Blog 3 แรงผลักดันของชีวิต (Part 1)
ถึงตอนนี้ผ่านสิ่งที่เป็นการเริ่มต้นได้สำเร็จซะที ((ปาดเหงื่อ)) 8 ชั่วโมงกับการทำภาพพระเพื่อลงขายครั้งแรก 3 วันกับการรอเคลียร์เรื่องราวทั้งหมด รับเงินโอนเข้ามา ((ดีใจสุด ๆ กับอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ครั้งแรก)) ส่งพระให้ลูกค้าเป็นอันเรียบร้อยดี โล่ง.....มาก เราก็ผ่านจุดนั้นมาแล้ว ก็คิดว่าคงจะไปได้ด้วยดี แต่ปัญหาอุปสรรคของเราก็ยังไม่หมดไปหรอกนะ ((ก็ตอนนี้ว่าจะดราม่า ก็เอาซะหน่อย))
พระไม่มีจะขายแล้ว หาที่ไหนก็ไม่เป็น จะซื้อเข้าเงินก็จมอยู่ ด้วยราคาที่ซื้อเข้ามายมันเป็นราคา Real Price อยู่แล้ว ((Real Price = ราคาที่แท้จริงตามตลาด หลังจากหักค่าความเสี่ยงออกไปหมดแล้ว))) หมายความว่า ไม่ว่ายังไงก็คงหาคนซื้อพระราคานี้หรือ ราคาที่เราจะทำกำไรระยะสั้น........คงเป็นไปได้ยาก ((ไหน ๆ ก็จบบริหารมาก็ขอใช้ศัพท์ที่เป็นวิชาการหน่อยนะ)) สรุปก็ต้องหนวดให้ยาว ๆ และพระทั้งหมดก็มาอยู่กับก๊ง นะครับ ((ศัพท์ในวงการที่หลายท่านคงรู้จักดี .....ฮ่า ฮ่า ฮ่า)) เชิญทุกท่านตามผมออกนอกเวปก่อนนะครับ มาฟังเรื่องราวต่อไปนี้ หุหุหุหุ
ให้นึกภาพตามนะครับ ขณะนั้น ดาวเคราะห์ร้าย (เสียงแอคโค่นะ )))))) ร้ายยยย ร้ายยยย เมฆดำ ราหู กำลังเคลื่อนเข้ามาครอบงำชีวิตของ nooing เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับคนในครอบครัว และตามด้วนเหตุเจ้าน้องขายตัวดี ก็ตกงานอย่างฉับพลัน เนื่องจากบริษัทเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ทางบ้านก็เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจขึ้นมาอย่างร้ายแรง ((ไม่ขอลงลึกในรายละเอียดนะ)))
---แทรกคิวนิดสสส์นึง เจ้าน้องขายคนนี้เป็น ผู้ทีเสียสละอย่างใหญ่หลวง สำหรับชีวิตผมเลยนะ นึกถึงเรื่องตำนานรักดอกเหมยได้เลย ประเภท บ้านฐานะไม่ดี ถึงขั้นยากจน ((แง ๆ)) จึงต้องมีคนเสียสละ 1 คน ที่ต้องออกจากโรงเรียนแล้วมาทำงาน เพื่อส่งเสียคนทางบ้าน สำหรับบ้านผมก็เจ้าคนนี้แหละ ที่เสียสละให้ผมได้เรียนแทน ((ซึ้ง ๆๆๆๆๆ))---
ขณะนั้นผมก็เริ่มจะแย่มาก ด้วยเหตุที่ว่าเงินไม่ค่อยจะมีเลย สรุปต้องเอาพระที่เช่ามาทั้งหมดไปขายเลหลังให้กับคนอื่นไปจนหมด ขายแบบขาดทุนก็ต้องยอม เพื่อนำเงินมาพยุงฐานะทางบ้านไว้ และจะได้มีข้าวกินกัน นึกดูนะ คนทำงาน ออฟฟิศดี ๆ คนหนึ่ง ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ((ถึงขนาดนั้นเลยหรือวะ ไม่น่าเชื่อเนอะ แต่มันก็จริง)) จะกินอะไรก็ต้องคิดให้ดี เรียกได้ว่าประหยัดสุด ๆ ในชีวิตเลยก็ว่าได้ กรูผอม หัวโต ผมยาว นึกสภาพตอนนั้นแล้วทุเรศตัวเองสุด ๆ เลย
