กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

http://www.komchadluek.net/2007/08/10/a001_130618.php?news_id=130618

สาวติดเอดส์ไล่แพร่เชื้อดะ สสจ.จันท์รับเหยื่อนศ.60คน
10 สิงหาคม 2550 11:32 น.
ตื่นที่เมืองจันท์ สาววิทยาลัยถูกรุมโทรมจนติดเอดส์ ออกหาคู่นอนแพร่เชื้อแก้แค้น เผยเหยื่อมีทั้งเพื่อนนักศึกษาไปจนถึงข้าราชการที่นิยมเคี้ยวหญ้าอ่อน ขณะที่สาธารณสุขจังหวัดยอมรับเรื่องจริง เผยวิทยาลัยมาขอคำปรึกษา มีนักศึกษาชายเคยร่วมหลับนอนแล้ว 60 ราย แต่ยังบอกไม่ได้ว่าแพร่เชื้อไปเท่าใด

ผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" ประจำ จ.จันทบุรี รายงานว่า ขณะนี้เกิดกระแสข่าวแพร่สะพัดใน จ.จันทบุรีว่ามีสาววัยรุ่นที่ถูกข่มขืนเรียงคิวจนติดเชื้อเอชไอวีไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายอีกหลายคนเพื่อแพร่เชื้อเป็นการแก้แค้น เหยื่อมีแทบทุกวงการ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดตามเบาะแส พบผู้ชายบางคนที่อ้างว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวรายนี้ โดยชายหนุ่มอายุ 17 ปี คนหนึ่ง กล่าวว่า หญิงสาวดังกล่าวเคยเป็นนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อายุ 15 ปี และมีพฤติกรรมตามที่มีข่าวลือกันจริง แต่ขณะนี้วิทยาลัยทราบเรื่องจึงให้พ้นจากสภาพนักศึกษา

ชายหนุ่มรายนี้ กล่าวอีกว่า หญิงสาวดังกล่าวมีรูปร่างหน้าตาดี ผิวขาว โดยติดเชื้อเอชไอวีจากกลุ่มวัยรุ่นวิทยาลัยเดียวกันที่พาไปข่มขืนในลักษณะรุมโทรม ต่อมาเมื่อทราบว่าตนติดเชื้อ ก็ชักจูงเพื่อนผู้ชายไปร่วมหลับนอน จนเป็นที่รู้กันดี บางครั้งก็ขอเงินเพียง 40 บาทเท่านั้น แลกกับการร่วมหลับนอน

วัยรุ่นชายผู้นี้ เล่าต่อว่า นอกจากเพื่อนนักศึกษาด้วยกันแล้ว ทราบว่ายังมีผู้ชายอาชีพอื่นๆ ร่วมหลับนอนกับหญิงสาวรายนี้อีกหลายคน อาทิ คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง พนักงานบริษัทต่างๆ รวมทั้งข้าราชการภายในจังหวัดที่มีรสนิยมชอบมีเพศสัมพันธ์กับสาววัยรุ่น นอกจากนี้ ทราบว่าเคยมีหนุ่มกรุงเทพฯ ร่วมหลับนอนด้วย

"ผมรู้ตัวว่าติดเชื้อจากเธอ เพราะทางวิทยาลัยมีการขอให้นักศึกษาส่งข้อมูลในทางลับว่าใครเคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงสาวคนนี้บ้าง และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้จะใส่ถุงยางอนามัยก็ตาม แต่หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว กลับพบว่าน้ำอสุจิของผมไหลออกจากถุงยางอนามัย เมื่อถามเพื่อนๆ ที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับเธอ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า จะมีปัญหาน้ำอสุจิไหลออกจากถุงยางอนามัยกันทุกราย ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยที่เธอเตรียมเอาไว้ให้โดยเฉพาะเท่านั้น คาดว่าน่าจะมีการเจาะรูไว้" วัยรุ่นชายรายนี้ กล่าว

ผู้สื่อข่าวยังตรวจสอบเรื่องนี้กับ นพ.อุทัย ตันสุวรรณ สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ได้รับการชี้แจงว่า สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรีได้รับทราบเรื่องนี้จากอาจารย์วิทยาลัยดังกล่าวแล้ว โดยวิทยาลัยได้มาขอคำปรึกษาเรื่องการแพร่เชื้อ ซึ่งสาธารณสุขก็ได้จัดอบรมครูอาจารย์ให้เข้าใจเรื่องโรคเอดส์ว่ามีการแพร่เชื้ออย่างไร และมีวิธีการป้องกันอย่างไร นอกจากนี้ ยังจะไปให้ความรู้กับนักศึกษาต่อไปด้วย

