กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : เคยรู้สึกผิดบ้างไหมครับ(ระบายนิดหน่อย)

(N)

รู้สึกผิดกลายๆ ว่าขายพระกิน แต่ก็เลิกไม่ได้

ใจรักแต่ก็ยังรู้สึกว่า เราไม่ได้ศรัทธา ทำไปเพื่อเงิน

โดยคุณ nanoh2015 (985)

[จ. 10 ก.พ. 2563 - 05:38 น.]

โดยคุณ looknam1 (2.6K)

[จ. 10 ก.พ. 2563 - 09:36 น.] #3926012 (1/10)

ทุกคนต้องทำมาหากินทั้งนั้นครับ การทำสัมมาอาชีพที่สุจริต ไม่ได้สร้างความทุขยากให้กับผู้ใด ไม่ได้ทำผิดกฏหมาย ต้องถือว่าไม่ได้ทำอะไรผิดครับ

ทุกอาชีพต่างก็ต้องทำกินทั้งนั้นครับ

- ทำนากิน
- ทำสวนกิน
- ค้าขายกิน
- เป็นทหารกิน
- เป็นตำรวจกิน
- เป็นครูกิน
- เป็นทนายกิน

----------------------------------------------------------------

โดยคุณ nooing (28.8K)

[จ. 10 ก.พ. 2563 - 12:13 น.] #3926026 (3/10)

เลิกเอาความคิดของคนโบราณที่ว่า " ขายพระกิน " มาฝังในหัวได้แล้วครับ ยุคสมัยเปลี่ยนไป ตอนนี้จะว่าเป็นยุคทุนนิยม ก็เต็มตัวแล้ว หมายถึง ของที่เราศรัทธา หาไม่ได้ ไม่ได้แจกฟรีตามกำลังศรัทธาเหมือนสมัยก่อน ใครอยากได้ไว้ครอบครองก็ต้องลงทุน แยกเป็น ของสะสมตามศรัทธา และ การลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าในอนาคต

เพราะฉะนั้นเลิกฝังหัวความคิดแบบนั้นไปเสียทีครับ ยกตัวอย่าง วัดสมัยนี้ ทำวัตถุมงคลแทบจะไม่เห็นของแจกฟรีเลย ไม่ได้ให้ใส่ตู้แล้วหยิบได้ตามใจ ทุกอย่างกำหนดราคาไว้หมดแล้ว พระองค์ละร้อย กระเบื้องแผ่นละร้อย ต้นไม้ต้นละร้อย กองทรายกองละ 200 อะไรทำนองนี้

สมัยก่อน พระไม่มีค่าน้ำค่าไฟที่ต้องจ่าย ใช้จุดเทียนเอา น้ำก็ตักมาจากคลอง แต่สมัยนี้ พระจำกุฏิ ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเอง แยกมิเตอร์เป็นกุฏิ ๆ ไป ถามว่าถ้าท่านไม่มีปัจจัยเหล่านี้ จะเอาจากไหนมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ

สรุป ยุคสมัยเปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยนตาม ไม่มีอะไรผิด เราทำอาชีพสุจริต หาเลี้ยงครอบครัว ไม่ผิดกฏหมาย เป็นผมไม่สนอะไรอีกแล้วครับ

โดยคุณ superpood (3.6K)

[อ. 11 ก.พ. 2563 - 11:16 น.] #3926062 (6/10)

เปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทุน ของฯเรา หามาก็ขายไป สมัยวัยรุ่นเดินซื้อตามท่าพระจันทร์และข้างธรรมศาสตร์ ตอนมีคนขอซื้อก็ขาย กลับมีบางคนว่าขายพระกินก็คิดเหมือนกัน แต่มันพระเรานี่นานเข้าก็เฉยฯขายหนักกว่าเก่าเพราะซื้อมานาน จนได้ราคาดี ตอนนี่คนที่ว่าก็มาขายพระแล้ว

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!