(N)
การทำธุรกิจพระออนไลน์อย่างมืออาชีพ
1.เลือกเว็บไซต์ที่มีผู้ชมผู้ติดตามหรือมีสมาชิกจำนวนมาก
2.จัดหาพระที่มีความน่าสนใจ และกล้าที่จะลงทุน
3.การบริหารจัดการและทำให้มีต้นทุนในการจัดจำหน่ายที่ไม่เสียเปรียบผู้ค้าอื่น
4.รักษาเครดิต และบริการให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด
ซึ่ง 4 ข้อหลักนี้เรามาดูกันว่ามันมีความสำคัญอย่างไร
*1.เลือกเว็บไซต์ที่มีผู้ชมผู้ติดตามหรือมีสมาชิกจำนวนมาก
การเลือกเว็บไซต์ที่เราจะไปทำธุรกิจค้าขายด้วย ก็เหมือนการเลือกตลาด เพราะถ้าเราเลือกตลาดที่มีคนซื้อขายกันมากๆ
ก็ย่อมหมายถึงเรามีที่ตั้งที่ดี โอกาสจะขายสินค้าได้มากก็จะมีมากขึ้น เคยสังเกตมั้ยครับว่า ทำไมแต่ละตลาด
ที่มีการซื้อขายสินค้าโดยทั่วไปนั้น อัตราค่าเช่า ค่าเซ้ง ทำไมดูแตกต่างกัน ทำเลที่มีคนเดินเยอะๆไม่ว่าจะเป็น
สีลม สำเพ็ง หรือตามห้างใหญ่ๆ อัตราค่าเช่าแพงมาก แต่ก็มีพ่อค้าแม่ค้าต่างแย่งกันจับจองเพื่อให้ได้สิทธิ์เข้าค้าขาย
การเลือกตลาดออนไลน์ก็เหมือนกัน ตลาดใหญ่ที่มีผู้เข้าชมมากๆก็ย่อมเป็นพื้นที่ที่ได้เปรียบ
เมื่อเราได้ตลาดที่ดีแล้ว การบริหารจัดการของเราก็ต้องบริหารต่อด้วยข้อต่อไป
*2.จัดหาพระที่มีความน่าสนใจ และกล้าที่จะลงทุน
อีกปัจจัยสำคัญก็คือ การเลือกหาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าของตลาด
เราต้องหมั่นตรวจหาข้อมูลการค้าในตลาดว่า ณ ปัจจุบันลูกค้าในตลาดที่เราค้าขายอยู่นั้นเขาต้องสินค้าแบบใด
การเลือกหาจัดการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า นับเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
การลงทุนในการหาพระต้องกล้าที่จะลงทุน กล้าคิดกล้าตัดสินใจแต่ต้องมีความรอบครอบมองให้รอบด้าน
การค้าขายออนไลน์นั้น ปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงพระเก่า พระกรุ พระดังเท่านั้นที่ขายได้ แต่พระกลางเก่ากลางใหม่
ตลอดจนพระใหม่ๆหากเราทำการค้าอย่างมืออาชีพต้องรู้จักบริหารการเลือกซื้อ การประชาสัมพันธ์
เพื่อให้พระของเราเป็นที่รู้จัก พรรคพวกเพื่อนฝูงผมหลายคนเขาหาพระโดยการไปหาเหมาพระตามวัดต่างๆ
เลือกพระที่มีการจัดสร้างอย่างถูกวิธี มีข้อมูลการจัดสร้างชัดเจนแน่นอน เหมายกวัดกันมาเลย
แล้วเอามาทำประชาสัมพันธ์ เลือกนำลงตามตลาดที่ตนเองไปเปิดไว้ การมีตลาดที่ดีมีผู้เข้าชมได้ทั่วสารทิศ
คนดูได้ทั่วโลก บางครั้งการลงในกระดานประมูลเอาไว้อาจขายได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ปะเหมาะเคาะห์ดี
มีลูกค้านอกเว็บ หรือลูกค้าต่างประเทศเห็นและมีความสนใจ ก็มีการซื้อขายกันได้เป็นล็อตใหญ่ๆ
ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ จะเกิดขึ้นเสมอๆด้วย ก็เพราะเขามีการจัดการที่ดี ประชาสัมพันธ์ที่ดี การลงประมูลนั้น
ก็เปรียบเหมือนการได้ลงประชาสัมพันธ์ประกาศสินค้าของเราไปทั่วโลก เพราะตลาดของเราเป็นตลาดที่เข้าถึงได้ทั่วโลก
ฉะนั้นพวกนักขายมืออาชีพเหล่านี้ เขาจะไม่ให้ความสำคัญกับการขายในการลงตั้งประมูลมากนัก
