 (N)

หลวงปู่ทอง ปัญญาวโร วัดหินแร่เก่า จ.ฉะเชิงเทรา กับวัตถุมงคลรุ่นแรกของท่าน
จระเข้โทน ป้องกันคุ้มภัย แคล้วคลาด ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝด พกใส่กระเป๋าเสื้อ ผูกติดเอว คล้องคอ ได้ทั้งสิ้น พ่อค้าแม่ค้าแช่ขันบริกรรมคาถาทำน้ำมนต์ใช้อาบประจำ จะไต่เต้าเจ้าสัวแสนทะนานทอง ลาภเต็มห้องทองเต็มไห ขุนนางใดมีไว้ดีนักแล จักให้คุณเป็นถึงท้าวพระยาพานทอง ทรัพย์สินสิ่งของเต็มวัง อีกทั้งช้างม้าวัวควายนับได้เหลือหลาย หลวงปู่ท่านสั่งสิ่งอาเพศ อาถรรพ์ อัปมงคล ทุกข์ภัยพิบัติ ทั่งยาสั่งให้อันตรธาน
จระเข้โทน ถือว่าเป็นสุดยอดวิชาของหลวงปู่ทองในการทำจระเข้โทน รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของท่านน่าสะสมอย่างยิ่ง รุ่นแรกของหลวงพ่อสนิทราคาไปไกล ใช้รุ่นแรกของหลวงปู่ทองพุทธคุณไม่แพ้กัน ตะกั่วเก่าที่มาจากตะกรุดหลวงปู่หลายร้อยดอกที่ ร่ำเรียนและทดลองทำกันมาสมัยอยู่วัดลำบัวลอย หลวงปู่นำมาหลอมทุกดอกเพื่อเป็นจระเข้เนื้อตะกรุดสุดเข้มขลังแบบหมดเปลือกไม่เหลือเลยหลวงปู่กลัวใช้แล้วไม่ดี อีกทั้งยังรวบรวมสุดยอดตะกรุดอีกหลายสิบเกจิ เช่น
ตะกรุดหลวงพ่อคง วัดซำป่างาม
ตะกรุดหลวงพ่อภู วัดต้นสน
ตะกรุดหลวงปู่รอด วัดนายโรง
ตะกรุดหลวงพ่อมา วัดหาดสูง
ตะกรุดหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
ตะกรุดหลวงพ่อแดง วัดใหญ่อินทราราม
ตะกรุดหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์
ตะกรุดหลวงพ่อแก้ว วัดหนองตำลึง
ตะกรุดหลวงพ่อโต วัดเนิน
ตะกรุดหลวงพ่อเจียม วัดกำแพง
ตะกรุดหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
ตะกรุดหลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา
ตะกรุดหลวงพ่อดำ วัดศรีมงคล
ตะกรุดหลวงพ่อพุก วัดพระยา
ตะกรุดหลวงพ่อบู่ วัดสระดู่
ตะกรุดหลวงพ่อโชติ วัดชะเอม
ตะกรุดหลวงพ่อแก้ว วัดลาดตะเคียน
และอื่นๆอีกมากมาย
จระเข้โทนรุ่นแรกเนื้อตะกรุด ใต้ท้องจารยันต์ อิสวาสุ นะมะพะทะ อุดผง 108 ผสมชันโรง ฝังตะกรุดเงิน สร้าง 1,999 ตัว (มีโค๊ตและหมายเลขกำกับทุกตัว) โดยชันโรงจะต้องจำกัดชันโรงที่มีรังอยู่ใต้ดินเท่านั้น ส่วนเรื่องการเสกไม่ต้องพูดถึงจิตหลวงปู่ท่านนิ่งมากนั่งนิ่งได้เป็นวันๆไม่ฉันท์อะไรเลย หลวงปู่ท่านเลือกวันแข็งเสกคาบวันตลอด 2 เดือน ทุกๆคืนที่หลวงปู่เสก พระที่วัดมักจะได้ยินเสียงสัตว์ใหญ่เดินทั่วไปหมด แต่พอออกมาดูก็ไม่มีอะไร อีกทั้งเหมือนท่านไม่ได้มาเสกองค์เดียว ท่านยังเชิญครูบาอาจารย์มาร่วมเสกอีกด้วย เรียกว่าเสกจนจระเข้ดิ้นกระเด็นออกจากกล่อง