ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ระหว่างที่รอชมภาพประวัติศาตร์ของวันนี้..มาชมสุดยอดพระเกจิที่มาร่วมงานดีกว่าครับ

(N)
ระหว่างที่รอชมภาพประวัติศาตร์ของวันนี้..มาชมสุดยอดพระเกจิที่มาร่วมงานดีกว่าครับ

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:11 น.]



โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:13 น.] #2119446 (1/25)


(N)
พระพรหมสุธี (เจ้าคุณเสนาะ)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ
เจ้าคณะภาค 12
กรรมการมหาเถรสมาคม
1. ประธานจุดเทียนชัย เจ้าคุณเสนาะ วัดสระเกศวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ.
อีกหนึ่งประวัติศาสตร์ไทยที่ต้องจารึกไว้ ในปีพุทธศักราช 2548ถึงการเลื่อนสมณศักดิ์ของพระพรหมสุธี โดยได้รับการแต่ง ตั้งขึ้นเป็นชั้นรองสมเด็จพระราชาคณะที่มีอายุไม่ถึง 50 ปี นับเป็นรูปที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นพระสงฆ์รูปเดียวที่ได้รับ การสถาปนาในขณะที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส...
ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจในร่มบวรพระพุทธศาสนา พระพรหมสุธี คือหนึ่งกำลังสำคัญที่ให้การสนับสนุนผลักดันการงาน และกิจกรรมต่างๆทางพระพุทธศาสนา สืบเนื่องมาจากภาระหน้าที่ต่างๆที่พระเดชพระคุณท่านต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นเลขานุการ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งพระพรหมสุธีได้ขอรับแบ่งเบาภาระอันสำคัญต่างๆมาโดยมิได้ขาดตกบกพร่อง และปฏิบัติเช่นนี้มาตลอดเวลาที่รับใช้เจ้าประคุณ สมเด็จวัดสระเกศ ถือเป็นกำลังสำคัญอันดับหนึ่งของเจ้าประคุณสมเด็จที่จะขาดเสียมิได้
รวมทั้งหน้าที่หลักสำคัญที่พระพรหมสุธีทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่เสมอมานั่นคือ เจ้าคณะภาค 12 ที่ต้องดูแลพระสงฆ์ใน ปกครองทั้ง 4 จังหวัดด้วยกันคือ ปราจีนบุรี, นครนายก, ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ยังมีอีกหนึ่งบทบาทที่ต้องการ ให้พระเดชพระคุณท่านมาช่วยดูแลด้วยความเมตตา ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพระพรหมสุธี จึงต้องรับหน้าที่นั้น... นั่นคือ กรรมการมหาเถระสมาคม
จากที่ได้กล่าวมาในตอนต้นทั้งหมดนั้น ทำให้มองเห็นการขับเคลื่อนของศาสนาพุทธในประเทศไทยหมุนไปอย่างไม่มีวันหยุดนิ่ง ก็ด้วยความตั้งใจของพระเถรานุเถระทรงสมณศักดิ์รูปหนึ่ง ที่ดูแลใส่ใจประดุจดั่งเฟืองใหญ่นำพาทุกสิ่งทุกอย่างพัฒนาก้าวหน้าไปใน ทางที่ดี