ว่าต้องขายให้ได้มากๆ เพราะการลงประมูลนั้นจะเป็นการขายแบบย่อยๆ กำไรแต่ละครั้งอาจน้อยมาก
แต่หากสินค้าไปต้องตรงใจ ผู้ที่เข้าชมนอกเว็บและติดต่อเข้ามาซื้อจำนวนมากอันนี้เขาจะคุ้มค่ามากกว่า
แต่หากมีคนซื้อในการประมูลมากๆด้วย อันนี้ก็ถือว่ายิ่งยอดเยี่ยมไปเลย
*3.การบริหารจัดการและทำให้มีต้นทุนในการจัดจำหน่ายที่ไม่เสียเปรียบผู้ค้าอื่น
ต้นทุนในการค้าขายนั้น นอกจากต้นทุนในการซื้อพระ ก็ต้องมีต้นทุนในการที่ต้องเสียให้กับตลาด
ค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง ซึ่งทุกอย่างล้วนสำคัญยิ่ง
การหาพระ ณ ปัจจุบัน การจะได้พระบ้านแบบฟลุ๊คๆ หรือได้ของถูกโดยบังเอิญโอกาสแทบจะมืดมิด
เพราะปัจจุบันโลกออนไลน์ทำให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารตลอดจนหาดูความเคลื่อนไหวของราคา
ได้แบบสามารถตรวจหาได้ ทุกคนที่มีพระและต้องการขาย ส่วนมากมักสืบค้นราคาก่อนขายกันมาแล้วทั้งสิ้น
ฉะนั้นคนซื้อเพื่อมาทำการค้าอย่างมืออาชีพ ต้องรู้จักซื้ออย่างมืออาชีพ กล้าซื้อเหมา กล้าซื้อจำนวนมาก
และต้องมีความแม่นยำด้วยว่าพระที่เราซื้อ เราสามารถมาทำราคา ทำกำไรได้เท่าไหร่ มีลูกค้ารองรับหรือไม่
การซื้อเหมาการซื้อจำนวนมาก มันเป็นเทคนิคการซื้อแบบพ่อค้า ที่สามารถต่อรองได้แบบมีชั้นเชิง
ซึ่งหากมีเทคนิคดี ย่อมได้พระที่นำมาออกต่อได้กำไรงามๆได้ เพราะเรามีตลาดดี และรู้ว่าตลาดของเราต้องการพระแบบไหน
หรือเรารู้ว่าเราสามารถทำกำไรจากพระที่เราซื้อมาได้อย่างไรบ้าง
ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เราต้องเสียให้ตลาด เราต้องรู้ว่าเราต้องเสียค่าอะไรบ้างในการค้าให้ตลาด
อย่างเช่นค่าลงตั้งประมูล
เราต้องรู้ว่าเราจะทำอย่างไรให้เรามีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด โดยที่เมื่อเราทำการค้าร่วมกับผู้ร่วมค้าด้วยกันแล้ว
เราไม่เสียเปรียบใคร สามารถแข่งขันได้กับทุกคน
เช่นอัตราค่าตั้งประมูล จะซื้ออย่างไร ตอนไหน ให้ได้ราคาถูกที่สุด การรับรู้ข่าวสารการปรับราคา
ข่าวสารการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ขายมืออาชีพต้องรับรู้ และกล้าที่จะตัดสินใจลงทุน
เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ถูกที่สุด
อย่างเช่นการปรับราคาของเว็บที่ผ่านมา นักขายหลายท่านผ่านมา 3 -4 เดือนยังไม่รู้เลยว่าตัวเองมีค่าใช้จ่าย
ในการลงตั้งประมูลเพิ่มขึ้นเป็นองค์ละ 20 บาท
แต่ผู้ที่รู้และเตรียมตัวพร้อมที่จะทำธุรกิจอย่างมืออาชีพเขาใช้ประโยชน์ในการรับโปรที่สำนักงานจัดให้
เตรียมความพร้อมซื้อเอาไว้ใช้พร้อมตลอดปี เขาจะมีค่าใช้จ่ายในการลงประมูลเหลือองค์ละ 6 บาท
ต้นทุนน้อยกว่ากัน 300% และยิ่งพอสำนักงานประกาศปรับลดช่วงโควิดลงมาให้ทั่วไปอยู่ที่องค์ 10 บาท
นักขายผู้ที่ไม่เคยเตรียมพร้อมดีใจกันใหญ่ว่าได้ตั้งประมูลเหมือนเดิมที่อัตตรา องค์ละ 10 บาท
แต่หารู้ไม่ว่าผู้ที่เตรียมตัวพร้อมไว้ทั้งปีนั้นรายการที่เขาเตรียมพร้อมไว้นั้น เมื่อลงประมูลเขาก็จะมีค่าใช้จ่ายแค่องค์ละ 3 บาท เอง
ซึ่งนักค้ามืออาชีพที่รู้จักเตรียมตัวและบริหารจัดการเขาก็จะได้เปรียบทั้งเรื่องต้นทุนและโอกาสในการค้าอย่างมาก
