กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

หลวงปู่เจิม พุทธวังโส เกจิแดนตะวันออก

ศิษย์หลวงปู่คร่ำ ปฏิปทาแน่วแน่ จริยวัตรงดงาม เนื้อนาบุญอำไพ

พระครูวิมลสีลาจารย์ (หลวงปู่เจิม พุทธวังโส) อายุ 88 ปี พรรษา 64 เจ้าอาวาสวัดหนองน้ำขุ่น ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง ท่านนี้นับเป็นภิกษุมีมากด้วยบุญญาบารมี มีปฏิปทาแน่วแน่ ชาวบ้านและคฤหัสถ์มากมายถวายตัวเป็นศิษย์ ให้ความนับถือท่านเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเพราะจริยวัตรที่งดงามและความเมตตาที่หลวงปู่มีให้เสมอเท่าเทียมทุกคน บุคลิกท่านเป็นพระที่เปี่ยมเมตตา กรุณา และมีอารมณ์แจ่มใส ลูกศิษย์ลูกหามากมายได้เพียงเข้ากราบหลวงปู่ก็ได้รับความสบายใจ คลายทุกข์ มีแต่ความสุขสงบบังเกิดขึ้นแก่ศิษย์ที่เข้ามากราบไหว้ ว่ากันว่าหลวงปู่เจิมนั้นแก่กล้าวิชาวิปัสนากรรมฐาน สำเร็จฌานสมาบัติขั้นสูง มีจิตสมาธิอันแก่กล้า แม้เพียงวัตถุใดก็ตามหากเพียงได้รับมอบผ่านจากมือหลวงปู่นั้น เป็นอันถือว่าศักดิ์สิทธิ์ ลูกศิษย์ต่างนำมาอารธนาบูชา เชื่อหรือไม่นั้น ลูกศิษย์เท่านั้นสามารถยืนยันได้เป็นอย่างดี

พื้นเพของหลวงปู่เจิม พุทธวังโส ชื่อ-สกุลเดิม นายเจิม กล้าหาญเป็นคนระยองโดยกำเนิด เกิดอำเภอแกลง ตำบลวังหว้า โยมบิดา นายเชย กล้าหาญ เป็นผู้ใหญ่บ้านแห่งบ้านหนองน้ำขุ่น เป็นผู้มากด้วยบารมีและเป็นพุทธมามกะ มีความตั้งใจแน่แน่วในการทำนุบำรุงพุทธศานา แต่ในเวลานั้นบ้านหนองน้ำขุ่นเองถือว่าเป็นดินแดนไกลปืนเที่ยง การคมนาคมเพื่อไปยังพื้นที่อื่นนั้นยังยากลำบากอยู่มาก ด้วยตัวผู้ใหญ่เชยนั้นศรัทธาในพุทธศาสนาและในบ้านหนองน้ำขุ่นเองยังไม่มีวัดในพื้นที่ต้องไปปฏิบัติศาสนกิจยังพื้นที่หมู่บ้านอื่น จึงดำริกับลูกบ้านว่าจะสร้างวัดขึ้นมาที่หมู่บ้านหนองน้ำขุ่นเพื่อให้เป็นวัดประจำหมู่บ้าน โดยการบริจาคที่ดินส่วนตัวเพื่อสร้างวัดขึ้นจำนวนเนื้อที่ 18 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา และมีลูกบ้านร่วมด้วยคือ นายสง่า นางพาน งามละเมียด บริจาคบ้านหนึ่งหลังให้ไว้เป็นที่พำนักสงฆ์ จึงก่อเกิดเป็นวัดหนองน้ำขุ่น เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2517 ในเวลานั้นหลวงปู่เจิมเองได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์และจำพรรษาอยู่วัดวังหว้า ซึ่งหลวงปู่เจิมได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2490 ณ พัทธสีมา วัดวังหว้า โดยมี

พระมงคลศีลจารย์ (หลวงปู่คร่ำ ยโสธโร) วัดวังหว้าเป็นพระอุปฌาย์

พระอธิการชื่น วัดพลงช้างเผือก เป็นพระกรรมวาจาจารย์

พระใบฎีกาชม วัดพลงช้างเผือก เป็นพระอนุสาวนจารย์

เมื่อแรกเข้าสู่ร่มกาวสาวพัตร์หลวงปู่เจิมนั้นถือได้ว่าเป็นพระนวกะหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติ และตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะบรรลุซึ่งมรรคผล จึงได้ติดตามปฏิบัติอุปฐากพระอาจารย์หลวงปู่คร่ำอย่างใกล้ชิด ติดตามพระอาจารย์ในการปฏิบัติธุดงควัตรอย่างเคร่งครัด จนหลวงปู่คร่ำนั้นเอ็นดูและถ่ายทอดวิชาให้ทั้งหมดเรียกได้ว่า หมดจนไม่มีเหลือทั้งในด้านของวิชาวิปัสสนา อักขระวิชา วิชาการแพทย์แผนโบราณ ตำรับยาสมุนไพร พระคาถา และพระเวทย์ต่างๆ รวมทั้งยังได้มอบตำราบูรพาจารย์คือตำราพระเวทย์ของหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง เมื่อการถ่ายทอดวิชาถือเป็นที่สุดแล้วนั้น