เมื่อกล่าวมาถึง ณ ตรงนี้ ขออนุญาตกล่าวประวัติเดิมของพระเดชพระคุณท่านสักนิดนึง... “เสนาะ ฝังมุข” คือชื่อ-สกุลเดิมของ “พระพรหมสุธี” ท่านเกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ปีระกา บิดา-มารดาชื่อ นายถนอม-นางกระแส ฝังมุข พื้นเพเป็นคนอำเภอ บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยกำเนิด...
สามเณรเสนาะได้คอยปรนนิบัติรับใช้อาจารย์ชุบและเรียนหนังสือ ศึกษาพระธรรมวินัยควบคู่กันไปด้วยดีโดยตลอด และได้เข้า พิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2512 ณ วัดสระเกศ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมคุณาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ปญฺญาวชิโร” มีความหมายว่า ผู้มีปัญญาอันเฉียบแหลม
หลังจากอุปสมบทก็ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ดูแลงานปกครองดูแลด้านการเงิน ในขณะเดียวกันยังเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดสระเกศ เป็นกรรมการตรวจนักธรรมสนามหลวง ปละกรรมการตรวจ บาลีสนามหลวง
ในปี พ.ศ. 2525 สอบได้พุทธศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งในปีเดียวกันนี้ได้รับมอบหมายให้เป็น แม่งานควบคุมการบูรณปฏิสังขรณ์บรมบรรพต (ภูเขาทอง) ในงานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี และในปี พ.ศ. 2527 ได้ เดินทางไปประเทศอินเดีย เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโท คณะสังคมวิทยา ใช้เวลา 2 ปีก่อนสำเร็จการศึกษา
ลำดับสมณศักดิ์
• ปี พ.ศ. 2530 เป็นพระครูปลัดสุวัฒนพรหมคุณ ฐานานุกรมในพระพรหมคุณาภรณ์ (สมเด็จพระพุฒจารย์ ในปัจจุบัน) หลังจากนั้นก็ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระปัญญาวชิราภรณ์”…
• ปี พ.ศ. 2535 เป็นพระราชา คณะชั้นราชที่ พระราชสิทธิมงคล...
• ปี พ.ศ. 2540 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพโสภณ...
• ปี พ.ศ.2543 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมสิทธิเวที...
• และเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2548 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นรองสมเด็จในราชทินนามที่ พระพรหมสุธี ซึ่งเป็นความปราบปลื้มใจแก่บรรดาลูกศิษย์เป็นอย่างยิ่ง
พระพรหมสุธีเน้นเรื่องความกตัญญูกตเวทีเป็นสำคัญ ดังนั้นในทุกปี พระเดชพระคุณท่านจะกลับบ้านเกิดไปที่วัดสามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำบุญครบรอบวันมรณภาพของพระอาจารย์ชุบ พระผู้มีคุณทำให้มี พระพรหมสุธี ในวันนี้

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:14 น.] #2119447 (2/25)


(N)
(N)
รูปที่ 2หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ ต.วังแดง อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา พระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม่น้ำป่าสัก

หลวงพ่อเอื้อน อตตมโน วัดวังแดงใต้ ต.วังแดง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา หนึ่งในพระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม่น้ำป่าสัก พุทธคุณในด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ทั้งเมตตามหานิยม มีประสบการณ์ให้ประจักษ์มาแล้ว

หลวงพ่อเอื้อน อตตมโน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งในอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวบ้าน และจะได้พบเห็นในงานปลุกเสกพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆที่ตามวัดนิมนต์ท่านไปร่วมปลุกเสกให้บังเกิดความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ให้มีความขลังในด้านต่างๆ

เรียกว่างานไหนไม่มี หลวงพ่อเอื้อนแล้ว ดูเหมือนว่าการปลุกเสกจะไม่สมบูรณ์เอาเลย

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:15 น.] #2119451 (3/25)


(N)
รูปที่ 3 หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม จ.อยุธยาฯ ชาติภูมิ พระครูวิชัยกิจจารักษ์

นับตั้งแต่บรรพชาเป็นสามเณรได้ศึกษาทางพุทธาคม นอกจากการเรียนกัมมัฏฐานกับท่านอาจารย์จาบแล้ว ยังได้ศึกษาวิชาอาคมควบคู่กันไปด้วย โดยศึกษาด้วยตนเองจากตำรา คัมภีร์โบราณของวัดกล้วย ซึ่งเป็นสรรพวิชาในสายวัดประดู่ทรงธรรม

หลวงพ่อได้มุ่งมั่นฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ ครบถ้วนด้วยเวทมนตร์คาถาลงอักขระ เลขยันต์ต่างๆ หลังจากนั้นท่านได้สร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกขึ้น คือ พระพิมพ์ขุนแผนเนื้อผง ปี ๒๕๐๙ ต่อมาท่านได้สร้างพระเครื่องขึ้นมาอีกหลายอย่าง เช่น พระพิมพ์สมเด็จ พระปิดตา ตะกรุดโทน ตะกรุดสี่มหา ตะกรุดมหาระงับ และวัตถุมงคลอื่นๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ หลวงพ่อยังได้ใช้วิชาอาคมต่างๆ ช่วยเหลือชาวบ้านที่มาหา โดยแนะนำให้ทำสิ่งต่างๆ ตามดวงชะตาของแต่ละคน ให้บรรเทาเบาบางหมดไป แม้ว่าหลวงพ่อไม่ใช่พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ด้วยความเมตตา ความเอื้ออาทรช่วยเหลือชาวบ้านทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน จึงมีผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสมากราบไหว้ท่านเป็นประจำ

