(N)
เฉียดตาย
วันที่ 3 หลังจากมาเลพักผ่อนปีใหม่ที่เมืองจันผมออกเดินทางจากหาดเจ้าหลาว (จันทบุรี) เพื่อที่จะเดินทางกลับมาทำงานที่ บุรีรัมย์ ผมออกเดินทาง ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถนนโล่ง การเดินทางสบายๆ ผมจอดแวะเที่ยวบ้างตลอดทาง จนมาถึงช่วงขึ้นเขาเส้น "ตาพระยา" ตอนนั้นเวลา 16:30 น.โดยประมาณ
รถติดหนักมาก แทบไม่ขยับเลย ผมก็เริ่มหงุดหงิด ผมก็เปิด FB อ่านข่าว ช่วงนั้น ข่าวรถตู้ 25 ศพกำลังแชร์กันอยู่พอดี ...ผมก็อ่านไปเรื่อย จู่ๆแฟนก็บ่นๆว่า ผมนี่งมงายห้อยพระอะไรเต็มคอไปหมด (จริงๆ 4 องค์เอง 555)
แฟนผมไม่ค่อยเข้าใจ เพราะเขานับถือ "คริสต์" จึงไม่สนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่
ผมจึงอธิบายไปว่า ที่ห้อยเพราะเราเดินทาง บางทีก็อุ่นใจ อย่างน้อยก็แคล้วคลาดปลอดภัย และแต่ละองค์ที่ห้อยมาก็ราคาแพงๆเท่ากับสร้อยทองที่เธอใส่ทั้งนั้น (จริงๆ เป็นพระที่เช่ามาแค่ พันต้นๆเท่านั้นแหละครับ 555 แต่แฟนผมชอบอะไรที่มันดูมีราคา เธอมักคิดตามประสานักธุรกิจ)
ตอนนั้น ระหว่างทาง ไม่มีร้านอาหาร ไม่มีห้องน้ำ รถเคลื่อนช้ามากๆ ผมหลุดจากเส้นตาพระยา ก็ สี่ทุ่มกว่าแล้วบอกกับแฟนว่าเพลียมาก ผมขับรถมาเรื่อยๆตาม GPS จนเข้าจะถึงบ้านอีก 50กม.
ซักพัก หนังตาเริ่มตก ผมเริ่มหลับตาเป็นช่วงๆ รู้ได้เลยว่าเราจะหลับแล้ว แต่ก็ฝืนขับต่อไป มืออีกข้างหนึ่งแตะพระที่ห้อยคอเป็นระยะๆ ขอให้ปลอดภัย แฟนกับลูก วัยสี่ขวบนอนหลับอยู่เบาะหลัง ผมกะว่าถ้าเจอปั้มน้ำมันจะต้องแวะพักซะก่อน เพราะระหว่างทางเปลี่ยวมาก มืด ไม่มีไฟ คงไม่เหมาะกับจอดพัก
แต่จู่ๆ ไม่รู้ว่าผมวูบไปตอนไหน...(ผมฝัน) ว่ามีผู้ชายแก่ๆ ใส่หมวกง่อม และชุดหม้อห้อมเหมือนชาวนา ปั่นจักรยานกลางถนน มองเห็นแสงไฟท้ายจักรยานอยู่ราวๆ 100 เมตร ในฝันผมใช้เท้าค่อยๆแตะเบรกช้าๆเพื่อชะลอความเร็วลง
วินาทีนั้น ..ผมสะดุ้งตื่น!!! มือยังจับพวกมาลัยไว้แน่น...อีกระยะทาง 50 เมตร ข้างหน้าเป็นโค้งพอดี ........ผมค่อยๆแตะเบรกชัาๆแล้วปลุกแฟน จากนั้นก็บอกแฟนว่าหลับใน แฟนจึงนั่งคุยเป็นเพื่อนตลอดทาง จนถึงบ้าน...เกือบ ตีหนึ่ง....
ตื่นเช้ามาผมยังคิดเลยว่า ถ้าเราไม่ตื่นตอนโค้ง ป่านนี้คงลงข้างทางกันหมด....ไม่รู้จะรอดปล่าว
อาจจะเพราะผมโชคดี ยังไม่ถึงฆาต หรือ เพราะพระที่ห้อยคอช่วยผมอยู่ก็ได้...
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะครับ
|
|