ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ++ บทที่ 2/8 : พระอาจารย์อ๊อด (พระครูโกศลธรรมโสภิต) ผู้ประยุกต์พิมพ์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่น รวย เฮง สยบมห



(N)
ผมขออนุญาตเรียนให้ทราบ และ เพื่อให้เกียรติกับพระอาจารย์อ๊อด (พระครูโกศลธรรมโสภิต) แห่งวัดหน้าพระเมรุฯ ผู้ซึ่งประยุกต์รูปแบบของ "ท้าวเวสสุวรรณ ............ รุ่น รวย เฮง สยบมหาอุทกภัย" ได้ออกมาสวยงามและอลังการเช่นนี้ครับ ผลงานรุ่นนี้พระอาจารย์อ๊อดได้ศึกษา และค้นคว้าถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีความ "พิเศษ" มากยิ่งกว่า "ท้าวเวสสุวรรณหน้าเทพ ปางสี่กร" ที่มีรูปแบบสวยงามอยู่แล้ว

พระอาจารย์อ๊อดเล่าว่า เป็นงานที่ยากเพราะต้องศึกษาให้ถึงแก่นลึกของการจัดสร้างท้าวเวสสุวรรณที่ "ครบเครื่อง" โดยต้องมีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่าการจัดสร้างในรูปแบบใหม่นั้นต้องมีที่มาที่ไปอย่างถูกต้อง มิใช่นำมามั่วๆ แล้วปรับเปลี่ยนรูปแบบตามใจชอบ

โดยคุณ bigsiristore (16)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 17:47 น.]



โดยคุณ bigsiristore (16)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 18:07 น.] #2224366 (1/29)


(N)


พระอาจารย์อีอดท่านเป็นพระที่เมตตา เพียงแต่ว่าท่านจะพูดจาเสียงดังจนบางครั้งอาจจะดูเหมือนว่าท่านเป็นพระดุ

ท่านเป็นผู้ให้โอกาสผมได้รับผิดชอบงานที่ "ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต"&#8203 ของผม คือ การได้ร่วมประสานงาน และเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ ให้กับทางมูลนิธิพระมหามงคลพุทธนิมิต อวโลกิเตศวร (กวนอิม)&#8203 เพื่อหารายได้จัดสร้างพระมหาจักรพรรดิโพธิสัตว์กวนอิมปาง 4 พระพักตร์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สูง 42 เมตร หรือประมาณตึก 19 ชั้น...

ผมจึงได้ตั้งใจ และ อุทิศตนให้อย่างเต็มที่เพื่อให้การจัดสร้างพระมหาจักรพรรดิโพธิสัตว์กวนอิมฯ&#8203 นี้สำเร็จลุล่วงให้จงได้ครับ

โดยคุณ bigsiristore (16)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 18:07 น.] #2224368 (2/29)


(N)


พระอาจารย์อ๊อดได้ค้นคว้าเรื่อยมาจนกระทั่งได้พบกับหนังสือเล่มหนึ่ง "พระคเณศและเทพองค์สำคัญ" เป็นหนังสือที่รวบรวมรูปภาพลายเส้นของเหล่าทวยเทพที่สำคัญองค์ต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งวาดโดยอาจารย์สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์ (ขอขอบพระคุณอาจารย์สุวัฒน์ ณ ที่นี้ด้วยครับ)

ในหนังสือเล่มนี้พระอาจารย์อ๊อดได้เห็น "ท้าวเวสสุวรณ" หรือ "ท้าวกุเวร" ที่มีลายเส้นอันวิจิตรงดงามกว่าที่ผ่านๆ มา จึงได้นำภาพวาดนี้นำมาเป็นต้นแบบของการจัดสร้าง "ท้าวเวสสุวรรณ ............ รุ่น รวย เฮง สยบมหาอุทกภัย" ในครั้งนี้

โดยคุณ kor_kai (1.1K)(1)   [จ. 30 เม.ย. 2555 - 18:27 น.] #2224400 (3/29)

