(N)
วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7419 ข่าวสดรายวัน
ทลายแก๊งมารศาสนา ใบสั่งฉกพระโบราณ คืนหลวงพ่อเชียงแสน
คอลัมน สดจากสนามข่าว
ฉันทพัฒน์ สิงห์ประเสริฐ เรื่อง/ภาพ
เป็นขบวนการใหญ่มีเครือข่ายกระจายทั่วประเทศ ตระเวนโจรกรรมพระพุทธรูปโบราณตามใบสั่งจากวัดต่างๆ ส่งขายทั้งในและนอกประเทศ แต่หนีไม่รอดจนมุมตำรวจภูธรภาค 3 แกะรอยสืบสวนตามยึดคืนมาได้เป็น หลวงพ่อเชียงแสน พระพุทธรูปสมัยล้านนาอายุกว่า 500 ปี ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมศิลปากร รวมพระพุทธรูปอื่นๆ อีกกว่า 50 รายการ
เผยแก๊งนี้เคยเข้าไปฉกจาก 7 วัดดังทั่วประเทศ ตรวจพบประวัติเป็นขบวนการใหญ่มีคดีติดตัวกว่า 40 คดี ส่วนหัวโจกยังคงลอยนวล ตำรวจระดมทีมตามล่าตัวต่อทันที
แก๊งลักพระพุทธรูปรายใหญ่จมมุมตำรวจเมื่อช่วงสายวันที่ 18 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท. เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภาค 3 พล.ต.ต. ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.ภาค 3 และ นายอนันต์ ชูโชติ ผอ.สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ร่วมแถลงการจับกุมแก๊งโจรกรรมพระพุทธรูปโบราณ
ประกอบด้วย นายอดิศร หรือ สิงห์ ใจมา อายุ 44 ปี และ นายปราโมทย์ หรือ โมทย์ ชินรินทร์ อายุ 42 ปี พร้อมของกลางพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ศิลปะล้านนาอายุกว่า 500 ปี ซึ่งถูกโจรกรรมจากวัดมะกอกศรีมาราม ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พระพุทธรูป 6 รายการที่ถูกโจรกรรมจากพิพิธภัณฑ์วัดบัว อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา และเชิงเทียนเรือสุพรรณหงส์ที่ถูกโจรกรรมจากวัดโคกสว่าง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา
นอกจากนี้ ยังมีพระพุทธรูปปางต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาอีก 45 รายการ
ชุดจู่โจมปฏิบัติการบุกทลายครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้รับการประสานจากกรมศิลปากรให้ช่วยติดตามหลวงพ่อเชียงแสน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ศิลปะล้านนาอายุกว่า 500 ปี ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน ถูกโจรกรรมหายไปจากวัดมะกอกศรีมาราม จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภาค 3 รีบสั่งให้ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.ภาค 3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุ บุรณศิริ รองผบก.ฯ จัดทีมเร่งสืบสวน เน้นกลุ่มคนร้ายที่มีประวัติโจรกรรมพระพุทธรูปทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงกลุ่มร้านรับซื้อของเก่า และนักสะสมของโบราณถูกเพ่งเล็งมากที่สุด
กระทั่งวันที่ 9 มีนาคม พล.ต.ต.ประยนต์ ได้รับเบาะแสจากสายข่าววาพบพระพุทธรูปที่กำลังตามหา อยู่ที่ร้านเช่าแห่งหนึ่งย่านจ.นนทบุรี จึงรีบส่งทีมสืบสวนตรวจสอบก่อนได้ข้อมูลแน่ชัด จึงเข้าปิดล้อมตรวจค้นพบของเก่าโบราณหลายรายการ รวมถึงหลวงพ่อเชียงแสนปางมารวิชัย ที่ถูกโจรกรรมไป จึงรวบตัวนายอดิศร และนายปราโมทย์
ทั้งสองสารภาพว่าร่วมกับ นายชยพล หรือ ต๋อง วงศ์ใหญ่ นายพนม มีถาวร และ น.ส.แอน บุญไชย ที่อยู่ระหว่างหลบหนี ร่วมกันโจรกรรมพระมาหลายครั้ง อาทิ วัดมะกอกศรีมาราม อ.เมืองปราจีนบุรี จากพิพิธภัณฑ์วัดบัว อ.โนนสูง จ.นคร ราชสีมา ที่วัดไม่ทราบชื่อในจ.ขอนแก่น วัดกัลปพฤกษ์ อ.เมืองกำแพงเพชร วัดปทุมวัน อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา วัดสัมปทาน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม วัดชัยชนะวิหาร วัดโนนจาน อ.เทพสถิต จ.ชัย ภูมิ
นายอนันต์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพระพุทธรูปของกลาง โดยเฉพาะหลวงพ่อเชียงแสนซึ่งขึ้นทะเบียนไว้กับกรมศิลปากร พบมีร่องรอยชำรุดที่พระ เนตร ส่วนทองที่หุ้มองค์พระถูกลอกออกไปจนหมด
พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปสมัยล้านนา สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 20-23 อายุกว่า 500 ปี ไม่สามารถประเมินค่าได้ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาทางวัดได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี มีการล็อกกุญแจถึง 3 ชั้น แต่ยังถูกคนร้ายโจรกรรมไปได้
หลังรับพระพุทธรูปกลับไปประดิษฐานยังวัดแล้ว ได้กำชับให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมและระมัดระวังให้มากขึ้น นอกจากนี้ จะได้ขึ้นทะเบียนพระพุทธรูปองค์อื่นๆ หากมีการสูญหายจะได้มีข้อมูลในการติดตามกลับคืน
พล.ต.ต.ประยนต์ เปิดเผยถึงแก๊งแสบว่า สำหรับคนร้ายแก๊งนี้เป็นขบวนการใหญ่ มีเครือข่ายทั่วประเทศ โดยมีพฤติการณ์ทำทีไปทำบุญตามวัดต่างๆ เพื่อดูลาดเลาก่อนลงมือโจรกรรม บางครั้งมีการโจรกรรมตามใบสั่ง ส่งไปจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติคนร้ายแก๊งนี้มีคดีติดตัวกว่า 40 คดี
ส่วนพระพุทธรูปปางต่างๆ ที่ยึดได้และยังไม่มีผู้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของ ทางตำรวจจะประกาศลงเว็บไซต์ www.ppr3.go.th เพื่อตามหาเจ้าของมารับกลับไป
ส่วนหลวงพ่อเชียงแสน พล.ต.อ.วิเชียร ได้ส่งมอบโดยมีนายธนิตย์ ฤทธิเจริญ ไวยาวัจกร วัดมะกอกศรีมาราม พร้อมคณะรับกลับไปประดิษฐานไว้ที่วัด ขณะเดียวกันชาวบ้านมอบดอกไม้แสดงความขอบคุณที่นำมาคืน
ส่วนหัวขโมยส่งชดใช้กรรม !?? |