เหตุการณ์วิกฤตครั้งนี้ จะต้องมีการแก้ไขให้ผ่านพ้นไปให้ได้ สิ่งที่ผมคิดได้ตอนนั้น ก็คือ ต้องออกรถปิคอัพซักค้น เพื่อเอามาทำการค้าขาย โดยให้เจ้าน้องชายนี่แหละเป็นคนขาย แต่เรื่องเงินนี่ซิเรื่องใหญ่มาก ทำไงดี ข่วงนั้นเดินหารถมือสองตลอดเลย เพราะด้วยทุนที่มีไม่มากเลย ข้ามมมมม ไปนะ สรุปว่าผมก็ได้รับคำแนะนำจากคนรู้จัก ๆ กันนั่นแหละ ว่าได้รถมือสองมาคันนึงให้ผมไปดู พอผมไปดูก็พบว่าเป็นรถปิคอัพตอนเดียว สีดำ ยี่ห้อมาสด้าน สภาพภายนอกก็พอประมาณ ถามว่าดีใจไหม ก็ดีใจนะที่จะได้รถแล้ว
=== ราคาเท่าไหร่วะ นันท์
==== แสนเดียวพี่ ไม่แพงเลยครับ
เชื่อไหมตอนนั้นดีใจเนื้อเต้นเลย รถอะไรวะถูกชิบหายเลย แสนเดียว (((เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว แล้วมรึงมีเงินหรือไงวะ อ้าววว แป่ววววว) ชิบหายแล้ววว ตรูจะเอาเงินจากไหนวะเนี่ย ก็ไปปรึกษากันในครอบครัว หาทุกวิถีทางให้ได้ ตอนนั้น บัตรเครดิตมีเท่าไหร่ กดมาหมดทุกใบเลย ทั้งที่ไม่ค่อยจะเหลือวงเงินแล้ว ...................สรุปรวบรวมเงินมากได้ 50,000 บาท จากให้แม่ไปหยิบยืมมาบ้าง รวม ๆ กับบัตรของเรา
แค่นี้ก็ยาวพอดูนะครับ สำหรับที่มาที่ไปของเรื่องนี้ คนที่อ่านมาถึงตรงนี้คงงง ว่า เอ !!!! มันเป็นแรงผลักดันของชีวิตตรงไหนว่ะ เหตุการณ์นั้นจะเริ่ม ณ บัดนี้ เหตุการที่ผมต้องน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวเลย
พอเงินขาดผมก็นึกถึงเพื่อนคนหนึ่งขึ้นมาทันทีเลย เป็นเพื่อนสนิททีเดียว ฐานะทางบ้านก็ค่อนข้างดี ที่สำคัญนึกภาพตามนะครับ เพื่อนประเภทขี้โอ่ ๆ หน่อย ๆ เฮ้ย มีอะไรให้ช่วยเหลือบอกนะเว้ยยย ((เสียงเว่อร์ ๆ นิดนึง)) ผมก็เริ่มเลยยยนะ ((ด้วยความที่เราเป็นคนรักศักดิ์ศรีอย่างมาก แต่ครั้งนี้มันด้วยเหตุการณ์จำเป็นเหลือเกิน กำลังจะก้าวขึ้นหลังเสือ คงจะถอยไม่ได้แล้ว))) เอ่ยปากขอยืมเงินเพื่อนเลยครับ ((ใจมันเต้นตุ๊บตั๊บ ๆๆๆๆ บอกไม่ถูกเลยนะ เพื่อนมันก็ดีนะรักษาน้ำใจเราสุดยอดดดเลยย ขอเวลาคิดวันนึงนะ คืนนั้นนอนไม่หลับเลยยยยย จริง ๆ ฝันร้ายไปต่าง ๆ นา ๆ นั่งทอดอาลัยอยู่หน้าเวปนี้แหละ จนหลับไป................
ประมาณ 10 โมงกว่า ๆ เพื่อโทรเข้ามาทาง PCT ((ไม่ทราบมีใครจำได้หรือเปล่าว่าโทรศัพท์ PCT คืออะไร มันก็เป็นโทรศัพท์ไร้สาย ที่ใช้เบอร์เดียวกับเบอร์บ้านนั่นแหละ เป็นโทรศัพท์ที่ประหยัด ประมาณว่า ไม่มีปัญญาซื้อมือถือ ก็ใช้ PCT แทน))) หลายคนคงจำได้
### เฮ้ยยย กรู คงให้เงินมึงยืมไม่ได้ว่ะ ((อ้าววว เชี้ยยยยแล้วไหมล่ะ))) หน้าชา หูแดง โลกแมร่งงหมุนเลยยย กัดฟันนิดนึง แล้วเปล่งเสียงออกไป ------ทำไมล่ะ------ ((เสียงแบบว่าแผล่วเบามากกกกก ๆๆๆๆๆ))
### พอดีกรูเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพี่ที่ทำงานแล้ว เค้าบอกว่าไม่ควรให้ยืมว่ะ เพราะ.......................