โดยคุณ bigsiristore (16)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 18:41 น.] #2224415 (4/29)


(N)
เมื่อพระอาจารย์อ๊อดได้เดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อติดต่อประสานงานการหล่อพระมหาจักรพรรดิโพธิสัตว์กวนอิมนั้น ท่านได้เห็นการปั้นประติมากรรมจีนหลายๆ อย่างที่มีความงดงาม และได้สะดุดตากับประติมากรรม "ซี้ไต่เทียงอ๊วง" หรือที่ประเทศไทยเราเรียกกันว่า "ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่" นั่นเอง

ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งมีท้าวมหาราชทั้งสี่ปกครอง คือ ท้าวธตรัฏฐะ ท้าววิรุฬหกะ ท้าววิรูปักชะ และท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) ประจำทิศต่างๆ ทั้งสี่ทิศโดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) เป็นใหญ่ปกครองบริวารทางทิศเหนือ ดูแลปกครองรับผิดชอบอาณาเขตใหญ่โตมหาศาล กว้างขวาง และเป็นใหญ่กว่าท้าวมหาราชองค์อื่น หรือเป็น หัวหน้าท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 18:42 น.] #2224416 (5/29)
ข้อมูลสำคัญปรากฎออกมาแล้วครับ

โดยคุณ bigsiristore (16)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 18:42 น.] #2224417 (6/29)
จากรูป "ซี้ไต่เทียงอ๊วง" นี้ดูกันให้ดีๆ นะครับเพราะจะเป็นคำถามข้อแรกของ "ท้าวเวสสุวรรณ ............ รุ่น รวย เฮง สยบมหาอุทกภัย" นี้ครับ!

โดยคุณ bigsiristore (16)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 18:45 น.] #2224420 (7/29)


(N)
เมื่อพระอาจารย์อ๊อดได้นำลักษณะเด่นของ "ท้าวเวสสุวรรณ" ซึ่งเป็นหนึ่งใน "ซี้ไต่เทียงอ๊วง" ของจีน นำมารวมเข้ากับรูปแบบท้าวเวสสุวรรณที่เป็นหน้ายักษ์ของไทย จึงเป็นผลงานที่ถือได้ว่า...

"รุ่นแรกของโลก" ที่มีการนำท้าวเวสสุวรรณของไทย และ จีนมารวมกันซึ่งล้วนแล้วแต่นำ "ของวิเศษ" และ "เป็นมงคล" ไว้ทั้งสิ้น แต่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

และนี่คือที่มาของ "ท้าวเวสสุวรรณ ............ รุ่น รวย เฮง สยบมหาอุทกภัย" ครับ

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 19:27 น.] #2224469 (8/29)
การผสมผสานที่ลงตัวทั้งในแง่ของเชิงศาสตร์และศิลป์

ศาสตร์ คือ ความลงตัวของเทพแบบไทยและจีนซึ่งมีความหมายมงคลครอบคลุมกว้างขวาง ทั้งป้องกันสิ่งชั่วร้าย ภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง เสริมสร้างอำนาจบารมี ความร่ำรวยมั่งคั่ง เฮงๆๆๆๆ

ศิลป์ คือ ความสวยงามที่ผสมผสานกันจนเกิดความลงตัวโดยมีลักษณะของท้าวเวสสุวรรณแบบไทยๆ อันมีของมงคลสูงค่าของจีนมาประกอบอย่างกลมกลืน

มั่นใจได้เลยครับว่า ท้าวเวสสุวรรณ ....... รุ่น รวย เฮงสยบมหาอุทกภัย จะเป็นรุ่นที่เปิดตำนานบทใหม่ของวงการครับ

โดยคุณ bigsiristore (16)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 19:32 น.] #2224471 (9/29)
ขอบคุณครับพี่เจ

ขอกลับมาต่อคืนนี้นะครับ ผมต้องพาลูกค้าชาวฮ่องกงไปทานข้าวก่อนครับ ครั้งที่แล้วตอนไปเยือนเมืองเค้าติดเลี้ยงข้าวเขา 1 มื่้อครับ