และจะบอกว่าจระเข้หลวงปู่ดูดตะปูได้ คือในบริเวณวัดหินแร่ตอนนี้กำลังสร้างโบสถ์เขตก่อสร้างจะมีตะปูมากมาย หลวงปู่ท่านมีจระเข้รุ่นแรกของท่านห้อยเอวไว้ด้วยทุกๆวันที่หลวงปู่เดินไปมาในวัดเท้าเปล่าจะไม่เคยได้รับภัยอันตรายใดๆ เลยทั้งๆ ที่ศิษย์คอยเตือนว่าระวังจะเหยีบตะปูน่ะหลวงปู่ แต่หารู้ไม่ว่าบางครั้งที่หลวงปู่ออกไปเดินจะมีตะปูติดมาที่จระเข้ห้อยที่เอวหลวงปู่ประจำ นั่นคือจระเข้หลวงปู่ช่วยป้องกันภัยจากของมีคมได้ หลวงปู่ไม่เหยียบตะปูก็เป็นเพราะจระเข้ของท่านช่วยป้องกันภยันอันตรายต่างๆนั่นเอง
คาถาสำหรับบูชาจระเข้โทนรุ่นแรก อิ สวา สุ ภาวนา 7 จบ ดีนัก
หลวงปู่ทอง ปัญญาวโร วัดหินแร่เก่า อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา
อภิญญาอาคมแห่งตะวันออก สืบครูเก่าจะเข้ตำหรับวัดลำบัวลอย
และวิชาเบี้ยวัดนายโรง นิมิตรล่วงหน้าหลับตารักษาคน
หลวงปู่ทอง ปัญญาวโร 84 ปี 55 พรรษา เดิมถือกำเนิดที่ จังหวัดปราจีนบุรี เดิมเริ่มบวชที่บ้านเกิดปราจีนบุรีตั้งแต่ปี 2502 ปฏิบัติธรรมด้วยใจที่รัก ต่อมาพอเริ่มบวชได้ไม่นาน ในจังหวัดปราจีนบุรีในช่วงนั้น ถือว่าขึ้นชื่อมากเรียกว่าเป็นอาณาจักรแห่งเมืองยาสั่ง ซึ่งสมัยนั้นไม่ว่าใครถ้าได้ยินชื่อเมืองนี้ จะต้องขนหัวลุก เพราะเต็มไปด้วยยาสั่ง และการปล่อยของ เช่นเสกหนังกลองเข้าท้อง บิดไส้ เสกใบไม้เป็นต่อเป็นแตน ซึ่งเป็นฝีมือของชาวเขมรที่เข้ามาอยู่เป็นจำนวนมาก หลวงปู่เห็นเช่นนั้นจึงสนใจที่จะร่ำเรียนวิชาเพื่อมาช่วยชาวบ้านที่เดือดร้อน คอยกัน - คอยแก้ ซึ่งช่วงนั้นหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จังหวัดนครนายก ท่านโด่งดังมากเรื่องจระเข้โทน เมื่อรู้เช่นนั้นในปี 2519 หลวงปู่ทอง จึงได้ไปขอศึกษา และถ่ายทอดวิชาการทำจระเข้ ที่วัดลำบัวลอย กับหลวงพ่อสนิท แบบตัวต่อตัว เรียกว่าเริ่มจากศูนย์ ในขณะนั้นไปใหม่ๆ หลวงพ่อสนิทไม่ได้สอนอะไรท่าน ให้ไปม้วนตะกรุด และดูแลให้ญาติโยมที่มาบูชาวัตถุมงคลสักพักนึง หลวงพ่อสนิทเห็นความตั้งใจ และจุดมุ่งหมายที่จะนำวิชาอาคมเหล่านี้ไปใช้ หลวงพ่อสนิทก็เริ่มสอนวิชาเรื่อยมาตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนถึงวิธีทำแบบล่ะเอียด ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อสนิทที่มีต่อศิษย์บางครั้งท่านยังให้หลวงปู่ทองเข้าร่วมเสกวัตถุมงคลของท่านโดยนั่งอยู่ใกล้ๆท่านหลายครั้งหลายพิธี ระหว่างที่รับทอดวิชาจากหลวงพ่อสนิท หลวงปู่ทองยังได้ศึกษาร่ำเรียนวิชาเขียนอักขระยันต์นอกสายอาทิเช่น ยันต์ครู ยันต์ลงตะกรุด