(D)

http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOakUyTURRMU1RPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHdOQzB4Tmc9PQ==
http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=86306
ลิ้งข่าวสถานการณ์สงกรานต์ครับ...
นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ช่วงสงกรานต์ปีนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 711 ครั้ง น้อยกว่าปี 2550 ที่มีอุบัติเหตุ 789 ครั้ง หรือจำนวน 78 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 9.89 มีผู้เสียชีวิต 49 ราย น้อยกว่าปี 2550 ซึ่งมี 67 ราย หรือจำนวน 18 ราย คิดเป็นร้อยละ 26.87 มีผู้บาดเจ็บจำนวน 801 ราย น้อยกว่าปี 2550 ที่มีจำนวน 886 ราย หรือจำนวน 85 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.59 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดเกิดจากเมาสุราร้อยละ 44.73
นายไชยา กล่าวต่อว่า ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.26 สำหรับช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงพลบค่ำ เวลา 16.01-20.00 น. คิดเป็นร้อยละ 36.57 ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บมีอายุระหว่าง 15-19 ปี คิดเป็นร้อยละ 17.95 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เพชรบูรณ์ 53 ครั้ง จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ มี 1 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เพชรบูรณ์ ระยอง สุพรรณบุรี จังหวัดละ 4 ราย รองลงมาได้แก่ ขอนแก่น น่าน จังหวัดละ 3 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 42 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บมากที่สุด ได้แก่ เพชรบูรณ์ 54 ราย รองลงมา ได้แก่ สุพรรณบุรี 32 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บมี 1 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร
-"เชียงราย-เพชรบูรณ์"แชมป์
นายไชยา กล่าวต่อว่า ทั่วประเทศมีการจัดตั้งจุดตรวจรวม 3,037 จุด มีผู้ปฏิบัติงานรวม 89,944 คน และได้เรียกตรวจยานพาหนะ 770,547 คัน พบผู้กระทำผิดรวม 51,436 คน ส่วนใหญ่ถูกดำเนินคดี เนื่องจากไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด 18,123 คน รองลงมา ได้แก่ ไม่มีใบขับขี่ 17,858 คน นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสมาชิก อปพร. ในพื้นที่ จัดตั้งจุดตรวจภายในชุมชน ได้แก่ จุดสกัดกั้น 10,875 จุด จุดบริการ 3,302 จุด เพื่อปรามผู้ที่มีพฤติ กรรมเสี่ยงมิให้ออกไปสร้างความเดือดร้อนหรือเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุทางถนน
นายไชยา กล่าวว่า อุบัติเหตุทางถนนสะสมวันที่ 11-14 เม.ย. มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรวม 2,949 ครั้ง มากกว่าปี 2550 ที่มีจำนวน 2,821 ครั้ง หรือมากกว่า 128 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 4.54 มีผู้เสียชีวิตรวม 229 ราย น้อยกว่าปี 2550 ซึ่งมี 236 ราย น้อยลง 7 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.97 มีผู้บาดเจ็บรวม 3,315 ราย มากกว่าปี 2550 ที่มีจำนวน 3,182 ราย หรือจำนวน 133 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.18 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 131 ครั้ง รองลงมา ได้แก่ เพชรบูรณ์ 129 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เพชรบูรณ์ 11 ราย รองลงมาได้แก่ พิษณุโลก 10 ราย
-เริ่มทยอยเข้ากรุงแล้ว
นายไชยา กล่าวด้วยว่า ในช่วงเย็นวันนี้คาดว่าถนนหลายสายที่มุ่งเข้าสู่กรุงเทพฯ เริ่มมีปริมาณรถหนาแน่น เนื่องจากประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับบ้างแล้ว ทำให้ต้องใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าปกติ ประกอบกับการเดินทางติดต่อกันหลายวัน อาจทำให้ผู้ขับรถมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ศปถ. จึงได้ประสานให้จุดตรวจตามจังหวัดที่มีเส้นทางสายหลักเข้าสู่กรุงเทพฯ เข้มงวดกวดขันการตรวจจับ เพื่อชะลอความเร็วและตรวจสอบสภาพความพร้อมของผู้ขับรถ โดยเฉพาะการง่วงและเมาแล้วขับ รวมทั้งขอให้ตำรวจทางหลวง ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง เปิดช่องทางเดินรถพิเศษ เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนเข้มงวดตรวจจับผู้ขับขี่ยานพาหนะที่กระทำผิดกฎหมาย ทั้งรถกระ บะที่บรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก รถโดยสารไม่ประจำทาง ซึ่งผู้ขับขี่ไม่มีความชำนาญเส้นทางและต้องขับรถในระยะไกลเป็นเวลานาน อาจทำให้มีอาการง่วงนอนและอ่อนเพลีย ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
นอกจากนี้ หากผู้ประสบเหตุอุบัติเหตุทางถนน ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินได้ทางสายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมหน่วยปฏิบัติการระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศจำนวน 5,791 หน่วย ทำให้สามารถให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ภายในระยะเวลา 10-15 นาที
-เตรียมทีมกู้ชีพ7หมื่นรับมือ
นายไชยา กล่าวถึงผลการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขว่า ตลอดวันที่ 14 เม.ย. หน่วยแพทย์กู้ชีพได้รับแจ้งเหตุเจ็บป่วยทาง 1669 จำนวน 1,433 ครั้ง เฉลี่ยนาทีละ 1 สาย ออกปฏิบัติการช่วยเหลือยังที่เกิดเหตุจำนวน 2,900 ครั้ง เฉลี่ยนาทีละ 2 ทีม สำหรับยอดสะสม 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-14 เม.ย. หน่วยแพทย์กู้ชีพออกปฏิบัติการทั้งหมด 11,571 ครั้ง เฉลี่ยนาทีละ 2 ครั้ง โดยเป็นผู้บาดเจ็บจราจร 5,222 ครั้ง เจ็บป่วยกะทันหัน เช่น หมดสติ ความดันโลหิตสูง หัวใจวาย น้ำตาลในเลือดต่ำ จำนวน 4,639 ครั้ง บาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาทกันรวม 846 ครั้ง ฆ่าตัวตาย 73 ครั้ง จมน้ำ 48 ครั้ง โดยการออกปฏิบัติการกู้ชีพมากที่สุดในวันที่ 13 เม.ย. จำนวน 3,290 ครั้ง เฉลี่ยนาทีละเกือบ 3 ครั้ง ซึ่งในช่วงขากลับฉลองสงกรานต์ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมทีมรองรับการช่วยเหลือเต็มที่ ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. เป็นต้นไป โดยมีทีมกู้ชีพทั้งหมด 5791 ทีม ประกอบด้วยทีมกู้ชีพประจำหมู่บ้านและตำบลต่างๆ 3,639 ทีม ประจำอำเภอ จังหวัดอีก 2,152 ทีม มีบุคลากรมืออาชีพทั้งหมด 72,560 คน ทั้งแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาต่างๆ เกือบ 1,500 คน พยาบาล 15,756 คน เจ้าหน้าที่กู้ชีพอีก 55,384 คน รับมือเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ประชาชนสามารถโทร.ขอความช่วยเหลือที่หมายเลข 1669 |
|