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 19:45 น.] #2224485 (10/29)
ดื่มไม่ขับนะครับน้องบิ๊ก

โดยคุณ lek_devils (639)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 20:13 น.] #2224520 (11/29)
ของวิเศษ ถ้าเป็นง้าวสวยมากเลย

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 20:35 น.] #2224552 (12/29)
ในบทนี้ได้กล่าวถึงพระอาจารย์อ๊อด วัดหน้าพระเมรุ

ผมขอเพิ่มเติมเกร็ดความรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับวัดหน้าพระเมรุเพื่อเป็นข้อมูลประกอบซักนิดนะครับ

วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา
เนื่อจากเคยเป็นวัดที่พม่าใช้ตั้งฐานบัญชาการจึงเป็นวัดเดียว
ในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยา
และอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มักเดินทางไปนมัสการ
หลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ
ที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 20:35 น.] #2224555 (13/29)
ประวัติ
ตำนานกล่าวถึงวัดนี้ว่า พระองค์อินทร์ในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ รัชกาลที่ ๑๐
แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงสร้างเมื่อจุลศักราช ๘๖๔ (พ.ศ. ๒๐๔๖) ประทานนามว่า
“วัดพระเมรุราชิการราม” แต่ประชาชนส่วนมากนิยมเรียกว่า “วัดพระเมรุ” จึงเป็นนาม
ของวัดที่ใช้มาจนทุกวันนี้

ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึงเหตุการณ์คราวทำสัญญาสงบศึกระหว่าง
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์กับพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง มีการปลูกพลับพลาเป็นที่ประทับ
ซึ่งอยู่ด้านหน้าวัดพระเมรุกับวัดหัสดาวาส (ปัจจุบันวัดหัสดาวาสเหลือเพียงซากเจดีย์)

อีกตอนหนึ่งเมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าอะลองพญามาตีกรุงศรีอยุธยา เมื่อเดือน ๖ ขึ้น ๑ ค่ำ
พ.ศ ๒๓๐๓ พม่า เอาปืนใหญ่มาตั้งที่วัดพระเมรุราชิการามกับวัดหัสดาวาส พระเจ้าอะลองพญา
ทรงบัญชาการและทรงจุดปืนใหญ่เอง ปืนใหญ่ที่ตั้งอยู่ในวัดพระเมรุราชิการามแตกต้องพระองค์
บาดเจ็บสาหัส ประชวรหนักในวันนั้น พอรุ่งขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๖ พ.ศ. ๒๓๐๓ พม่าเลิกทัพกลับไป
ทางเหนือหวังออกทางด่านแม่ละเมาะ แต่ยังไม่พ้นแดนเมืองตาก พระเจ้าอะลองพญาก็สิ้น
พระชนม์ระหว่างทาง ...

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 20:43 น.] #2224570 (14/29)
จุดที่น่าสนใจ

พระอุโบสถ ยาวประมาณ ๕๐ เมตร กว้างประมาณ ๑๖ เมตร มีมุขทั้งด้านหน้า
และด้านหลัง หน้าพระอุโบสถสู่ทิศใต้ หลังพระอุโบสถสู่ทิศเหนือ พระอุโบสถมี
ส่วนยาวและกว้างมาก มีอากาศ ถ่ายเท ไม่อับ ไม่มีหน้าต่างอย่างพระอุโบสถ
สันนิษฐานว่าผู้สร้างคงจะสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น

