ผ่านวันแรกไปอย่างประทับใจเลย สำหรับทริปนี้ของผม คืนนี้นอนหลับสบายมาก แอร์เย็น ๆ เบิดระเบียงนิดนึงให้ลมทะเลเข้ามาช่วยบ้าง สำหรับวันที่ 2 นี้ไม่ได้เร่งรีบอะไร เพราะมีคิวนัดไปดำน้ำตอนช่วงบ่ายโน้นแน่ะ นัดหมายกับรถจะมารับตอนเที่ยงตรง เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมทราบว่า เลิกจาก Phuket Fantasea จะดึก และถึงที่พักดึก ๆ เลยจัดโปรแกรมไว้แบบนี้ (ประสบการณ์ช่วยได้ครับ)
อดตื่นเต้นนิดหน่อยไม่ได้ บอกจริง ๆ นะเวลาผมไปพักตามโรงแรมต่าง ๆ สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากคือ อาหารเช้าของโรงแรมนี่แหละ มันเข้าทางเลยครับ ผมชอบประมาณแบบ American Breakfast มีเนื้อนมไข่ น้ำผลไม้ ชอบนะครับแบบนี้ คิดไปต่าง ๆ นา ๆ จนผล็อยหลับไปเลย
เช้าตื่นมาประมาณ 7 โมงเช้า อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย ก็เตรียมลงไปทานอาหารเช้ากัน ห้องอาหารที่นี่ค่อนข้างจัดได้ดีครับ ก้าวแรกที่เดินเข้าไปก็ประทับใจแล้วครับ มีอาหารวางเรียงรายมากมายเลย และที่สำคัญเลยครับ มีแต่หัวทองทั้งห้องเลย ไม่มีคนไทยเลยครับ (แอบเขิน) แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เดินไปก็เมียง ๆ มอง ๆ หาของกิน ในนี้มีหลายอย่างให้เลือกสรรจริง ๆ ครับ สมกับราคาที่พักเลย มีทั้งอาหารเช้าแบบ American ตามที่คิดไว้ มีสลัด ,อาหารไทย ข้าว ,ข้าวผัด แต่กับข้าวก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ มีผัดผักบ้าง แกงจืดนิดหน่อย เพราะน่าจะเน้นให้ต่างชาติทานมากกว่า ,มีอาหารเช้าประเภท ซีเรียล ,คอนเฟล็กซ์ ไว้บริการเด็ก ๆ หลายแบบมากมาย มีตู้น้ำผลไม้ นมสด ให้กดได้เต็มที่ ,มุมกาแฟ ,มีโซนอาหารญี่ปุ่น แต่จะไม่เน้นหนักมาก มีประเภทกิมจิ และก็อาหารว่างประเภทซูชินิด ๆ หน่อย ๆ แต่แค่นี้ก็ดูละลานตาแล้ว ปัญหาหนักใจก็มาตกที่ผมนี่แหละ
***ตรู จะเอาอะไรดีหว่า เลือกไม่ถูกเลย*** มาถึงตรงนี้ก็มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแทรกเหมือนเดิมนะครับ เท่าที่ได้สัมผัสมา กรณีนี้หากเป็นคนไทยแบบทั่วไป ผมว่าคงจะชินตากับภาพตักมันทุกอย่างที่เจอ จนพูนจาน และสุดท้ายก็กินกันไม่หมด แฉกเช่นเห็นได้บ่อยตามงานทั่วไป เวลาเค้าเลี้ยงอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ แต่ส่วนใหญ่ผมเห็นพวกฝรั่ง เค้าจะตักกันอย่างละนิดละหน่อยนะครับ อาศัยเดินให้บ่อยเข้าไว้ แต่ก็มีบ้างที่ผมเห็นตักจนพูนจานเลย ตักมันทุกอย่างไว้ในจาน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมวัฒนธรรมของเค้า คือ จะไม่ค่อยมีอาหารเหลือไว้ในจานเลยครับ ตักแค่ไหนก็เห็นกินกันจนหมด อันนี้ก็ไม่ได้ว่าจะยืนยันชัดเจน แต่ก็พูดตามสิ่งที่เห็นและประสบการณ์เท่านั้นนะครับ
ส่วนตัวผมก็จะสอนคนข้างเคียงเสมอ หากเจอแบบนี้ มี 2 อย่างที่จะคอยบอกครับ