เมื่อหลวงพ่อได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม ท่านได้พัฒนาศาสนสถานต่างๆ จนเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก อาทิ งานบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถ งานสร้างถนนเข้าวัด เมรุเผาศพ เทพื้นรอบอุโบสถ สร้างศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฏิ ศาลาอเนกประสงค์ หอฉัน โรงเรียนพระปริยัติธรรม รั้วกำแพง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตำหนักพระเจ้าตากสิน ศาลวีรชน เขื่อนกั้นน้ำ และถาวรวัตถุอีกมากมาย

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:16 น.] #2119454 (4/25)


(N)
รูปที่ 4 พระครูประโชติธรรมวิจิตร หรือ หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา

เป็นพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งของ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทั้งงานพัฒนาพระศาสนา ก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ของวัด และทางปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ จนปรากฏเป็นที่เลื่องลือในหมู่ลูกศิษย์และผู้ศรัทธาเลื่อมใสในหลวงพ่อตลอด

หลวงพ่อเพิ่มได้ปฎิบัติธรรมอย่างเคร่องครัด และสนใจศึกษาวิชาอาคมอย่างจริงจัง เมื่อครั้งย้ายมาจำพรรษาที่วัดป้อมแก้ว โดยได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อโชติ อดีตเจ้าอาวาสในขณะนั้น ผู้ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โถ ในสายพุทธาคมของหลวงปู่ปั้น วัดพิกุล สุดยอดพระเกจิในอดีต

โดยในขั้นแรกนั้นท่านได้เริ่มจากการเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ โดยที่หลวงพ่อเพิ่มท่านได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อโชติให้เป็นผู้เขียนอักขระยันต์แทนหลวงพ่อโชติที่มีอายุมากและสาย ตาไม่ดี

ต่อมาก็ได้รับการมอบหมายให้ทั้งจารและปลุกเสกด้วยจนกระทั่งหลวงพ่อโชติได้มรณภาพลงหลวงพ่อเพิ่มจึงได้รับ ตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบมาโดยหลวงพ่อเพิ่มท่านได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาพัฒนาวัดป้อมแก้วให้ดีขึ้นดังที่เห็นในปัจจุบัน

ปัจจุบันหลวงพ่อเพิ่มมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงดีอยู่เสมอ และมักจะได้รับกิจนิมนต์นั่งปรกอธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆ ตามพิธีพุทธาภิเษก ทั้งที่วัดใน จ.พระนครศรีอยุธยา และใกล้เคียง รวมทั้งวัตถุมงคลของวัดป้อมแก้ว ที่ท่านได้จัดสร้างขึ้นเอง ซึ่งมีออกมาเป็นระยะๆ และมีผู้ทำบุญบูชาหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่ได้มีการโฆษณาตามสื่อต่างๆ ก็ตาม

หลวงพ่อเพิ่ม นับเป็นพระสุปฏิปันโนที่น่าเคารพกราบไหว้เป็นอย่างยิ่ง ด้วยปฏิปทาอันเรียบง่าย สมถะ สันโดษ เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของผู้พบเห็นอยู่เสมอ จนมีผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่ง ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆ ในการนั่งสมาธิฝักอบรมวิปัสสนากรรมฐาน มาจากพระเกจิอาจารย์ยุคก่อน อาทิ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ครูบาชุ่ม โพธิโก ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ฯลฯ ได้ให้ข้อสังเกตว่า

ด้วยวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อเพิ่ม และการแสดงออกบนใบหน้าของหลวงพ่อ บ่งบอกได้ว่า ท่านเป็นผู้มีบุญบารมีสูง และได้บรรลุธรรมในระดับหนึ่ง รวมทั้งเชื่อกันว่า ท่านเป็นผู้มีพลังจิตอันสูงส่ง มีความแก่กล้าในทางวิชาอาคมอันเข้มขลัง ซึ่งตรงกับคำเล่าลือของชาวบ้านที่ว่า วัตถุมงคลของหลวงพ่อเพิ่มทุกรุ่นที่ท่านได้ปลุกเสกเอาไว้ ล้วนมีอานุภาพความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์มาโดยตลอด จนปรากฏเกียรติคุณอันโด่งดังถึงทุกวันนี้