หน้าบันเป็นไม้สักแกะสลักเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเหยีบเศียรนาค
และมีรูปราหูสองข้างติดกับเศียรนาคล้อมรอบด้วยหมู่เทพนม (เทพชุมนุม)
จำนวน ๒๖ องค์มีบังฐานและกระจัง ลงรักปิดทอง ติดกระจกสี เช่นเดียวกับด้านหน้า
ภายในพระอโบสถเดิมมีถาพเขียนด้วยสีโบราณเป็นรูปภิกษุณีสงฆ์
การบูรณะในขั้นต่อๆมา ถูกฉาบทาด้วยปูนเลียบขาวปรากฏดังเช่นปัจจุบันนี้
การบูรณะส่วนอื่นๆ ของตัวพระอุโบสถได้รักษาส่วนและรูปทรงของเดิมไว้ทุกส่วน
คงมีแต่ลายที่เสาและลายเขียนที่ฝาผนัง ซึ่งถูกลบเลือนสันนิษฐานว่าการบูรณะ
ครั้งหลังนี้คงจะหาช่างที่มีฝีมือทัดเทียมของเดิมได้ยาก ประกอบกับจะต้องใช้
งบประมาณและเวลามากด้วย

ในพระอุโบสถมีพระพุทธรูป(พระประธาน) เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสำริด
ภายนอกฉาบด้วยปูนลงลักปิดทองปางมารวิชัยทรงเครื่องพระมหากษัตราธิราช
สมัยกรุงศรีอยุธยา หน้าตักกว้างประมาณ ๔.๔๐ เมตร สูงประมาณ ๖.๐๐ เมตร
พระนามว่า “พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ”
เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งมีพระลักษณะสวยงามมาก
พระนามบ่งชัดถึงพระลักษณะอันพิเศษ มีพระอภินิหาร เป็นสรณะที่พึ่ง
ที่เคารพสักการะอย่างยิ่งแก่โลกทั้ง ๓ เกิด ปิติศรัทธาแก่ผู้ที่ได้เข้ามานมัสการ
เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง และคุ้มครองบ้านคุ้มครองเมือง ทำให้ข้าศึกเกิด
ความเกรงกลัวไม่ทำลายวัดนี้ได้ เป็นที่น่าอัศจรรย์ควรแก่การที่จะไปนมัสการอย่างยิ่ง ...

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 20:44 น.] #2224575 (15/29)
พระวิหารหลังเดิม ตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ(เหนือพระอุโบสถ) เรียกชื่อกันต่อๆมา
แต่โบราณว่า “วิหารขาว” พระประธานในวิหารขาวเป็นพระพุทธรูปปั้นด้วยปูนชำรุดทั้งองค์
เศียรหัก ฝาผนังวิหารชำรุดหักพังเหลือแต่ซาก เมื่อสมัยพระครูครุพุทธวิหารโศภน (เลี้ยง)
เป็นเจ้าอาวาส ได้ทำการบูรณะโดยวิธีเก็บอิฐที่หักพังมาก่อหุ้มพระประธานที่ชำรุด
ไว้ภายในเป็นพระพุทธรูปปางพุทธลีลาไว้ด้านหน้าตรงพระอุระ นำพระพุทธรูปศิลา
ปางมารวิชัยที่ชำรุดมาบูรณะขึ้นใหม่ ประดิษฐานไว้ด้านหลังตรงพระปฤศฏางค์
ของพระประธานองค์เดิมที่ก่อหุ้มไว้ และสร้างห้องสำหรับบำเพ็ญกัมมัฏฐาน
โดยการก่ออิฐถือปูนขึ้นใหม่จำนวน ๓ ห้อง หลังพระประธาน ในปี พ.ศ. ๒๔๗๘
ทางวัดได้บรรจุอัฐิอดีตเจ้าอาวาสวัดหน้าพระเมรุ ณ วิหารนี้ พระวิหารหลังนี้สร้างขึ้น
ในสมัยที่สร้างวัด ชำรุดหักพังเพราะ ธรรมชาติ มิได้มีการบูรณะ ปัจจุบันทางวัด
ได้สร้างสถานที่ต่อเติมออกมาทางด้านทิศตะวันออก ใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญกัมมัฏฐาน
ของพระภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ที่มีศรัทธาจากทุกสารทิศ

