ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : จะทำอย่างไรเมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถอยู่ อ่านนะครับเพื่อความปลอดภัย

(D)
>> > กรณีที่ 1 เมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถ มีข้อแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
>>
>> > 1. มือทั้งสองต้องจับอยู่ที่พวงมาลัยอย่างมั่นคง
>>
>> > 2. ถอนคันเร่งออก
>>
>> > 3. ควบคุมสติให้ดีอย่าตกใจ
>>มองกระจกหลังเพื่อให้ทราบว่ามีรถใดตามมาบ้าง
>>
>> > 4. แตะเบรกอย่างแผ่วเบาและถี่ๆ อย่าแตะแรงเป็นอันขาด
>>เพราะจะทำให้รถหมุน
>>
>> > 5.
>>ห้ามเหยียบคลัตช์โดยเด็ดขาดเพราะถ้าเหยียบคลัตช์รถจะไม่เกาะถนนรถจะลอยตัว
>>และจะทำให้
>> > บังคับรถได้ยากยิ่งขึ้น อาจเสียหลัก
>>เพราะการเหยียบคลัตช์เป็นการตัดแรงบิด
>>ของเครื่องยนต์ ให้ขาด
>> > จากเพลา
>>
>> > 6. ห้ามดึงเบรกมืออย่างเด็ดขาด จะทำให้รถหมุน
>>
>> > 7.
>>เมื่อความเร็วรถลดลงพอประมาณแล้วให้ยกเลี้ยวสัญญาณเข้าข้างทางซ้ายมือ
>>
>> > 8. เมื่อความเร็วลดลงระดับควบคุมได้
>>ให้เปลี่ยนเกียร์ต่ำลงและหยุดรถข้อ
>>สังเกตเมื่อยางระเบิด คือ
>> > ไม่ว่ายางด้านใดจะระเบิดล้อหน้าหรือล้อหลังก็ตาม
>>เมื่อระเบิดด้านซ้ายรถก็จะ
>>แฉลบไปด้านซ้ายก่อน
>> > แล้วก็จะสะบัดกลับ และสะบัดไปด้านซ้ายอีกที สลับกันไปมา
>>และในทำนองตรงกัน
>>ข้าม หากระเบิดด้าน
>> >
>>ขวาอาการก็จะกลับเป็นตรงกันข้ามอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นส่วนมากก็
>>คือ
>>หากขณะยางระเบิดรถวิ่งอยู่
>> > ที่ความเร็วสูงมากๆ พอยางระเบิดขึ้นมารถก็จะกลิ้งทันที
>>ทำอะไรไม่ได้ ดัง
>>นั้นการขับรถที่ใช้ความเร็ว
>> > สูงๆจึงมักจะแก้ไขอะไรในเรื่องนี้ไม่ได้
>>เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุร้าย
>>แรงที่จะเกิดขึ้น ในขณะขับรถ
>> > จึงไม่ควรขับรถเร็ว ความเร็วทีถือว่าปลอดภัยใน DEFENSIVE
>>DRIVING คือ ความ
>>เร็วไม่เกิน
>> > 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
>>
>> > =====================
>>
>> > กรณีที่ 2 เมื่อรถตกน้ำ
>>
>> > ในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุแล้วตกลงไปในแม่น้ำ ลำคลองใดๆ
>>ก็ตามรถจะไม่ตกลงไป
>>ในน้ำแล้วจมทันที
>> > เหมือนหิน ตกน้ำ แต่จะค่อยๆ จมลงทีละน้อยๆ
>>จนกว่าจะถึงพื้นล่างและในนาที
>>วิกฤตนี้ ควรตั้งสติให้ดี
>> > และปฏิบัติดังต่อไปนี้
>>
>> > 1. ปลด SAFETY BELT ออกทุกๆคน รวมทั้งผู้โดยสารด้วย
>>
>> > 2. อย่าออกแรงใดๆ
>>เพื่อสงวนการใช้อากาศหายใจซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนจำกัด
>>
>> > 3. ให้ยกส่วนศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในรถ
>>
>> > 4. ปลดล็อกประตูรถทุกบาน
>>
>> > 5. หมุนกระจกให้น้ำไหลเข้าในรถเพื่อปรับความดัน!
>>ในรถและนอกรถให้เท่ากันมิ
>>ฉะนั้นท่านจะเปิด
>> > ประตูรถไม่ออก เพราะน้ำจากภายนอกตัวรถจะดันประตูไว้
>>
>> > 6. เมื่อความดันใกล้เคียงกันแล้วให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุด
>>แล้วท่านก็
>>ออกจากห้องโดยสารของ
>> > รถได้
>>
>> > 7. จากนั้นท่านอาจจะปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ
>>หรือจะว่ายน้ำ
>>ขึ้นมาก็ได้ ในกรณีนี้หาก
>> > น้ำลึกมากๆอาจจะมองไม่เห็นว่า
>>
>> > ทิศใดเหนือน้ำ ทิศใดใต้น้ำเพราะว่ามืดไปหมด
>>ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำเพราะอาจจะ
>>ว่าย ไปในทิศทางที่
>> > ไม่ขึ้นเหนือน้ำ
>>
>> > กรณีเช่นนี้ ควรปล่อยตัวให้ลอยขึ้นตามธรรมชาติหรือลองเป่าปากดูว่า
>>ฟองอากาศ
>>ลอยไปในทิศทางใด
>> > ให้ว่ายน้ำไปในทิศทางที่ฟองอากาศลอยไป
>>
>> > ก็จะไม่มีอาการหลงน้ำนอกจากนั้น ก่อนออกจากรถ
>>หากท่านมีผู้โดยสารที่เป็น
>>เด็กๆ อาจจะหนีบเด็กๆ
>> > นั้น
>>
>> > ออกมากับท่านได้อีกหนึ่งคน ดังนั้นหากท่านปฏิบัติ
>>ตามวิธีการเหล่านี้ ก็จะ
>>ช่วยให้ชีวิตของท่าน ปลอดภัย
>> > ได้ ในยามคับขัน
>>
>> > =====================