- อย่าสั่งตอนหิว (เพราะมันจะสั่งเยอะจนกินไม่หมด และก็เปลืองตังค์)
- อย่าตักเพราะอยาก (เพราะมันจะมากเกินท้องจะรับ ทำให้เหลือทิ้ง เสียดาย และก็อายคนเก็บจาน)
พอได้ที่ได้ทางที่นั่งกันก็เริ่มเลยครับ ผมก็อาศัย ตักโน้นนิดนี่หน่อย ที่ทำแบบนี้เพื่อจะดูว่าอะไรอร่อย ไว้กินที่ตักให้หมดก็จะมาตักแต่อย่างที่เราชอบ หรือถูกปากครับ มันก็สุขดีนะครับ กินกันไป นั่งดูบรรยากาศไป ดูพวกต่างชาติ เค้าก็มีโลกส่วนตัวสูงกันดีนะครับ ไม่มีใครสนใจใคร ต่างคนต่างกิน คุยกันก็ไม่ได้เสียงดังอะไร บางโต๊ะมากลุ่มใหญ่เค้าก็เฮฮากันดี แต่ก็ไม่ได้เป็นการรบกวนคนอื่นเลย ผมว่าดีนะแบบนี้ ดูมีมารยาทดี จะไปเอาอะไรที่คนนิยมกินกันมากเช่น ออมเลต เค้าก็ยืนเค้าคิวกันเป็นระเบียบดี เดินสวนกันก็ยิ้มให้กัน
พออิ่มได้ที่ และคิดว่าพอดีแล้ว ก็ออกมาเดินสูดอากาศนั่งพักข้างสระน้ำเล็กน้อย ดูทะเลไปด้วย มองนาฬิกา โห เหลือเวลาอีกร่วม ๆ 3 ชั่วโมงเลยครับ เอาไงดีล่ะ นึกขึ้นได้ ที่โรงแรมนี้มีลานโบวล์ลิ่งด้วยนี่นา เอาล่ะไปโยนโบวล์ิลิ่งกันดีกว่า ว่าแล้วก็ออกเดินทางไปเลย ไกลมากเลย เพียง 2 นาทีก็ถึงแร่ะ ที่นี่ลานโบวล์เค้าจัดไว้สวยดีครับ ได้มาตรฐานขนาด 8 เลน อุปกรณ์ และลูกโบวล์ิ่ลิ่งก็มีเยอะให้เลือกเยอะดี เรียกว่าใช้ได้เลยทีเดียว ก็เริ่มเลย เปิดเลน เล่นกันเลยครับ อ้อ ลืมบอกไปว่า ผมทราบอยุ่แล้วว่าราคาค่าเล่นที่นี่ไม่แพงมาก เกมละ 80 บาท เอง เผลอ ๆ จะถูกกว่ากรุงเทพด้วยซ้ำ เนื่องจากว่าำไำกด์ของผมได้แนะนำไว้แล้ว
ในขั้นนี้ผมก็ต้องกลายเป็นครูฝึกจำเป็น เพราะคนที่ไปด้วยเล่นไม่เป็น ผมก็ต้องคอยสอน ว่าเ่ล่นยังไง นับแต้มยังไง จะโยนยังไง ก็เล่นไปสอนไป สนุกดีครับ อีกอย่างผมก็ชอบด้วย แต่เล่นไปเล่นมาสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นมาจนได้ครับ เหตุการณ์นี้ทำเอาเสียเซลฟ์ไปนิดหน่อยเลยครับ
ป๊า ๆๆๆๆ หนูหิวน้ำำำำาาาาาาาาาาา
เอาล่ะซิ ลูกสาวตัวแสบ หิวน้ำซะแล้ว เราก็กำลังมันส์เลย มองไปมองมาในห้องโบวล์มีตู้น้ำขายนี่หว่า มองไปก็เห็นน้ำอัดลมกระป๋อง และก็นำผลไม้ ตรามาลีอยู่ ก็ถามลูกสาวเลย
จะเอาน้ำอะไร
หนูอยากกินน้ำผลไม้
โอเคเลย
ควักแบงก์ร้อย 1 ใบ ยื่นให้ลูกสาวเลย (คิดในใจอย่างดีมันก็ไม่เกิน 50 บาทแน่นอน)ขนาดคิดแบบบวกราคาให้เต็มที่เลยครับ บอกลูกให้เดินไปซื้อกับพี่สาวที่เคาน์เตอร์เลยครับ พอผ่านไปซักพัก ลูกสาวเดินหน้าจ๋อยกลับมา พร้อมกับเงิน 100 บาท เหมือนเดิม ถามลูก ทำไมล่ะ ไม่อยากกินแล้วหรือ ลูกก็พูดไม่ค่อยจะเข้าใจ ก็เลยจำเป็นต้องพาลูกเดินไปเคาน์เตอร์ ถามพนักงาน ถามไปถามมา หน้าชาขึ้นมาเล็กน้อย
