ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ขออนุญาตเผยแพร่ประวัติหลวงพ่อดำ ฐิตเวโท วัดป่าศรีมงคล จ.เลย



(N)


หลวงพ่อดำ ฐิตเวโฑ วัดป่าศรีมงคล จ.เลย....
ถ้าพูดถึงสายพ่อพรายหรือผงพรายกุมารอันเลื่องลือไปทั่วสารทิศ... ชื่อของ หลวงปู่ทิม วักระหารไร่ จะเป็นชื่อแรกๆที่จะลอยเด่นขึ้นมาในความคิดของทุกท่าน... ขุนแผนผงพรายกุมารของท่าน เข้มขลังทั้งในด้านพุทธคุณ และราคาค่าความนิยม เรียกว่าได้แต่มองกันตาปริบๆ...
สืบกันตามสาย ว่ากันตามหลักฐานธรรมทายาดสายพ่อพรายเบอร์หนึ่งที่วงการยอมรับด้วยความสนิทใจ ว่าหลวงพ่อองค์นี่แหล่ะ "ของจริง" ก็ต้องยกให้ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ บูรพาไม่สิ้นแสง ผู้สืบทอดสายพ่อพรายที่เป็นของแท้แน่นอน เจ้าของเหรียญเสมาสุดยอดแห่งความนิยมอย่าง เหรียญเสมาหัวเสือ ปี 53 ซึ่งมีการสร้างตามรอยหลวงพ่อกันหลายต่อหลายรุ่นหลายวัดหลายสำนัก... แต่ด้วยสุขภาพของหลวงพ่อสาคร
ไม่ค่อยจะดีนัก จึงทำให้ท่านมรณภาพจากไปก่อนเวลาอันสมควร... ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของเหล่าลูกศิษย์ลูกหา...
"บูรพาไม่สิ้นแสง ไฟไม่สิ้นเชื้อ" ฉันใดก็ฉันนั้น... ศิษย์สายพ่อพรายที่ต่อจาก หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ต่างก็พากันสืบสานตำนานพ่อพรายจนเป็นที่ยอมรับกันในวงการในทุกวันนี้ มีหลายพระอาจารย์ หลายหลวงพ่อ และหลายวัด... ซึ่งแต่ละรูปต่างก็มีความรู้ความสามารถด้วยกันทุกรูป
หลวงพ่อดำ ฐิตเวโฑ วัดป่าศรีมงคล จ.เลย ท่านก็ถือว่าเป็นศิษย์ในยุคแรกๆของหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ อีกรูปหนึ่งและได้รับใช้ใกล้ชิดกับหลวงพ่อสาครเป็นอย่างมาก...
หลวงพ่อดำ ฐิตเวโฑ มีนามเดิมว่า นายไพบูลย์ นุชบัว เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2506 บิดาชื่อ วงษ์ มารดาชื่อ พรรณี นุชบัว โดยครอบครัวเป็นชาวไร่ชาวนนา เมื่ออายุครบอุปสมบทในปี พ.ศ. 2525 ท่านก็ได้เข้าอุปสมบท ในวันที่ 13 เมษายน 2525 โดยมีพระครูโสภณสังฆการ (หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดกระแสบน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์จาย สักโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการแก้ว โชตโก วัดพลงตาเอี่ยม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ฐิตฺเวโท เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่ฮ้อ พุทธสโร วัดชุมแสง ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนากรรมฐานตลอดจนสรรพวิชาอาคมต่างๆจนหมดสิ้น
แล้วยังได้มาฝากเป็นศิษย์กับหลวงพ่อสวัสดิ์ วัดกระแสบน และหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ...
กับหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ หลวงพ่อดำท่านถือได้ว่าเป็นศิษย์รุ่นแรกๆของหลวงพ่อสาคร และได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาต่างๆของหลวงพ่อสาคร แบบจบถ้วนทุกกระบวนการ และท่านก็ยังอยู่คอยรับใช้หลวงพ่อสาครมาโดยตลอด เป็นคนคอยช่วยหลวงพ่อสาครในการสร้างวัตถุมงคลยุคแรกๆของหลวงพ่อสาครมาโดยตลอด นอกจากหลวงพ่อดำท่านจะได้ศีกษาสรรพวิชาจากพระอาจารย์ทั้ง 3 ท่านแล้ว เมื่อมีเวลาว่าง และด้วยเป็นคนคงแก่เรียน ชอบใฝ่หาความรู้ ท่านจึงมักจะเดินทางไปขอเรียนสรรพวิชาจากพระอาจารย์ชื่อดังในยุดนั้น อย่างในปี พ.ศ. 2526 ท่านก็ได้ร่วมเดินทางไปกับหลวงพ่อสาครพระอาจารย์ของท่าน ไปขอศีกษาความรู้จากหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ในปี พ.ศ. 2527 ก็ได้ไปศึกษาวิชาทำตะกรุดจากหลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิต และยังได้เดินทางไปศึกษาสรรพวิชาอีกมากมายหลายพระอาจารย์...