โดยคุณ ผดุงชอบ (486)  [ศ. 03 พ.ย. 2549 - 16:28 น.]



โดยคุณ แบงค์7วัด (1.3K)  [ศ. 03 พ.ย. 2549 - 20:23 น.] #58865 (1/14)


(D)
เมื่อคืนเพื่อนผม ขับรถแล้วล้อหน้าข้างซ้ายหลุดนะสิครับ ต้องเดินหาล้ออยู่นานเลย หายไปในข้างทาง เป็นกิโล น๊อตก็หายหมดทุกตัว ต้องถอดมาล้อละตัวใส่แล้วก็ไปต่อ เสียงผมก็ร้องอ๋อออ... ไม่รู้รอดมาทำงานได้ไง

โดยคุณ dmdses (2.9K)(1)   [ส. 04 พ.ย. 2549 - 08:18 น.] #58934 (2/14)
แจ่มมากครับ...

โดยคุณ piakham (1.4K)  [ส. 04 พ.ย. 2549 - 09:31 น.] #58938 (3/14)
ผมเคยประสบเหตุการณ์ยางระเบิดมาแล้วกับตัวเองถึง 2 ครั้ง เห็นด้วยกับคุณผดุงชอบครับ วิธิการดังกล่าวใช้ได้ผลดีทีเดียวครับ แต่มีอยู่ข้อนึงควรระมัดระวังไว้หรือถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรทำเลยคือข้อที่ 4. ที่บอกให้แตะเบรกแผ่วๆและถี่ๆ เพราะในขณะที่เกิดเหตุการณ์อยู่นั้น หากคนที่ไม่เคยประสบเหตุมาก่อนอาจตกใจ จังหวะของการแตะเบรกก็ไม่อาจจะควบคุมให้เบาและถี่ได้ ถ้าพลาดไปรถก็จะหมุนหรือพลิกคว่ำได้ จึงควรระวังไว้ครับ