หลวงปู่เจิมเองยังได้ออกธุดงค์ไปในป่าและดินแดนห่างไกลต่างๆ เพื่อศึกษาพระธรรมและเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งต้องใช้วิชาต่างๆ ที่พระอาจารย์หลวงปู่คร่ำได้ถ่ายทอดมาให้ จากนั้นเมื่อพ.ศ.2517 เมื่อวัดหนองน้ำขุ่นได้สร้างขึ้นมา โดยโยมบิดาเป็นผู้สร้างขึ้น จึงได้นิมนต์หลวงปู่เจิม มาครองวัดในตำแหน่งเจ้าอาวาส จึงถือได้ว่าหลวงปู่เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกจวบจนปัจจุบัน

กล่าวถึงประวัติพระอาจารย์ของหลวงปู่เจิมคือ หลวงปู่คร่ำ ยโสธโรนั้น กล่าวได้ว่า หลวงปู่คร่ำเป็นอริยสงฆ์ที่มีผู้ให้ความเคารพศรัทธาหลวงปู่คร่ำจำนวนมาก ต่างพากันยึดหลวงปู่เป็นสรณะในยามที่ต้องเผชิญกับภาวะคับขัน ทั้งยังขอพรบารมีจากหลวงปู่ช่วยบันดาลให้ประสบโชคลาภ ประสบความสำเร็จ สมปรารถนา มีความสุขสมหวังในชีวิต จึงมีผู้ให้สมญานามท่านว่า

”เทพเจ้าของชาวระยอง”บ้าง

”ท่านพ่อแห่งฝั่งทะเลตะวันออก” บ้าง

”เทพเจ้าแห่งภาคตะวันออก”ฯลฯ

รวมความว่าหลวงปู่คร่ำเป็นพระที่อยู่ในใจของทุกคน ทั้งนี้หลวงปู่เจิมก็ได้ดำเนินตามพระอาจารย์ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน

ในด้านของวัตถุมงคลนั้นท่านสร้างเองไม่มากนัก เหรียญรูปเหมือนที่ท่านสร้างขึ้นมาครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2510 หากผู้ใดมีไว้ถือเป็นวาสนา หลังจากนั้นท่านมิได้สร้างวัตถุมงคลที่เป็นของท่านขึ้นมาเองแต่อย่างใด เพียงแต่ทำวัตถุมงคลเล็กๆ เพื่อไว้แจกญาติโยมในเวลาที่ถูกนิมนต์ไปในที่ต่างๆ หรือเวลาที่ลูกศิษย์ลูกหาเข้ากราบ โดยทางลูกศิษย์เชื่อว่าวัตถุใดก็ตาม หากได้ผ่านหรือรับจากมือหลวงพ่อนั้นถือว่าวัตถุนั้นเปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์และมีพุทธคุณสูง

พุทธคุณเด่นของหลวงปู่เจิมนั้นลูกศิษย์ใกล้ชิดเล่าว่าท่านเด่นทางด้านเมตตามหานิยม และคุ้มครองแคล้วคลาด แม้ท่านจะไม่สร้างวัตถุมงคลของท่านเองอย่างเด่นชัด แต่ด้วยท่านนั้นมีฌานสมาบัติขั้นสูง ท่านจึงมีนิมนต์ให้ร่วมเข้านั่งปรกอธิฐานจิต ในพิธีพุทธาภิเษก อยู่ตลอดเวลา และในวาระพุทธาภิเษกสำคัญๆ ระดับประเทศหลายครั้งหลายครา

ด้วยจริยวัตรที่งดงามของหลวงปู่นั้น หลวงปู่เจิมจึงเป็นที่ศรัทธาแก่ชาวบ้านในละแวกวัดและทั่วไป มีหลายระดับอาชีพที่ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ลูกหา แม้ระดับเจ้าฟ้า เจ้านาย ต่างๆ ก็เข้ามากราบอารธนาหลวงปู่เป็นลูกศิษย์ ด้วยเมตตาที่หลวงปู่มีให้อย่างมากมายนั้น หลวงปู่เจิมไม่เคยที่จะถือตัว ยังคงเป็นหลวงปู่เจิมที่เมตตา ชาวบ้าน ร้านค้าทั้งหลายสามารถเข้าหาเพื่อกราบนมัสการเพื่อขอพรได้อย่างไม่มีปิดกั้น จึงนับเป็น พระอริยสงฆ์ที่เปี่ยมด้วยมหาเมตตาอย่างแท้จริง

ในการพัฒนากิจการวัดนั้น ก็อาศัยลำพังเพียงบารมีหลวงปู่เจิม ก็ไหลมาซึ่งจิตศรัทธาของสาธุชน และเหล่าศิษยานุศิษย์ ทำให้สามารถที่จะจัดสร้างทั้งโบสถ์และวิหารต่างๆได้ ในปีนี้นั้นนับเป็นโอกาศมงคลสูงสุดที่หลวงปู่เจิม พุทธวังโส มีอายุครบ 88 ปี จึงดำริจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนครั้งในรอบ 45 ปี โดยกำหนดรูปแบบคล้ายกับเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ทิม เพื่อให้ศิษยานุศิษย์และสาธุชนได้ร่วมในบุญใหญ่ และเพื่อเผยแผ่บารมีของหลวงปู่ให้สาธุชนทั่วไป โดยวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนครั้งแรกในรอบ 45 ปีนี้ คือ

เพื่อสร้างซุ้มประตูวัด โดยอานิสงค์ของการร่วมบุญสร้างซุ้มประตูวัดนั้นท่านว่าจักได้บุญมากมายมหาศาล เปรียบผลบุญได้กับพญานาคที่ถวายตัวเป็นบันไดให้พระพุทธองค์เสด็จดำเนิน เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ได้เสด็จจากสวรรค์ลงมาเพื่อโปรดสัตว์ยังโลกมนุษย์