กระป๋องนี้ ราคา 118 บาทค่ะ ให้น้องมาไม่พอ (ตอนนั้นกรูอยากตะโกนออกมาดัง ๆ ชิหาย น้ำ....อะไรวะ ในเซเว่นขายกระป๋องละ 12 บาท นี่มรึงงงงง บวกราคากันยังไงวะฟาดไป 118 บาท) แต่ก็ต้องรักษาฟอร์มครับ ควักไปอีก 20 บาท กัดฟันบอกวันว่า "ไม่ต้องทอน"
สรุปลูกสาวได้ "แหลก" น้ำเทวดา กระป๋องละ 118 บาท จากราคา 12 บาท เลยบอกลูกไปว่า
กินหมด อย่าทิ้งกระป๋องนะ ป๊าจะเอากระป๋องไว้บูชา ก๊ากกกกกกกก ๆๆๆๆๆๆๆ (สรุปจากเหตุการณ์นี้ ค่ำนั้นหลังจากกลับมาจากดำนำ ก็พาลูกเดินไปร้าน FamilyMart หลังโรงแรม ซื้อมาไว้อีก 3 กระป๋อง จ่ายไป 45 บาท เนื่องจากราคา up มานิดนึง เป็นกระป๋องละ 15 บาท สบายไป)
นี่ก็อีกเรื่องที่อยากจะแทรกไว้นะครับ หากไปสถานที่แบบนี้ พวกร้านสะดวกซื้อพวกนี้ก็มีประโยชน์นะครับ ลองมอง ๆ หาเผื่อไว้ เพราะราคาของที่โรงแรมบางครั้งมันก็เป็นราคาต่างชาติเกินไป จริง ๆ ก็ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น เพราะเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่ยอมรับว่าครั้งนี้เตรียมใจไว้ไม่ถึงจริง ๆ (ขอหัวเราะอีกรอบ)
เวลาผ่านไป ............................. เที่ยงตรง
รถตู้ก็มารับ ตรงเวลาเป๊ะเลย ก็เหมือนเดิมนะครับ เค้าก็มีรายชื่อคนจองทัวร์ไว้เรียบร้อยแล้ว โปรแกรมวันนี้ของผมก็จะไปเที่ยว 3 เกาะ คือ เกาะไข่ใน เกาะไข่นอก และเกาะไข่นุ้ย ซึ่งเป็นเกาะไม่ไกลจากภูเก็ตมาก แต่สวยครับ การเดินทางในทัวร์ัลักษณะนี้ก็คือ เราจะ book โรงแรมไว้นะครับ เป็นที่ปักหลัก และก็จะไปไหนก็จะมีรถตู้มารับทุกโปรแกรมครับ ที่นี่เค้าเป็นแบบนี้ เราไม่ต้องดิ้นรนหารถไปเอง ค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะทุกอย่างเค้าจะรวมไว้ในแพคเกจแล้
เดินทางโดยรถตู้ก็ใ้ช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง เค้าก็จะพาเราไปยังท่าเรื่อ Speed Boat เพื่อเดินทางไปยังเกาะที่เราต้องการ ซึ่งในการเดินทางทางเรือ ก็จะมีไกด์ประจำเรือไปด้วย พร้อมคนเรืออีก 3-4 คน เพื่อดูแลความปลอดภัย และก็เหมือนเดิม ส่วนใหญ่ไกด์ก็จะพูดแต่ภาษาอังกฤษครับ เพราะร้อยละ 99 ก็เป็นฝรั่งเหมือนเดิม ผมก็ทำตัวเป็นหนุ่มเกาหลีเหมือนเดิมเช่นกัน เค้าก็จะอธิบายหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ส่วนใหญ่เรื่องความปลอดภัยระหว่างโดยสารในเรือ และก็แจ้งกำหนดการ แจ้งราคาค่าเช่าอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่จะต้องจ่ายเพิ่ม วันแรกนี้เจอไกด์ประจำเรือตลกดีครับ เป็นหนุ่มไทย ตัวดำ ๆ แต่พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก และก็ติดตลกด้วย พูดไปเรียกเสียงหัวเราะจะพวกต่างชาติได้ตลอดเวลา ทำให้ทริปนี้สนุกขึ้นมาทันทีทันใด