นอกจากนี้ ชื่อของ "หลวงพ่อเพิ่ม" ยังเป็นมงคลนาม จึงเชื่อกันว่า ใครได้ทำบุญกับ "หลวงพ่อเพิ่ม" ชีวิตมีแต่ "เพิ่ม" ขึ้นในทางที่ดีเสมอไป

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:16 น.] #2119456 (5/25)


(N)
รูปที่ 5 หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี

พระครูวิมลสมณวัตร (ลพ.เพี้ยน) พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดลพบุรี ท่านเป็นเจ้าอาวาสของวัดเกริ่นกฐิน เป็นนักพฒนา และที่สำคัญคือหลวงพ่อเพี้ยนท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

เป็นผู้ที่มีวิชาความอาคมซึ่งได้ร่ำเรียนมาจากครูบาอาจารย์ (หลวงพ่อปาน) และยังเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านเกริ่นกฐินอีกด้วย จนกระทั่งหลวงพ่อมีชื่อเสียงถึงขั้นเป็นพระเกจิอาจารย์ในระดับประเทศ ท่านได้พัฒนาวัดโดยการสร้างถาวรวัตถุขึ้นมากมาย

วัดเกริ่นทุกวันนี้นับว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี ถึงวัดแห่งนี้จะไม่ได้ตั้งอยู่ในตัวเมือง แต่ด้วยพลังศรัทธาของพุทธศานิกชนที่หลั่งใหลสู่วัดเกริ่นกฐินนั้นต่างก็มาด้วยความยินดี และต้องการที่จะชื่นชมบารมีของหลวงพ่อเพี้ยน ร่วมกันบริจาคทรัพย์ บูชาวัตถุมงคลที่หลวงพ่อท่านได้ปลุกเสกแล้ว และทำบุญไหว้พระ ปิดทองหลวงพ่อปาน และเข้าไปกราบหลวงพ่อซึ่งทุกครั้งที่ประชาชนเข้าไปหลวงพ่อท่านจะนั้งอยู่ภายในศาลาคอยประพรมน้ำมนต์ให้แก่พุทธศาสนิกชน จึงทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อนั้นเลื่องลือไปไกลและมีศิษย์ยานุศิษย์มากมาย

คลิปบารมีลพ.เพี้ยน เขียนยันต์ปลุกเสกจากแดดเปรี้ยง ๆ กลับฝนตกหนัก อัศจรรย์มากครับ.. ดูกันเองครับ.. http://wt82.siamvip.com/default.aspx?headmenu=true&id=M000000012

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:17 น.] #2119459 (6/25)


(N)
รูปที่ 6 พระอาจารย์ธรรมนูญ (ติ๋ว) ฐิตวฑฺฒโน วัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี

พระครูวิมลญาณอุดม (อ.ติ๋ว) วัดมณีชลขันฑ์ อ.เมือง จ.ลพบุรี ท่านเป็นผู้ใฝ่รู้ในทางอักษรขอมตั้งแต่ครั้งยังเป็นสามเณรทราบข่าว มีอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถที่ไหนก็จะเดินทางไปขอศึกษาด้วยความพากเพียร

โดยเฉพาะเกี่ยวกับพระพรหมท่านได้เรียนรู้มากพอสมควรจากหลวงปู่สี วัดสะแก และอาจารย์เทพสาริกบุตรเป็นต้น แล้วได้ทดลองด้วยตัวท่านเอง คณะศิษย์ยังได้สร้างพระพรหม ขึ้นตามที่ท่านได้เรียนมา เพื่อมอบแก่ศิษย์ที่เคารพนับถือท่าน จนมีชื่อเสียงซึ่งแต่ละครั้งได้สร้างขึ้นจำนวนน้อยมากจนไม่เพียงพอแก่ศิษย์ที่มีจำนวนมาก

ครั้งนี้ท่านได้มีเมตตาอนุญาตให้จัดสร้างขึ้นจำนวนพอสมควรและจะนำจตุปัจจัยสร้างถวายวัตถุในบวรพุทธศาสนาเพื่อได้สืบต่อพระพุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรสืบไป

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:18 น.] #2119463 (7/25)


(N)
รูปที่ 7 หลวงพ่อ ชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ปทุมธานี

พระครูปทุมวรกิจ หรือนามที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า “หลวงพ่อชำนาญ” แห่งวัดบางกุฎีทองยอดเกจิอาจารย์ ผู้เรืองเวทแห่งเมืองปทุม เป็นพระที่เก็บตัวเงียบอยู่ในกุฎี พูดน้อย ถือพระรัตนตรัยและครูอาจารย์เป็นใหญ่เหนืออื่นใดทั้งหมด ด้วยวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัด น่าเลื่อมใสและศรัทธาคงเอกลักษณ์พุทธบุตรในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง

คำสอนของหลวงพ่อที่บอกต่อศิษย์เสมอว่า ...