"เรียนจนรู้ ศีกษาจนแตกฉาน เข้าถึงแก่นแท้" หลวงพ่อดำนอกจากจะชมชอบศีกษาหาความรู้แล้ว ท่านยังเป็นประเภทที่ถ้าได้ศีกษาแล้ว ต้องศีกษาให้ถึงแก่นวิชา ไม่ทิ้งไม่ขว้างกลางครั่น สิ่งใดไม่เข้าใจก็จะสอบถามพระอาจารย์ของท่าน เพื่อไขปัญหาคาใจจนกว่าจะเข้าใจกระจ่างในศาสตร์วิชานั้นๆ... ถึงหลวงพ่อดำจะสนใจใฝ่หาความรู้ แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติรับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อสาครมาโดยตลอด...
จากการที่ได้รับใช้อย่างใกล้ชิดและได้ร่ำเรียนสรรพวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อสาคร ด้วยดีมาตลอด จนในปี พ.ศ. 2538 หลวงพ่อสาครก็ให้หลวงพ่อดำ ช่วยดำเนินการจัดสร้างพระขุนแผนพรายกุมาร รุ่นพิเศษ ขึ้น ตั้งแต่การจัดหาชนวนมวลสารต่างๆ จารตะกรุดฝังองค์พระ จนสำเร็จเป็นองค์พระ หลังจากจัดทำพระขุนแผนเสร็จ ก็มีเนื้อชนวนมวลสารที่ผสมไว้แล้วเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง เมื่อได้มาปรึกษากับหลวงพ่อสาคร ท่านก็ให้นำไปปั๊มเป็นพระปิดตา ที่มีอยู่ 3 พิมพ์ โดยเป็นพิมพ์ที่แกะไว้ตั้งแต่ปี 2535 โดยนายทหารท่านหนึ่ง ได้ขอจัดสร้างเพื่อแจกในวาระเกษียณอายุราชการ จัดสร้างเพียง 60 ชุด ฝังตะกรุดทองคำดอกละสลึง ปัจจุบันแทบไม่มีพระปิดตาชุดดังกล่าวปรากฏให้เห็นเลย ด้วยพระชุดดังกล่าวอยู่กับนายทหารชั้นผู้ใหญ่เกือบทั้งหมด ในจำนวน 3 พิมพ์ประกอบด้วย พระปิดตาลายกนกใหญ่ พระปิดตาลายกนกเล็ก และพระปิดตาจันทร์ลอย... ซึ่งพระทั้งหมดได้ทำการปั๊มโดยหลวงพ่อดำ พระเณรภายในวัดและญาติโยม ช่วยกันปั๊มขึ้นภายในพระอุโบสถวัดหนองกรับ และได้เข้าพิธีปลุกเสกพร้อมพระขุนแผน พิมพ์พิเศษหรือที่รู้จักกันว่า ขุนแผนรุ่น 2 ของหลวงพ่อสาคร.... นอกจากนั้นหลวงพ่อดำท่านก็ยังเคยได้รับการมอบหมายให้ทำตะกรุดและปลัดขิกขึ้น เพื่อถวายแด่หลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิตอีกด้วย เรียกได้ว่าหลวงพ่อดำท่านได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อสาครเป็นอย่างสูง ในการช่วยเป็นธุระจัดหาชนวนมวลสารต่างๆและจัดสร้างวัตถุมงคลให้กับหลวงพ่อสาครในยุคแรกๆ....
ด้วยความที่เป็นพระภิกษุหนุ่มที่คงแก่เรียน และที่วัตรปฏิบัติที่ดี จนเป็นที่เคารพเสื่อมใสของญาติโยมที่ได้พบปะพูดคุยกับท่าน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2551 ท่านก็ได้รับการนิมนต์จาก นายมานิตย์ มกรพงศ์(อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเลย) ให้ไปช่วยพัฒนาและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าศรีมงคล ต.เสี้ยว อ.เมือง จ.เลย จนมาถึงทุกวันนี้... ซึ่งท่านก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นับตั้งแต่ที่ท่านได้รับนิมนต์มาจำพรรษาที่วัดป่าศรีมงคล ท่านก็ได้พัฒนาเสนาสนะต่างๆภายในวัดป่าศรีมงคล จนมีความเจริญรุ่งเรือง ให้สมกับพุทธสถานแห่งพระพุทธศาสนา เป็นที่เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นที่ขัดเกลาจิตใจให้แก่ญาติโยม ได้เข้าใจถึงหลักธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธศาสนา....
หลวงพ่อดำ ฐิตฺเวโฑ นอกจากเป็นพระที่คงแก่เรียนแล้ว ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาอีกด้วย ตั้งแต่ท่านได้รับนิมนต์ให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าศรีมงคล จ.เลย ท่านก็ได้ทนุบำรุงและพัฒนาวัดป่าศรีมงคลให้เจริญรุ่งเรืองและสวยงาม สมกับเป็นพุทธสถานแห่งพระพุทธศาสนา ปฏิบัติตนเป็นหน่อนาเนื้อบุญอย่างแท้จริง... ท่านใดมีโอกาสได้ไปเยือน จ. เลย เยี่ยมชมธรรมชาติอันงดงามแล้ว อย่าลืมไปกราบหลวงพ่อดำ ฐิตเวโฑ วัดป่าศรีมงคลด้วยน่ะครับ "ช้างเผือกย่อมอยู่ในป่า ฉันใดก็ฉันนั้นล่ะครับ...

โดยคุณ chaipad (5.4K)  [พ. 01 ธ.ค. 2564 - 07:34 น.]



!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1