การนั่งเรือ SpeedBoat ก็มันส์ดีนะครับ มันเร็ว มันแรง และที่สำคัญมันกระแทกกับคลื่นดีเหลือเกิน หากใครเป็นพวกโรคเมาเรือ หรือทนแรงกระแทกไม่ค่อยไหว แนะนำให้ระวังในการเดินทางแบบนี้นะครับ เพราะมันจะทำให้ไม่สนุกเอามาก ๆ ครับ ก็ผ่านไปครับ ถึงเกาะแรก เกาะที่สอง เกาะที่สาม ยอมรับครับทะเลด้านนี้มันสวยจริง ๆ ครับ น้ำทะเลเป็นสีเขียวมรกตเลย ฟ้าใสมาก ทรายนี่ละเอียดยิบ โดยรวมถือว่าสุดยอดมากครับ
แต่มันก็มีมุมที่บางคนอาจจะรับไม่ได้นะครับ เรื่องค่าใช้จ่ายแอบแฝงกับทัวร์แบบนี้ คือ เพราะในการขึ้นบนเกาะแต่ละเกาะนั้น มันจะมีเกาอี้ชายหาดไว้บริการครับ แทบจะทุกเกาะ และที่สำคัญราคาค่าเช่ามันก็จะเป็นมาตรฐานเดียวกันเลย สำหรับวันแรกนี้ คือ 2 ตัว 150 บาท คิดดูครับ ขึ้น 3 เกาะก็ต้องเสียค่าเช่าเก้าอี้ไปแล้ว 450 บาท และก็ไม่ได้นั่งนะครับ เพราะเราต้องไปเล่นน้ำทะเล แต่มันก็จำเป็นต้องเ่ช่าครับ เพราะไกด์จะแนะนำว่า ให้เช่าดีกว่า เพราะการวางข้าวของบนเก้าอี้ชายหาดนั้น จะเป็นจุดเฉพาะ และเด็กเรือ ก็จะจัดคนมานั่งเฝ้าระวังข้าวของของเราให้ครับ เพราะเวลาเล่นน้ำทะเล ของต่าง ๆ ของเราก็ต้องใสไว้ในกระเป๋า ทั้ง กระเป๋าตังค์ สร้อยคอ นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ ทุกอย่างก็ใส่ไว้ในกระเป๋าหมด หากวางไม่เป็นที่หากโดนฉกไป ก็ไม่อยากจะบรรยายนะครับ ว่าเป็นยังไง ก็จำเป็นต้องยอมจ่ายครับ เพื่อซื้อความปลอดภัย และความสะดวก
มันก็เลยมีแง่คิดขึ้นมาอีกอย่าง คือ เงิน นี่โคตรสำคัญเลยนะครับ ทุกคนว่าจริงไหมครับ จะไปไหนมาไหน จะเอาแบบไหน เงินก็บรรดาลได้หมด
สรุปวันแรกของการเที่ยวเกาะ ก็ประทับใจครับ แดดแรงดี ตัวดำไปมาก นี่แค่วันแรกเลย พอครบตามโปรแกรม ทั้งเล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการัง ก็ได้เวลาเดินทางกลับ เหมือนเดิมครับ โดยสารกันมาบนเรือนั่นแหละ
อ้อออออ ลืมเรื่องที่ประทับใจสุด ๆ ไปเลย สำหรับเราชาวหื่น ในการเดินทางไปเกาะแต่ละเกาะนะครับ เค้าก็จะปล่อยให้เล่นน้ำตามชายหาดกัน เกาะละประมาณ 1 ชม. นึกภาพพวกฝรั่งนะครับ หรือไม่ก็เกาหลี ในเรือผมวันนี้ก็มีสาว ๆ เกาหลีหลายคนอยู่ครับ วัฒนธรรมของเค้าก็เหมือน ๆ กันครับ คือ ใส่ทูพีช เล่นน้ำอยู่แล้ว นึกภาพออกเลยใช่ไหมครับ ละลานตาเต็มหาดเลยครับ เลือกดูได้อย่างเต็มที่ พอถึงเวลาย้ายเกาะ พวกนี้ก็จะรีบ ๆ ครับ ก็ขึ้นเรือไปอีกเกาะ ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่มาก เค้าก็จะหอบข้าวของกันมาเต็มหอบ แต่ไม่มีเวลาเปลี่ยนอะไรหรอกครับ ส่วนมากก็มากันทั้งทูพีชแบบนั้นแหละครับ มานั่งกันเต็มเรือเลย อิอิอิ
สิ่งที่สำคัญที่อยากให้ทุกท่านเตรียมไปเลย สำหรับการเดินทางแบบนี้ื คือแว่นกันแดด ที่สีมันเข้ม ๆ นิดนึง เพราะท่านจำเป็นต้องเอาไว้ซ่อนตาหื่น ๆ ของท่าน และเวลแอบมองก็จะไม่ม่คนรู้ครับ สำหรับผม แน่นอน เตรียมไปอยู่แ้ล้ว (ประสบการณ็สอนไว้เช่นเดิม)
สำหรับว้นนี้ ลาไปก่อน พบกันใหม่ตอนหน้านะครับ |
|