับพระเข้าประกวดนั้น ดูพระโดยที่ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรเข้ามาเกี่ยวข้องเลย แต่เซียนนั่งสนามนั้นดูพระโดยที่หวังผลทางการค้าส่วนตนด้วย ความละเอียดและความแม่นยำจึงผิดกัน ยิ่งมาตรฐานของงานประกวดพระที่ยังไม่มีข้อยุติ พระที่ติดรางวัลงานนี้ ไปส่งงานหน้าอาจจะโดนเขี่ยออกตั้งแต่คนรับพระก็เป็นได้
แล้วหน้าใหม่ใจรักจะแห่พระอย่างไร?
บางคนที่สะสมใหม่ๆ อาจจะงงที่ว่าการเดินเอาพระไปยื่นให้เซียนในสนามแล้วถามเขาเลยว่า "แท้หรือไม่?" มักจะได้คำตอบว่า สวยดี พระน่ารัก หรือพี่เก็บไว้ดีๆนะ อะไรทำนองนี้ แล้วกลับมาหัวใจพองโตอยู่บ้านว่าพระที่ได้มานั้นดี แท้แน่นอน ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดมหันต์ ไม่มีเซียนสนามคนไหน ดูพระของคนที่ไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อนแล้วชี้เปรี้ยงเลยว่า พระองค์นี้ของพี่เก๊ เพราะอะไรครับ เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าพี่ไปเช่ามาจากไหน และพี่เป็นใครก็ไม่รู้ เกิดฟันเปรี่ยงไปว่าเก๊แล้วโดนสหบาทาทีหลัง เขาก็ซวย(เรื่องทำนองนี้เกิดกับเซียนอาวุโสสายพระกรุและสายสุพรรณมาแล้ว)
หากต้องการรู้ว่าพระที่ได้มานั้นแท้หรือไม่ โดยการแห่ในสนาม ผมย้ำว่ากรณีที่ไม่รู้จักใครเลยนะครับ ขั้นแรกสุดต้องทำใจครับ ทำใจว่าพระที่เช่ามาไม่ได้มีองค์เดียวในโลก ทำไมต้องทำใจแบบนี้ครับ เพราะว่าเราจะฟอร์มเอาพระไปปล่อยให้เซียนสนามเช่าครับ ไม่ใช่เดินทื่อเข้าไปถามเขาว่าแท้หรือเปล่า
ต่อมาก็ต้องพอทราบราคากลางที่เขาเล่นหาพระที่ต้องการรู้ เพื่อที่เราจะเปิดราคาให้เขาถูก กรณีที่เขาดูแล้วถามราคา ผมสมมติเอาตัวผมเองก็แล้วกันครับ ว่าไอ้ทิดโปร่งได้เหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นสามมาหนึ่งเหรียญ สวยปิ๊ง และนอนส่องนั่งส่องเองแล้วก็ยังไม่มั่นใจว่าแท้ป่าวหว่า? ไอ้ทิดเลยต้องไปแห่ดูหน่อย
ไอ้ทิดโปร่งก็จัดแจงเปิดเวบสยามไล่ดูราคากลางของเหรียญที่เขาเช่าหากันเสียก่อน จากนั้นอาจจะไปเปิดหนังสือพระดูว่าราคาหนังสือประมาณเท่าไหร่ เพื่อจะเอามาถัวกันได้ ส่วนราคาที่เช่ามานั้นไอ้ทิดจำแม่น เพราะโอนไปให้เขาสดๆร้อนๆ สลิปยังอยู่เลย สมมติอีกทีว่าไอ้ทิดเช่ามา 7000 บาท ส่วนราคากลางก็ประมาณ 6500-7000 บาท (ไอ้ทิดเช่ามาชนิดเต็มปอด)
เดินเข้าสนามมันเลย สายตาสอดส่ายหาเซียนประจำตู้ และหลบตาผีสนามไม่ให้มันรู้ว่าเรามีพระมาแห่
อ่ะ เจอเซียนเข้าแล้ว
ทิดโปร่ง : พี่ครับ ผมมีพระมาปล่อย
เซียน : ไหนเอามาดูหน่อยน้อง
ผมก็ควักออกจากกระเป๋ายื่นให้พี่เขา พี่เซียนก็ควักกล้อง (ไซส์ จีน่า) มาส่องหมับเข้าให้ พลิกหน้าพลิกหลัง ดูข้างเหรียญ ส่องเข้าไปในหูเหรียญ ก่อนจะเสร็จพิธี
เซียน : เท่าไหร่น้อง
ทิดโปร่ง : แปดพันห้าครับพี่ (ตรงนี้ไอ้ทิดพอรู้ว่าพระน่าจะแท้)
เซียน : แพงนะเนี่ยน้อง ของพี่ก็มีสวยพอๆกัน ขายอยู่ 7000 เอง ลดหน่อยได้ป่าว
ทิดโปร่ง : โหยไม่ได้หรอกครับพี่ ผมเดือดร้อนต้องใช้เงินเท่าที่ผมบอกแหละ น้อยกว่านี้ไม่ได้ (ตรงนี้ไอ้ทิดรู้แล้วว่าพระตนเองแท้ 95% และใช้วิชาสตอเบอแหลเพื่อจะไม่ให้เซียนเช่าไป)
เซียน : เอ้า งั้นพี่ต่อคำเดียว แปดพันขายป่าว นี่เอาตังค์ไปเลย
ทิดโปร่ง : โอเคครับพี่ ตังค์มา
อ้าวเฮ้ย!!! ไอ้ทิด ไหนว่าเอ็งเอามาแห่ไง ไหงขายเขาไปซะล่ะ? อันนี้แล้วแต่บุคคลครับ ถ้าเสียดายก็แข็งราคาไว้ เขาซื้อไปแล้วขายต่อไม่ได้เขาก็คืนพระมาเอง แต่ถ้าเกิดเขาดันซื้อที่ราคาที่เราเปิด ก็ให้คิดเสียว่าหาเอาใหม่ครับ อย่าไปเสียดายจนเกินงาม
ซึ่งการเปิดราคาให้มันล้นจากราคากลางเนี่ย มันต้องประมาณให้ดีๆ ถ้าล้นเกินไปมาก เขาก็ไม่ต่อนะครับ อย่างพระเล่นกันเจ็ดพันไปเปิดหมื่นห้า ก็ไม่มีใครต่อเช่นกัน แบบนี้พาจะทำให้เราไม่รู้เปล่าๆว่าพระเราแท้หรือไม่
คำแรกถ้าถามว่าเท่าไหร่ แสดงว่าพระเราเข้าเค้าว่าจะเป็นพระแท้ ถ้าเปิดราคาไปแล้วมีต่อรอง แสดงว่าแท้ไป 95% เหลือไว้อีก 5 เผื่อเซียนจะพลาด ประมาณนั้นครับ
อีกประการหนึ่งก็ดูทรงของเซียนหน่อยนะครับ ว่าหน้าพระที่วางตู้เขานั้นเป็นพระจำพวกเดียวกับที่เราเอาไปแห่หรือเปล่า ถ้าคนละทางเลยก็ให้เว้นไปเถอะครับ เหนื่อยเปล่าๆ เดี๋ยวเขาไปเรียกคนโน้นคนนี้มาดูก็จะวุ่นไปใหญ่
วันนี้เอาประมาณนี้ก่อนนะครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับนักสะสมบ้างครับผม |