"อันครูบาอาจารย์ไม่เคยทอดทิ้งศิษย์ มีแต่ศิษย์นั้นแหละที่ลืมและทอดทิ้งอาจารย์
หากศิษย์ไม่ลืมครูบาอาจารย์ มีหรือจะทิ้งศิษย์ต้องช่วยกันจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง"

ประวิติเพิ่มเติมได้ที่ http://thaiwebkit.com/luangporchamnan.com/

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:18 น.] #2119466 (8/25)


(N)
รูปที่ 8 หลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน วัดตาล จ.นนทบุรี

ในยุคสมัยปัจจุบันถ้าจะกล่าวถึงพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูปหนึ่งที่เป็นดั่ง เพชรเม็ดงามแห่งจังหวัดนนทบุรี คงไม่มีใครไม่รู้จัก "หลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน" แห่งวัดตาล ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม สมถะ เรียบง่าย ไม่จับต้องเงินทอง หรืออามิส อันจะนำไปสู่วังวนแห่งกิเลสตัณหาใดๆ ทั้งสิ้น

"หลวงพ่อสิริ วัดตาล" ปัจจุบันท่านอายุ 71 ปี พรรษา 51 เมื่อพ.ศ.2497 อายุได้ 14 ปี ได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดตาล หลังจากบวชเป็นสามเณรได้เพียง 1 ปีก็มีเรื่องแปลก กล่าวคือ "หลวงพ่อโอภาสี" ซึ่งเป็นพระเกจิที่มีฌานสมาบัติสูงรูปหนึ่งในยุคนั้นได้ให้ลูกศิษย์พายเรือ เอาธงชาติผืนใหญ่มาฝากไว้ให้สามเณรสิริ เป็นเวลา 7 วัน ในธงชาตินั้นเขียนยันต์ล้อมรอบ และเขียนพระราชประวัติของในหลวงไว้เป็นภาษาขอมโบราณ ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับพระองค์ในภพชาติที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจต่อผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ยิ่ง นักว่าทำไมหลวงพ่อโอภาสีจึงให้ความสำคัญกับสามเณรสิริ ซึ่งบวชเป็นสามเณรได้เพียงแค่ 1 ปีถึงขนาดนี้

ด้วยมีความสนใจ ศึกษาทางด้านพุทธาคมตั้งแต่ครั้งยังเป็นสามเณร เมื่อได้อุปสมบทแล้วท่านก็ได้กราบขอฝากตัวเป็นศิษย์กับท่านเจ้าคุณพระอริย ธัชเถระ ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์สายตรงของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อสิริจึงมีโอกาสได้ศึกษาพุทธาคมสายวิชาของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ทั้งทางด้านวิปัสนากรรมฐาน และคาถาอาคมต่างๆ อย่างลึกซึ้ง

ด้านศาสนกิจท่านถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ซึ่งมาก ด้วยเมตตาคอยให้การอุปถัมภ์กิจกรรมของคณะสงฆ์ภายในวัดตาล และวัดวาอารามต่างๆ ที่มาขอความเมตตาจากท่าน หรือท่านพิจารณาแล้วว่ามีเจตนาดีบริสุทธิ์เป็นประโยชน์ต่อพุทธศาสนาเห็นควร ให้การอุปถัมภ์ ท่านก็จะเมตตาช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถทุกครั้งไป

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:19 น.] #2119467 (9/25)


(N)
รูปที่ 9 หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา

หลวงพ่อฟู อติภทฺโท หรือ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระมงคลสุทธิคุณเจ้าอาวาสวัดบางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทราเทพเจ้าแห่งปลัดขิกอันลือลั่น ผู้มากด้วยเมตตาบารมี

ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2465 อุปสมบทเมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2485 ณ วัดบางสมัครโดยมีพระครูพิบูลย์คณารักษ์ (หลวงพ่อดิ่ง) วัดบางวัว เป็นพระอุปัชฌาย์