พระวิหารสรรเพชญ์ (ประชาชนเรียกชื่อว่าพระวิหารคันธารราฐ)
เป็นที่ประทับของพระพุทธรูปพระนามว่า “คันธารราฐ” และเรียกชื่อว่า “วิหารเขียน”
เพราะมีลายเขียนในพระวิหารและมีชื่อเรียกกันอีกว่า “วิหารน้อย” เพราะมีขนาดน้อยด้วย
ยาวประมาณ ๑๖ เมตร กว้างประมาณ ๖ เมตร มีมุขทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระอุโบสถ ห่างจากพระอุโบสถประมาณ ๒ เมตรเศษ
พระยาไชยวิชิต (เผือก) ผู้รักษากรุงในรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สร้างในปี พ.ศ. ๒๓๘๑ ผู้สร้างได้อัญเชิญพระพุทธรูปศิลา (ศิลาเขียว)
ประทับนั่งห้อยพระบาท พระนามว่า “พระคันธารราฐ” ย้ายมาจากวัดมหาธาตุ
ในเกาะเมือง ข้างวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวัดร้างในยุคนั้น
มาประดิษฐานในวิหารน้อยที่สร้างขึ้นใหม่นี้ ผู้สร้างได้จารึกไว้ในศิลาติดตั้งไว้ที่
ฝาผนังเมื่อ พ.ศ. ที่สร้างว่า “พระคันธารราฐ” นี้ พระอุบาลีซึ่งจำพรรษาอยู่
ที่วัดธรรมาราม นำมาจากประเทศลังกา ในคราวที่ท่านเป็นสมณฑูต พร้อมด้วย
พระสงฆ์สยามวงศ์ นำพระพุทธศาสนาไปประดิษฐานในประเทศลังกา
นักโบราณคดีมีความเห็นว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยทวารวดี สร้างระหว่าง
พ.ศ. ๑๐๐๐ – ๑๒๐๐ และสันนิษฐานว่าก่อนที่จะนำมาไว้ที่วัดมหาธาตุ
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมอยู่ที่วัดพระเมรุราชิการาม จังหวัดนครปฐม
เนื่องจากทางราชการขุดพบเรือนแก้วที่ชำรุด สันนิษฐานว่าเป็นเรือนแก้ว
ของพระพุทธรูปองค์นี้

มณฑปนาคปรก
ตั้งอยู่หน้าพระวิหารน้อย ห่างจากพระวิหารประมาณ ๒๕ เมตร พระยาไชยวิชิต(เผือก)
สร้างในปีที่สร้างพระวิหารน้อย (ปี พ.ศ. ๒๓๘๑) อัญเชิญพระพุทธรูปศิลานาคปรก
ซึ่งย้ายมาจากวัดมหาธาตุกับพระคันธารราฐประดิษฐานในมณฑปนาคปรก เมื่อปี 2474
วัดหน้าพระเมรุว่างจากเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์อยู่เฝ้ารักษาวัดเพียงรูปเดียว
ทางราชการกรมศิลปากรจึงนำพระพุทธรูปศิลานาคปรกในมณฑปนี้ไปเก็บรักษาไว้
ณ พิพิธภัณฑ์ สถานแห่งชาติกรุงเทพพร้อมกับได้นำพระพุทธรูปอุ้มบาตรที่ประดิษฐาน
ณ บุษบกบัญชรหน้าพระอุโบสถ พระพุทธรูปศิลานาคปรกหน้าพระวิหารสรรเพชญ์
จำนวน 2 องค์ พระพุทธรูปศิลายืนที่หลังพระวิหารน้อย 1 องค์ รอยพระพุทธบาทหล่อ
ด้วยโลหะที่มณฑปพระบาท ตั้งอยู่หน้าพระวิหารน้อย ทางวัดก่อฐานตั้งศิวลึงค์ไว้แทนมณฑป
ไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา


โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 21:08 น.] #2224823 (16/29)
จากข้อมูลข้างต้น ผมขอสรุปให้เห็นถึงความสำคัญของวัดหน้าพระเมรุ ดังนี้