((เหตุผลทยอยหลั่งไหลออกจากปากมันมา แต่นั่นไม่เท่าไหร่ เหตุผลสุดท้ายนี่ซิมันตีเข้าแสกหน้าจนหน้าหงาย ไม่รู้ว่าเลือดหรือน้ำตานะที่เปรอะหน้าอยู่
### พี่เค้าบอกว่า เอาเงินให้เพื่อนยืมตั้ง 5 หมื่น สู้เอาไปให้น้องชายกรู ผลาญ ซะยังดีกว่า ((คือประมาณว่าน้องชายมันประเภทไม่เอาถ่าน งานการไม่ทำ เกาะพ่อแม่มันกินน่ะ แบบว่าเลวได้ใจว่างั้น))
สรุปเอาเองนะ กรู คนทำมาหากิน กรูคนรักครอบครัว กรูที่สู้มาทุกอย่างจนถึงวันนี้ ทำงานหนักมาทั้งขีวิต สรุปว่า กรูเลวกว่าน้องขายมึง ที่เจ็บที่สุดในชีวิตก็คือ มันยังเอาเรื่องของเราไปปรึกษาคนอื่น ทำให้คนอื่น ๆ มองภาพเราเป็นไงล่ะทีนี้ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าจิตใจเป็นไง
ความโกรธ
ความเกลียด
ความน้อยใจ
มันหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่รู้ตัวเลย น้ำตาแมร่งงง ก็เนาะ เข้าใจกรูดีเหลือเกิ๊นนนน ไหลออกมาเองโดยไม่รู้ตัว ศักดิ์ศรีที่คิดว่าเคยมี หน้าตาทางสังคม หมดไป ณ บัดนั้นเลยทีเดียวเชียว ฟังดู ก็ไม่รู้ว่าหลายคนจะเข้าใจอารมณ์นี้หรือเปล่า แต่สำหรับผม คนที่รักศักดิ์ศรีอย่างมาก มาเจอเหตุการณ์นี้เข้า ทำเอาเป๋ ไปเลยครับ
กลับบ้านไป>>>>>> หงอยมากเหมือนเหมาเหงา เก็บความคิด ระดมสมองเป็นอย่างมาก ว่าจะทำยังไงดี
ผลสุดท้ายที่สุด ((ขอย่อความเลยนะครับ)) ผมก็ได้ไปจัด Finance กับสถาบันการเงินหนึ่งเข้า ซึ่งเรียกเก็บดอกเบี้ยมหาโหดทีเดียว ร้อยละ 18 % ต่อปี กู้ 50,000 บาท รวมเบ็ดเสร็จจ่ายดอกเบี้ยให้มันไปเกือบ 20,000 บาท ทีนี้ก็ต้องมาตั้งหน้าตั้งตาผ่อนเงิน 50,000 บาท ต่อไป...................................แต่ แต่ แต่ แต่
เมฆร้ายใข่ว่าจะผ่านพ้นไป..............................................ตะดึง ตะดึง ตะดึง
รถเอามาขับได้ แค่ 2 วัน หม้อน้ำแมร่งดันระเบิด เกิดจากความร้อนในเครื่องยนต์ ร้อนเกินไป พระเจ้าช่วยยยยย
สิ่งที่เฝ้าฝัน แลกกับความรู้สึกต่าง ๆ ต้องมาพังทลายลงในทันใด ค่าซ่อมเปลี่ยนเครื่องเจอไปอีก 20,000 กว่าบาท เป็นการเพิ่มหนี้สินเข้ามาในชีวิตอีกแล้วววววววววว บทสุดท้าย ความจริงเหล่านี้ก็ปรากฏออกมา
เพื่อแมร่งหักหลังเรา รถมันย้อมแมวมา ราคาคนขายเค้ามาขายแค่ 80,000 บาท เพื่อนมันกินค่าหัวคิวเราไป20,000 บาท ได้รถแบบเอามา 2 วันแจ๊งงงงงง ใครอยากมีเพื่อนแบบนี้อีก รีบติดต่อผมมาโดยด่วยเลยครับ จะแนะนำให้รู้จักกัน เป็นอย่างดี
นั่นแหละ สิ่งที่เกิดขึ้น มันก็เหมือนเป็นแรงผลักดันของชีวิตเลย ได้ประสบการณ์อะไรมากมายจากเรื่องนี้ ต่อไปนี้ กรูจะไม่พึ่งใคร
กรูจะต้องฝ่าฟัน ทุกปัญหาไปให้ได้ด้วยตัวเอง
หากมันจะอดตาย ก็จะขออดอย่างเสือ ไม่แบมือขอใครเด็ดขาด
เริ่มต้นใหม่ทิ้งความเสียใจไว้เบื้องหลัง และปฏิญาณกับตัวเองว่า ต่อไปนี้ เราจะเป็นคนดี ...........งง ((เกี่ยวอะไรว่ะ ฮ่า ฮ่า อ่า)) ไม่ใข่ดิ ก็เป็นอย่างนั้นแหละ ต้องพยายามด้วยตัวเองนั่นแหละ
เฮ้ออออออออ จบไปหนึ่งเรื่อง กับแรงผลักดันในชีวิต แต่ทว่าสิ่งที่ท้าทายต่อไป มันก็กำลังจะก้าวเข้ามาต่อไป ต่อไป ต่อไป .................. ก็รอพบกับ Part 2 ของแรงผลักดันต่อไปนะครับ
เหมือนเดิมครับ หากชอบก็กด LIKE หากใช่ก็กด LOVE ให้ด้วยครับแล้วพบกันใหม่ |
|