ค่าใช้จ่ายในการออกบัตรรับรอง
ผู้ที่บริหารจัดการที่ดีและเป็นมืออาชีพ เขาจะรู้ว่าการเสียค่าใช้จ่ายในการออกบัตรรับรองนั้น การซื้อคูปองจะได้ประโยชน์สูงสุด
เพราะจะได้ลดราคาลงไปอีก 5 % และเขาจะรู้ว่าสำนักงานมีการจัดโปรการออกบัตร ที่มีค่าใช้จ่ายที่ถูก ในพระหลักร้อย หลักพัน
นักขายมืออาชีพก็จะรู้จักนำพระไปเพิ่มมูลค่าในการประมูล โดยนำพระไปออกบัตรราคาถูก และจะถูกกว่าคนอื่นๆ
ไปอีก 5 % เมื่อใช้คูปอง โดยที่นักขายที่ยังไม่เป็นมืออาชีพหวั่นไหวในการที่จะลงทุนซื้อคูปอง และไม่รู้จักการใช้ประโยชน์จากคูปอง
*4.รักษาเครดิต และบริการให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด
อีกข้อหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ในการเป็นนักค้าขายออนไลน์อย่างมืออาชีพ คือการรักษาเครดิต
เพราะการซื้อขายกันแบบไม่เห็นสินค้าจริง ไม่เห็นหน้าค่าตากันระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย เครดิตความน่าเชื่อถือ
การบริการที่รวดเร็ว ความใส่ใจต่อลูกค้า สร้างความประทับใจให้ลูกค้า ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
จะเห็นว่านักขายออนไลน์ที่ไม่เป็นมืออาชีพ มักต้องเงียบหายห่างเหินหรือเลิกรากับการค้าของตัวเองไป
เพราะไม่สามารถรักษาเครดิตความน่าเชื่อถือ การบริการที่รวดเร็ว ความใส่ใจต่อลูกค้า สร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้
การขายของโดยทั่วไปนั้น หากเราซื้อขายกันหน้าร้านแบบเห็นหน้าตา เห็นสินค้า พ่อค้าแม่ค้ายังต้องยิ้มแย้มแจ่มใส
พูดจาแนะนำสินค้าอย่างสุภาพ เมื่อลูกค้าซื้อของก็ต้องรู้จักกล่าวคำขอบคุณ สร้างมิตรไมตรีเพื่อลูกค้าจะได้กลับมาซื้อของอีก
การขายของออนไลน์ก็แค่เพียงใส่ใจสนใจในเรื่องการติดต่อของลูกค้า ตอบรับทราบการโอนเงิน
แจ้งการจัดส่งที่รวดเร็ว แพ็คสินค้าให้แน่นหนาเรียบร้อยสวยงามถูกต้อง
และรู้จักขอบคุณลูกค้าโดยการให้ฟีดแบ็คคำชมก่อนเมื่อลูกค้าทำธุรกรรมซื้อเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งแค่นี้ลูกค้าก็จะประทับใจแล้ว
มีผู้ขายที่ไม่เป็นมืออาชีพหลายท่านไม่ยอมให้ฟีดแบ็คคำชมลูกค้าก่อน เพราะกลัวลูกค้าจะคืนของ
เลยเหมือนกับจะเอาฟีดแบ็คเก็บเอาไว้เป็นตัวประกันการคืนของ ซึ่งหารู้ไม่ว่ามีลูกค้าเกือบ100%ไม่ประทับใจ
และหากลูกค้าจะคืนของตามกฎ ก็ไม่สามารถไปให้ฟีดแบ็คเฉยๆหรือคำติแก่ลูกค้าได้ มีแต่จะเสียอย่างเดียวเลย
การรักษาเครดิต การบริกาที่รวดเร็ว และการสร้างความประทับใจให้ลูกค้า เป็นความสำคัญขั้นสูงสุด
ที่ไม่ว่านักขายมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่นจำเป็นต้องทำครับ หากอยากเป็นนักขายที่ดี
ทั้งหมดที่นำมาบอกกล่าวก็จากประสบการณ์ตรงที่ได้ประสบพบเห็น จากตัวเอง จากพวกพ้อง แล้วนำมาเรียบเรียงเล่าสู่กันฟัง
หากพอเห็นว่ามีประโยชน์บ้างก็ลองปฏิบัติกันดูนะครับ ว่ามันจะได้ผลไหม
หรือหากคิดว่าไม่น่าจะมีประโยชน์อะไร ก็ข้ามๆผ่านไปอย่าไปสนใจ ครับ
------------------------------------------------------------------ |