"จากการสอบถาม พบว่ามีนักศึกษา 60 ราย ที่มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวรายนี้ แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการติดเชื้อหรือไม่ เพราะทุกคนยังไม่มีใครให้เจาะเลือดตรวจ ส่วนเด็กสาววัย 15 ปีคนนี้จะมีเชื้อหรือไม่นั้น สาธารณสุขก็ยืนยันไม่ได้เช่นกัน เพราะไม่มีการตรวจเลือด" นพ.อุทัย กล่าว

นพ.อุทัย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ชมรมต้านเอดส์ของโรงพยาบาลแหลมสิงห์ได้ติดตามนักศึกษาชายที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวรายนี้มาตรวจเลือด ก็ยังไม่พบว่าติดเชื้อแต่อย่างใด

ความคืบหน้าครับพี่น้อง

http://www.komchadluek.net/2007/08/11/a001_130762.php?news_id=130762

สธ.สั่งเยียวยานศ.แพร่เอดส์ วอนสังคมอย่าประณาม
11 สิงหาคม 2550 00:48 น.
ผอ.วิทยาลัยเมืองจันท์ ปัดไม่เคยตรวจเลือดนักศึกษาสาวที่ถูกกล่าวหาติดเอดส์แพร่เชื้อแก้แค้น อ้างแค่เชิญผู้ปกครองรับทราบผลการเรียนติด "ร" ถึง 6 วิชา อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยรู้ตัวแล้ว ประสานกรมสุขภาพจิตเข้าดูแลจิตใจ ด้านประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์ฯ ชี้สังคมไม่ควรประณามเด็ก

ความคืบหน้ากรณีที่มีกระแสข่าวแพร่สะพัดใน จ.จันทบุรี ว่ามีนักศึกษาสาวที่ถูกเรียงคิวข่มขืนจนติดเชื้อเอชไอวีไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคนเพื่อแพร่เชื้อเป็นการแก้แค้นนั้น เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยดังกล่าว ให้เข้าพบผู้อำนวยการเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ได้รับคำอธิบายว่า ทางวิทยาลัยไม่ได้ไล่เด็กสาวคนดังกล่าวออกแต่อย่างใด เพียงแต่เชิญผู้ปกครองมาพูดคุยถึงเรื่องการเรียนที่ติด "ร" ถึง 6 วิชา จากทั้งหมด 11 วิชา และขาดเรียนเกินกำหนด นอกจากนี้ ยังพบว่านักศึกษาสาวคนดังกล่าวมักจะนั่งสูบบุหรี่อยู่ด้านหน้าวิทยาลัยด้วย ผู้ปกครองจึงขอนำไปเรียนต่อที่อื่น ซึ่งเรื่องราวก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว

ผู้อำนวยการ กล่าวอีกว่า ปัญหาเรื่องเป็นโรคเอดส์หรือไม่นั้น ทางสถาบันไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่มีการตรวจเลือด นอกจากเจ้าตัวจะไปตรวจเลือดเพื่อดูผลเชื้อเอชไอวี ฉะนั้น คนที่ไม่มีผลการตรวจเลือดก็ไม่สามารถจะระบุได้ว่าเป็นหรือไม่เป็น

"เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของข่าวลือที่มีมาแบบไม่มีเหตุ หากต้องการรู้ความจริงก็ต้องมีตัวเลขจากสาธารณสุขเข้ามา แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีการแจ้งจากสาธารณสุขแต่อย่างใด ปกติวิทยาลัยมีการพัฒนาคุณภาพของวิทยาลัย มีการให้ความรู้เรื่องโรคเอดส์โดยจัดทำโครงการแนะแนวให้เด็ก และคลินิกใจรัก เปิดให้นักศึกษาที่มีเรื่องทุกข์ใจได้เข้าปรึกษา เรื่องผลกระทบกับวิทยาลัยนั้นไม่น่าจะมี เพราะวิทยาลัยเป็นสถาบันการศึกษา และวิทยาลัยก็ไม่ได้ไปทำความเสียหาย แต่มีหน้าที่ให้การศึกษาแก่สังคม"