โดยคุณ dd-team2005 (403)  [ส. 04 พ.ย. 2549 - 11:09 น.] #58949 (4/14)
รถ ตกน้ำ....ในกรณีที่ใช้ " กระจกไฟฟ้า " ทำยังไงครับ.....ท่านใดมีเทคนิคดี ๆ บอกด้วยครับ

โดยคุณ suprom (272)  [ส. 04 พ.ย. 2549 - 13:26 น.] #58962 (5/14)
คำถามของคุณ dd-team2005 ผมว่าต้องพกค้อนหรือวัตถุที่แข็งๆ ไว้ทุบกระจกนะครับ หรือจะใช้เป็นอาวุธเวลากรณ๊ฉุกเฉินก็ได้นะครับ

โดยคุณ pandaa191 (34)(2)   [ส. 04 พ.ย. 2549 - 22:23 น.] #59040 (6/14)


(D)
ข้อแนะนำจากเจ้าหน้าที่ตร.ครับ
กรณีกระจกไฟฟ้าถ้ารถตกน้ำ อย่างแรกที่ต้องทำคือ "ตั้งสติ" ให้ดี และอย่างที่ 2 คือ เปิดกระจกทันที ที่รถตกน้ำ อ่านไม่ผิดหรอกครับ หลายคนอาจจะเริ่มตงิด ๆ ในใจแล้วนะครับฟัง
อีกนิดนะครับ เปิดกระจกให้น้ำเริ่มเข้ามาครับ ให้เปิดก่อนที่ระบบไฟฟ้าจะช็อต กระจกจะเปิด
ไม่ได้ครับนี่คือสาเหตุที่ต้องรีบเปิดกระจก สิ่งที่ไม่ควรทำเป็นที่สุดตอนรถตกน้ำคือ
1.อย่าพยายามเปิดประตูไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น คุณเปิดไม่ออกหรอกครับเพราะแรงดันน้ำ
มหาศาลมาก กดทับประตูอยู่ เพราะฉะนั้นยังงั้ยก็เปิดไม่ออก
2. อย่าพยายามทุบกระจกไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้นเพราะว่ากระจกรถแข็งแรงมาก จะเป็นการ
เสียเวลามาก ถ้ามั่วแต่ทุบกระจก น้ำจะซึมเข้ามาทำให้ระบบไฟฟ้าเสียหายถึงตอนนั้น
คุณจะทำอะไรไม่ได้เลยโดยเฉพาะรถที่ใช้ระบบไฟฟ้าทั้งคัน และ ถึงคุณจะทุบกระจก
ให้แตกได้ กระจกก็จะแตกเป็นใยแมงมุม ต้องเสียเวลากระทุ้งให้หลุด อย่างที่บอกแรงดัน
น้ำมหาศาลมาก คุณลองนึกภาพตัวเองมุดออกจากหน้าต่าง โดยที่มีเศษกระจกกระเด็น
เข้ามาหาคุณมากมาย ออกมาได้ก็เลือดสาดครับ เผลอๆ บางคนเห็นเลือดเป็นลม จมน้ำ
เสียชีวิตก่อน
ขั้นตอนไปครับหลังจากคุณเปิดกระจกแล้วให้เปิดประมาณ 1 ใน 3 ของกระจกให้น้ำ
ไหลเข้ามาทีละน้อย ถึง ตอนนี้คุณก็สามารถเปิดประตูรถได้แล้วครับ เพราะว่า พอน้ำเริ่ม
เข้ามา แรงดันน้ำที่ดันประตูไว้ก็หมดไป แนะถ้าทำตามที่ แนะนำตั้งแต่ครั้งแรกคุณก็จะจม
น้ำไม่ลึก และ สามารถออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าน้ำลึกมาก คุณต้องมีสติ คิด
ให้ได้ว่า รักษาชีวิตไว้ก่อน ถอดรองเท้า เสื้อคลุมตัวใหญ่ ๆ พยายามลอยตัวเหนือน้ำพยุง
ตัวเข้าฝั่ง รักษาชีวิตไว้ก่อนครับอย่าได้เสียดายทรัพย์สินใดๆเป็นอันขาด หลายคนที่เสีย
ชีวิต เพราะงกนี่หละครับ สุดท้ายสำหรับผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็น ให้ทำตามข้อแนะนำตั้งแต่ต้น
และมาเสี่ยงชีวิตเอาขั้นออกจากรถนี่หละครับ ถ้าน้ำไม่ลึกก็รอดถ้าน้ำลึก รถจะยังไม่จมมา
พยายาม ตะเกียกตะกายมายืนบนหลังคารถให้ได้ แล้วคุณ ก็จะรอด ถ้าขึ้นหลังคารถไม่
ได้ก็ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนให้ อยู่ผิวน้ำให้ได้ ถ้าดวงดีก็รอด ถ้าดวงไม่ดีก็.......