1. เป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกข้าศึกเผาทำลายและยังคงสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
2. พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ เป็นพระพถทธรูปทรงเครื่องฯ ที่สวยงามสมบูรณ์ที่สุด และเป็นพระพุทธรูปสำคัญเพียงองค์เดียวที่ไม่ถูกพม่าเผาทำลาย เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง และคุ้มครองบ้านคุ้มครองเมือง ทำให้ข้าศึกเกิดความเกรงกลัวไม่ทำลายวัดนี้ได้
3. เมื่อพระเจ้าอลองพญาจุดปืนใหญ่หมายใจถล่มกรุงศรีอยุธยา ปืนใหญ่นั้นได้ระเบิดใส่แตกต้องพระองค์
บาดเจ็บสาหัส เป็นเหตุให้พม่าถอนทัพกลับ และอลองพญาก็สิ้นพระชนม์ในเขตแดนไทย เรียกว่ามารุกรานแต่ต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้

จากประเด็นเหล่านี้ จะเห็นได้ว่าวัดหน้าพระเมรุเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และ พระพุทธนิมิตวิชิตมารเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ดลบันดาลให้ผลทางด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย ศัตรูผู้คิดร้ายจะวอดวายแพ้ภัยตัวเองสิ้น และยังดลบันดาลความเจริญรุ่งเรือง อุดมสมบูรณ์ อีกด้วยเช่นกันครับ

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [จ. 30 เม.ย. 2555 - 21:30 น.] #2224919 (17/29)
สุดยอดข้อมูลมากๆเรยครับท่าน เลขาเสี่ยเจ

โดยคุณ lek_devils (639)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 21:35 น.] #2224933 (18/29)
กด like พี่เจ

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 21:36 น.] #2224936 (19/29)
ชอบคุณมากครับพี่เอก มีข้อมูลดีๆ ก็เอามาช่วยกันลงนะครับ

ข้อมูลทุกอย่างที่นำมาลงจะมีความเกี่ยวข้องกับ ท้าวเวสสุวรรณ ... รุ่น รวย เฮง สยบมหาอุทกภัย ครับ

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 21:38 น.] #2224941 (20/29)
พิมพ์ผิด ... ต้องเป็น "ขอบคุณมากครับพี่เอก ... "

น้องเล็ก ติดตามรุ่นนี้ให้ดีครับ ท่านประธานบิ๊กการันตีครับ

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 21:46 น.] #2224956 (21/29)
มีสิ่งสำคัญอีก 1 อย่างที่วัดหน้าพระเมรุ เป็น "ต้นตำรับ" ซึ่งจะอัญเชิญมาประทับลงใน ท้าวเวสสุวรรณ ... รุ่น รวย เฮง สยบมหาอุทกภัย

ส่วนจะเป็นอะไร และจะประทับที่พิมพ์ไหน แบบไหน ... ต้องติดตามชมกันนะครับ

โดยคุณ potjanun (7.1K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 21:47 น.] #2224957 (22/29)
พี่เจ ...ข้อมูล ลึกจน น่าติดตาม ยิ่งอ่าน ยิ่ง..น่าติดตามครับ


งานแนวใหม่ ผมว่าต่อจากนี้ ชื่อ บิ๊ก ศิริสโตร์ กับ งาน แนวใหม่ แบบ ข้อมูล ปึ๊กๆ ชัวร์ๆ ไม่มั่ว ต้อง คู่ กัน ไปอีกนานครับ...

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 21:53 น.] #2224968 (23/29)
ใช่แล้วครับเฮียปืน เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ชื่อ "บิ๊ก ศิริสโตร์" รับประกันครับ ทั้งภาพ ทั้งข้อมูล แม่นยำ แน่นปึ้ก มีที่มาที่ไปชัดเจนครับ

ยังมีอีกหลายประเด็นและข้อมูลอีกมากมายกำลังจะทยอยมาลงครับ

โดยคุณ takechivirus (317)(2)   [จ. 30 เม.ย. 2555 - 22:19 น.] #2225007 (24/29)
โดยคุณ jcainfo (2386) (124.120.195.*) [30 Apr 2012 21:36] #2224936 (19/23)