ผอ.วิทยาลัยดังกล่าว เปิดเผยอีกว่า เหตุการณ์ที่เป็นเรื่องราวขึ้นมา น่าจะเป็นข้อคิดของเยาวชนให้ระมัดระวังตัวในการใช้ชีวิต และเป็นปัญหาของคนทุกฝ่ายต้องเข้ามาช่วยกันดูแล ไม่ว่าจะเป็นหอพัก บ้านเช่าต่างๆ ที่เยาวชน หรือนักศึกษามักไปเช่าพักกันอยู่ โต๊ะสนุกเกอร์ อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ร้านเกมต่างๆ อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันกวดขัน มิฉะนั้นก็จะเกิดปัญหาไม่สิ้นสุด

อย่างไรก็ตาม จากกรณีดังกล่าว นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ได้มอบให้สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรีดำเนินการแล้ว เนื่องจากเป็นปัญหาภายในพื้นที่ ซึ่งมีความละเอียดอ่อน และเท่าที่ได้รับรายงานขณะนี้ทราบแล้วว่า นักศึกษาคนดังกล่าวเป็นใคร และอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างละมุนละม่อม ก่อนอื่นต้องทำให้นักศึกษาหญิงคนดังกล่าวหยุดพฤติกรรมเช่นนี้ และหากเป็นการติดเชื้อเอดส์จากการถูกรุมโทรมจริง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจอย่างมาก และสมควรที่จะได้รับความช่วยเหลือ แต่ไม่ควรมีพฤติกรรมในลักษณะนี้ที่เป็นการก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น และสมควรได้รับการประณามจากสังคมโดยรอบ แม้ว่าจะมีความรู้สึกโกรธแค้นฝังใจจนเกิดความเคียดแค้น

นพ.ธวัช กล่าวว่า ขณะนี้ประสานไปยังกรมสุขภาพจิตให้เข้าไปดูแลในเรื่องสภาพจิตใจด้วย ซึ่งคงต้องได้รับการบำบัดไม่เพียงแต่เฉพาะนักศึกษาหญิงคนดังกล่าวเท่านั้น แต่รวมถึงผู้ชายที่ถูกชักชวนไปร่วมหลับนอนด้วย ที่ถูกระบุว่ามีถึง 60 คน ภายหลังจากที่ทราบข่าวและรู้ตัวดีว่าเคยไปร่วมหลับนอนกับนักศึกษาหญิงคนนี้มาแล้ว ทั้งนี้ เป็นที่น่าคิดว่า หลังจากที่นักศึกษาหญิงถูกกระชากหน้ากากออกมาแล้ว จะอยู่ในสังคมอย่างไรต่อไป

การดำเนินการตามกฎหมายนั้น เท่าที่ดูข้อกฎหมายต่างๆ แล้ว ไม่พบว่ามีกฎหมายใดที่สามารถเอาผิด หรือกักตัวนำมาลงโทษได้ เพราะการหลับนอนร่วมเพศที่เกิดขึ้นเป็นความยินยอมของทั้งสองฝ่าย และการนำตัวมากักไว้จะถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการแพร่เชื้อต่อไปยังผู้อื่น โดยใช้วิธีชักชวนให้ร่วมหลับนอนนั้น เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นแล้วในสังคมก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ใหม่และได้จางหายไป ซึ่งขณะนี้มีทั้งการใช้เข็มเที่ยวไล่จิ้มแทงผู้อื่น ถือเป็นพวกโรคจิต เป็นปัญหาสังคม แต่ปัญหาข้างต้นถือเป็นเรื่องที่คนในสังคมจะต้องเกิดความตระหนักในการระมัดระวังป้องกันโรคในการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า

“ผู้ชายเองก็ควรตระหนักในการป้องกัน และต้องระวังตนเอง ไม่ใช่ไปมีเพศสัมพันธ์กับใครก็ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าในสังคมมีคนที่มีความคิดแบบนี้เท่าไร ดังนั้น เป็นไปได้ก็ควรป้องกันตนเอง หากมีผู้หญิงแปลกหน้า หน้าตาดี ซึ่งไม่ใช่ผู้หญิงบริการ มาขอร่วมหลับนอนกันแบบง่ายๆ ก็ต้องระวัง และควรสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันด้วย” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เหตุที่เกิดขึ้นเพราะคิดว่าวัยรุ่นหญิงคนดังกล่าวยังเป็นนักศึกษาอยู่ ทำให้เกิดความประมาท และคิดว่าคงไม่มีโรคติดต่อ

นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า เท่าที่ทราบขณะนี้ยังหาตัวนักศึกษาหญิงคนที่เป็นข่าวไม่พบ ซึ่งก่อนอื่นคงต้องหาตัวให้เจอก่อน เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นอย่างไร มีสภาพจิตใจที่เป็นปกติเหมือนคนทั่วไปหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สังคมไม่ควรซ้ำเติม เพราะเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เป็นไปได้ว่าเมื่อเกิดปัญหาหลังถูกรุมโทรมแล้ว นักศึกษาหญิงคนดังกล่าวไม่ได้รับความช่วยเหลือ หรือไม่ได้รับความเห็นใจจากคนรอบข้าง จึงหาทางออกในลักษณะนี้ เนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น โดยไม่คิดว่าสิ่งที่ทำไปจะถูกต้องหรือไม่ และสร้างผลกระทบกับใครในภายหลัง สังคมจึงควรให้โอกาส

นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับการประสานจากอธิบดีกรมควบคุมโรคแล้ว และจะส่งทีมสุขภาพจิตลงไปช่วยดูแลทั้งนักศึกษาหญิงคนดังกล่าว รวมถึงกลุ่มผู้ชายที่เคยร่วมหลับนอน ซึ่งก่อนอื่นผู้ที่เคยร่วมหลับนอนคงต้องไปตรวจว่าตนเองติดเชื้อเอดส์หรือไม่ เพราะไม่ใช่ทุกรายจะได้รับเชื้อทั้งหมด อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ให้ระมัดระวังในการรู้จักป้องกันตนเองในการไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่น

ด้าน นายวิรัตน์ ภู่ระหงษ์ ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย กล่าวว่า สังคมยังไม่ควรประณาม หรือหวั่นกลัวนักศึกษาสาวผู้นี้จนเกินเหตุ เพราะยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อาจเป็นการสร้างข่าวลือให้ระทึกแล้วก็เงียบหายไปก็ได้ แต่หากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ตัวนักศึกษาสาวที่ติดเชื้อเอชไอวีคงกำลังทุกข์ทรมานใจ เพราะยังเป็นวัยรุ่น อาจเกิดความคับแค้นใจอยากแก้แค้น ต้องการระบายความแค้นออกมากับผู้ชายที่คิดว่าเป็นศัตรู ทำให้ตนเองติดเชื้อร้าย

"ตอนที่รู้ตัวว่าติดเชื้อเอดส์ น้องคงไม่รู้ว่าจะปรึกษาใครดี และไม่เคยได้รับการเยียวยาทางจิตใจอย่างถูกต้อง ถ้ามีใครให้คำแนะนำที่ดี บอกให้เข้าใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปไม่ได้ เราต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อคนที่เรารัก เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เราจะมีชีวิตที่ดีต่อไปเพื่อคนเหล่านี้อย่างไร จะเรียนรู้การรักษาตัวหลังติดเชื้อเอดส์ การป้องกันตนเองเมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไปอย่างไร เพื่อให้ดำรงชีวิตต่อไปได้ในสังคม ทุกคนที่อยู่รอบข้างน้องคนนี้ต้องช่วยกันให้กำลังใจ ช่วยกันสนับสนุนให้มีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ หากน้องคนนี้ หรือใครที่ประสบปัญหาเดียวกัน ต้องการความช่วยเหลือจากเครือข่าย ก็ให้ติดต่อมาโดยตรงที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2377-5065" นายวิรัตน์ กล่าว

ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีฯ ยังแนะนำด้วยว่า การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่ผู้ติดเชื้อเอดส์ต้องป้องกันตัวเองอย่างดี ใช้ถุงยางอนามัยที่ปลอดภัยทุกครั้ง เพราะการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันจะเกิดโทษ 2 ประการ คือ อาจทำให้ตัวเองได้รับเชื้อเอดส์เพิ่ม ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะอ่อนแอเร็วยิ่งขึ้น ประการที่สอง อาจแพร่เชื้อเอดส์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้คนอื่นได้รับความทุกข์แสนสาหัส หรือทำลายชีวิตใครโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้น ทางที่ดีต้องไม่รับเชื้อเอดส์เพิ่ม และไม่ส่งต่อเชื้อเอดส์ให้คนอื่น เพราะการส่งต่อจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมทำอันตรายให้แก่ตัวเอง