สุดท้ายขอฝากข้อคิดเตือนใจสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน คุณจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ว่ามา
นี้ถ้าคุณไม่ประมาท พึงรักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต แต่ถ้าสุดวิสัยเกิดขึ้นจริงก็รักษา
สติให้มั่นครับแล้วคุณจะปลอดภัย ขอให้ทุกท่านปลอดภัยและอย่าให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับ
คุณหรือคนที่คุณรักเลยครับ........สาธุ

โดยคุณ mut007 (5.5K)  [อา. 05 พ.ย. 2549 - 00:18 น.] #59051 (7/14)


(D)
เป็นแนวทางสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ขอบคุณครับ

โดยคุณ dd-team2005 (403)  [อา. 05 พ.ย. 2549 - 07:14 น.] #59084 (8/14)


(D)
ขอขอบคุณครับสำหรับคำตอบดี ๆ .......เออ...ง่า เอ่อ คือ.....วุ้ยจะถามก็ก็กลัวถูกด่าจะบอกก็กลัวโดนโวย.....เอ่อ....คือ.......เอ่อ.......ผมว่ายน้ำไม่เป็นง่ะ.....!!!!!!!!!

โดยคุณ 6230(นู๋เป็ด) (1.6K)  [อา. 05 พ.ย. 2549 - 13:24 น.] #59094 (9/14)
กระทู้นี้ดีจัง....มีประโยชน์.มั่ก.มาก.ครับ

โดยคุณ pukbigc (235)  [จ. 06 พ.ย. 2549 - 23:06 น.] #59542 (10/14)
สาธุ ไม่เกิดจะดีกว่าครับสติแตกแน่

โดยคุณ suriyak (76)  [อ. 07 พ.ย. 2549 - 09:31 น.] #59595 (11/14)
แฮ่ๆ เป็นผมละก็ เริ่มสวดมนต์ก่อนอื่นเลยครับ

โดยคุณ pondya (8.7K)  [พ. 08 พ.ย. 2549 - 21:00 น.] #59971 (12/14)
ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากครับ ที่สำคัญก่อนเดินทางควรตรวจตราให้รถอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ตั้งสติอย่าตกใจ

โดยคุณ narongo (286)  [ศ. 10 พ.ย. 2549 - 00:48 น.] #60304 (13/14)


(D)
ผมว่าห้อยพระดี ๆ แล้วมีสติตลอดเวลาอะไรไม่ดีคงไม่เกิดหรอกครับ

โดยคุณ nakornbubri (1.4K)  [อา. 01 มิ.ย. 2557 - 12:25 น.] #3343305 (14/14)
ขอบพระคุณครับ ได้ประโยชน์มากเลยครับ การันตียอดเยี่ยมครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1