หลวงพ่อฟูเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้เปี่ยมด้วยเมตตามหานิยม อาคมเข้มขลัง สืบทอดพุทธาคมจากครูบาอาจารย์ที่โด่งดังหลายรูป

ทั้งศึกษาด้วยตนเองกับอาจารย์ หรือศึกษาต่อจากอาจารย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชามารวมทั้งวิชาจากโยมฆราวาสุเช่น สายหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว พระอุปัชฌาย์ ที่เมตตาและถ่ายทอดวิชาให้ทั้งหมด, หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย, ศึกษาต่อจากหลวงพ่อจอม, หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก, ได้วิชาจากโยมฆราวาส หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส

ทั้งวิชาเสืออาคม เสือสมิง ปลัดขิก, หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ซึ่งถ่ายทอดวิชาหน้าผากเสือ และปลัดขิกหลวงพ่ออี๋วัดสัตหีบ อันลือลั่น นอกจากนี้หลวงพ่อฟูยังศึกษาเพิ่มเติมกับอาจารย์จำนวนมาก ทั้งพระเกจิอาจารย์และญาติโยมฆราวาสโดยไม่ถือตัว

หลวงพ่อฟู เป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูงมากโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ ไม่ยึดติดและถ้ามีโอกาสได้กราบไหว้จะเห็นถึงเมตตาบารมีจากองค์หลวงพ่อที่ลูกศิษย์ไปกราบมารู้ถึงเมตตาบารมีของท่านเป็นอย่างดี ทุกวันนี้หลวงพ่อฟู ท่านก็ยังคงหมั่นศึกษาทบทวนเพิ่มเติมไสยเวทย์อยู่ตลอดเวลา น่ากราบไหว้บูชายิ่งจึงไม่น่าสงสัยว่าวัตถุมงคลของท่านผู้คนนำไปบูชาจึงพบประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งในเรื่องเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย รวมทั้งอยู่ยงคงกระพันชาตรี

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:21 น.] #2119469 (10/25)


(N)


ส่วนพิธีแรก และพิธีที่ 3 ปิดท้าย ต้อง พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ
พระครูอนุศาสน์กิจจาทร วัดอรัญวาสิการาม หรือที่รู้จักกันในนาม “พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปัตตานี” เทพเจ้าฝ่ายบู๊แห่งเมือง ลังกาสุกะ

ปัจจุบันพ่อท่านเขียว กิตติคุโณ อายุ 84 ปี พรรษา 64 ท่านได้ศึกษาในทางธรรมและปฏิบัติตนเคร่งครัด ศึกษาด้านปริยัติธรรมบาลีไวยากรณ์และนักธรรม รวมถึงการสวดมนต์ สาธยายธรรม ด้วยเหตุนี้เอง พ่อท่านเขียวท่านจึงสามารถ สวดปาฏิโมกข์ได้ตั้งแต่ในพรรษาที่ 5 พ่อท่านเขียว สอบได้นักธรรมโทและต่อมา ท่านได้รับตำแหน่ง รักษาการเจ้าอาวาส วัดนางโอ จนกระทั่งได้เป็นเจ้าอาวาสในลำดับต่อมา ในระหว่างนี้ท่านเองเป็นสหธรรมมิกกับ “พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ” ด้วยความที่วัดอยู่ใกล้กัน ท่านทั้งสองจึงได้เคยร่วมสังฆกรรม สนทนาธรรม และร่วมในพิธีกรรมต่างๆด้วยกันเสมอ

โดยเฉพาะเมื่อคราวที่ท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ สร้างพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน รุ่นปี 2497 เพื่อแจกแก่ผู้ที่ร่วมสร้างพระอุโบสถ วัดช้างให้นั้น พ่อท่านเขียว เป็นผู้หนึ่งที่คลุกเนื้อผสมว่าน และร่วมอยู่ในพิธีกรรมเจริญพุทธมนต์ ในระหว่างที่ท่านอาจารย์ทิม อัญเชิญดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวด เพื่อปลุกเสกพระเครื่องเนื้อว่านในคราวปี 2497 และร่วมพิธีกรรมปลุกเสกอีกหลายวาระจนเมื่ออาจารย์ทิมท่านมรณภาพแล้ว ยังมีพิธีกรรมที่สำคัญอีก 1 วาระ คือปลุกเสกหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี 2524 ปัจจุบันเป็นที่เสาะหากันมาก เพราะมีประสบการณ์คุ้มภยันตราย แคล้วคลาดปลอดภัยแก่ผู้ที่นับถือ