ชอบคุณมากครับพี่เอก

นี่ท่านเลขาเจ มาบอกอย่างนี้ เด๋วคนอื่นรู้ความจริงหมด
ยิ่งท่านเฮียปืน หูตากว้างไกลอยู่

โดยคุณ jcainfo (6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 22:22 น.] #2225013 (25/29)

โดยคุณ superpood (3.6K)  [จ. 30 เม.ย. 2555 - 22:54 น.] #2225071 (26/29)
ท้าวจตุโลกบาล หรือที่ชาวจีนนิยมกันในนาม " สี่เทียนไต้อ๊วง" ซึ่งในปัจจุบัน มีหน้าที่ดูแลพระพุทธองค์ โดยทั่วไปในวัดจีนจะมีท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ยืนอารักขาไม่ให้มีสิ่งเลวร้ายเข้ามาให้เขตพุทธสถาน
ท้าวจตุโลกบาลมีด้วยกัน 4 องค์ ได้แก่
- ท้าวธตรฐ หรือ ทิก๊ก เทียนอ๋อง ซึ่งจะทรงถือพิณเป็นอาวุธประจำกาย
- ท้าววิรุฬหก หรือ เตียงเชียง เทียนอ๋อง ทรงถือร่มเป็นอาวุธ
- ท้าววิรูปักข์ หรือ กวางมัก เทียนอ๋อง ทรงถือ กระบี่เป็นอาวุธ
- ท้าวกุเวร หรือ โต้บุ๋น เทียนอ๋อง ทรงถืองูเป็นอาวุธ
ของวิเศษ จะมาทั้งหมดหรือไม่ น๊า

โดยคุณ bigsiristore (16)  [อ. 01 พ.ค. 2555 - 00:28 น.] #2225209 (27/29)
โดยคุณ superpood (1385) (58.9.150.*) [30 Apr 2012 22:54] #2225071 (26/26)
ท้าวจตุโลกบาล หรือที่ชาวจีนนิยมกันในนาม " สี่เทียนไต้อ๊วง" ซึ่งในปัจจุบัน มีหน้าที่ดูแลพระพุทธองค์ โดยทั่วไปในวัดจีนจะมีท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ยืนอารักขาไม่ให้มีสิ่งเลวร้ายเข้ามาให้เขตพุทธสถาน
ท้าวจตุโลกบาลมีด้วยกัน 4 องค์ ได้แก่
- ท้าวธตรฐ หรือ ทิก๊ก เทียนอ๋อง ซึ่งจะทรงถือพิณเป็นอาวุธประจำกาย
- ท้าววิรุฬหก หรือ เตียงเชียง เทียนอ๋อง ทรงถือร่มเป็นอาวุธ
- ท้าววิรูปักข์ หรือ กวางมัก เทียนอ๋อง ทรงถือ กระบี่เป็นอาวุธ
- ท้าวกุเวร หรือ โต้บุ๋น เทียนอ๋อง ทรงถืองูเป็นอาวุธ
ของวิเศษ จะมาทั้งหมดหรือไม่ น๊า

============================================

พี่ Superpood ครับ ของวิเศษมีเกิน 4 แน่นอนแต่ไม่ได้นำมาจากท้าวจตุโลกบาลทั้งหมดนะครับ รอชมกันต่อว่าจะมีอะไรบ้างครับ...

โดยคุณ bigsiristore (16)  [อ. 01 พ.ค. 2555 - 00:51 น.] #2225224 (28/29)
ผมขอยกข้อมูลการจดลิขสิทธิ์ไปที่กระทู้ใหม่เลยเพราะเป็นการเปลี่ยนเนื้อหาแล้วครับ

https://www.g-pra.com/webboard/show.php?Category=publicize&No=317950

โดยคุณ โพธิ์ไทร (1.4K)  [พ. 02 พ.ค. 2555 - 11:38 น.] #2228886 (29/29)

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1