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:23 น.] #2119472 (11/25)
ต้องขอขอบพระคุณรูปภาพ และข้อมูลจากท่าน นราลัย อย่างมากนะครับ

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:24 น.] #2119474 (12/25)


(N)
เกจิคณาจารย์แต่ละท่าน สุดยอดทั้งนั้นครับพี่

!!!!! เหรียญเสมาฉลุ พิมพ์หน้าเลื่อน ฝังตระกรุดยันต์รับทรัพย์ทองคำทุกองค์ !!!!!!!

โดยคุณ kor_kai (1.1K)(1)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:35 น.] #2119495 (13/25)

โดยคุณ artanha (810)  [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:42 น.] #2119509 (14/25)

โดยคุณ oncall (198)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 18:42 น.] #2119511 (15/25)

โดยคุณ tondrc (3.3K)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 19:05 น.] #2119545 (16/25)


(N)
รอชมภาพสวยๆอย่างเป็นทางการด้วยครับ

โดยคุณ BCC-106 (434)  [อ. 21 ก.พ. 2555 - 19:13 น.] #2119557 (17/25)
รอชมด้วยครับ

โดยคุณ lek_devils (639)  [อ. 21 ก.พ. 2555 - 19:43 น.] #2119598 (18/25)
"ไม่ได้มาเชียร์ ผมชอบ"

โดยคุณ jcainfo (6K)  [อ. 21 ก.พ. 2555 - 19:50 น.] #2119610 (19/25)
ยอดเยี่ยมมากครับพี่เอก ทาเคชิ

ผมได้รับภาพสดๆ มาบ้างแล้วแต่โพสต์ด้วย iPhone ไม่ได้ครับ

เดี๋ยวคืนนี้คุณบิ๊กและทีมงานคงได้นำภาพมาลงให้ได้ชื่นชมกันครับ

โดยคุณ minemint (2.9K)  [อ. 21 ก.พ. 2555 - 20:29 น.] #2119729 (20/25)

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 20:33 น.] #2119743 (21/25)


(N)


หลวงปู่ท่านได้เซ็นจดหมายฉบับนี้ด้วยจิตใจอันแน่วแน่ และ มุ่งมั่น...

และนี่คือสิ่งที่ตอกย้ำแห่งความเป็นที่สุดของ "พระเกจิสายตรงลพ.ทวด องค์สุดท้ายที่สืบสานตำนานลพ.ทวดวัดช้างให้ รุ่นแรกปีพ.ศ.2497"

"พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ" แห่งวัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี
แต่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายก็คือ...

หลวงปู่ตั้งใจที่จะจัดพิธีวาระที่ 3 ซึ่งท่านจะอธิษฐานจิตเดี่ยว ณ&#8203 กุฏิของท่านเอง และหลวงปู่ได้กำหนดฤกษ์ให้เรียบร้อยเป็นวันที่ 24 กพ. 55 เวลา 13:19น. ดังหนังสือฉบับนี้ครับ

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [อ. 21 ก.พ. 2555 - 20:37 น.] #2119751 (22/25)
คอยติดตาม วาระ ที่ 3 ที่พ่อท่านเขียว สุดยอดพระเกจิสายใต้อีกรูปหนึ่ง ที่จะนั้งปรกส่งพลังจิต ปลุกเษกวัตถุมงคล ปิดท้าย อย่างสุดยอด และยอดเยี่ยม คอยติดตาม และตามชม
จากพี่บิ๊ก และ ทีมงาม .....

โดยคุณ เทวะบัญชา (403)  [อ. 21 ก.พ. 2555 - 21:35 น.] #2119930 (23/25)

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [พ. 22 ก.พ. 2555 - 17:34 น.] #2121280 (24/25)
ต้องขอขอบพระคุณรูปภาพ และข้อมูลจากท่าน นราลัย อย่างมากนะครับ

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [พ. 22 ก.พ. 2555 - 18:01 น.] #2121302 (25/25)
มาอ่าน กะทู้นี้ต่อเรยนะครับ
https://www.g-pra.com/webboard/show.php?Category=publicize&No=305792

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1