ยันต์แก้ ยันต์กัน ยันต์เมตตามหานิยม และยันต์อื่นๆอีกมากมาย และยังด้วยความมุ่งมานะใฝ่หาที่จะอยากรู้ หลวงปู่ทองยังได้ทดลองทำตะกรุดมาเป็นหลายร้อยดอก แต่ล่ะดอกดีคนล่ะด้านบางดอกใช้ไม่ดีหลวงปู่ก็โยนทิ้งไป ดอกไหนใช้ได้ผลหลวงปู่ก็เก็บไว้ บางดอกลองยิงถึงกับปืนแตก ดอกนั้นหลวงปู่ทองให้ชื่อว่าตะกรุดอุดปืน จนเมื่อถึงปี 2533 หลวงปู่ทองเห็นว่ารบกวนหลวงพ่อสนิทมานานและวิชาการทำจระเข้โทนก็ได้ร่ำเรียนมาจนหมดแล้ว จึงอยากจะออกศึกษาวิชาโดยการออกธุดงค์ไปเรื่อยตามป่าตามเขาที่เขาร่ำลือกัน หลวงพ่อสนิทท่านยังสักยันต์จระเข้ประทับไว้ที่กลางอกท่านเพื่อไว้กันภัยอันตราย เข้าป่าเข้าเขาอีกด้วย จากนั้นหลวงปู่ทองก็ธุดงค์มาเรื่อยยังได้นิมิตถึงพ่อปู่สิงห์สมิงพราย พ่อปู่ฤาษีตาไฟ มาสั่งมาสอนวิชากลางป่าเขาลำเนาไพร หลวงปู่ทองยังทดลองทำเบี้ยแก้แจกชาวบ้านแต่ไม่สำเร็จ จนได้มาพบหมอเขมรนองญาท่านหนึ่ง เชี่ยวชาญเรื่องเบี้ยแก้ไว้คอยกันคอยแก้ ประมาณตำหรับเดียวกับหลวงปู่รอด วัดนายโรง ที่เก่งเรื่องเบี้ยแก้ โดยว่าตัวเบี้ยต้องมีฟัน 32 ซี่ ปรอทต้องใส่ในปริมาณที่ถูกต้อง ชันโรงใต้ดิน จะต้องใช้ชันโรงที่มีรังอยู่ใต้ดิน แผ่นตะกั่วจะต้องใช้เป็นแผ่นตะกั่วน้ำนมเท่านั้น โดยหมอเขมรนองญาเป็นศิษย์สายเดียวกัน ได้ถ่ายทอดและขั้นตอนการทำจนได้ผล แล้วหลวงปู่ก็ออกธุดงธ์ผ่านมาทางเขาหินซ้อนและได้ศึกษาถึงแร่ธรรมชาติที่อาถรรพ์ช่วยเรื่องคุนไสย์ และกันภัยวิธีถอดธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ออกจากแร่ต่างๆ ยังมีเรื่องราวที่มีผู้พบจริง ประสบจริงอีกมากมายเล่าไม่รู้จบตัวอย่างเช่น
หลวงปู่นิมิตล่วงหน้า และหลับตารักษาคน
คือหลังจากที่หลวงปู่เดินสายร่ำเรียนวิชาจนสำเร็จลุล่วง หลวงปู่ก็ออกธุดงค์ไปเรื่อยตามวัด หลวงปู่มีบารมีสูงแวะที่ไหนมีแต่คนขอให้ช่วยโน่นช่วยนี่ ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดเข่า หลวงปู่หลับตารักษาได้ด้วยคาถาอาคม แถมยังนิมิตล่วงหน้าว่าใครจะเป็นยังไง เกิดอะไร และแก้ยังไง ถือว่าท่านเก่งมากๆ ค่าครูหลวงปู่ไม่คิดแล้วแต่จะทำบุญ ครั้นเมื่ออยู่ วัดมาบคล้า อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี หลวงปู่ได้ค่าครูสร้างโบสถ์ได้ 1 หลัง และธุดงค์มาที่วัดแจ้ง จ.ปราจีนบุรี ค่าครูหลวงปู่ที่ชาวบ้านช่วยกันมาก็ยังสร้างโบสถ์ได้อีก 1 หลัง หลวงปู่ทองท่านเมตตาท่านไม่จับเงิน มีเท่าไหร่ก็สร้างโบสถ์จนหมด
หลวงปู่คนเดียวต้องใช้ฝีพาย 5 คน
เมื่อครั้งที่หลวงปู่อยู่วัดมาบคล้า ชาวบ้านแถวนั้นคงจะรู้จักหลวงปู่ดี และเมื่อเห็นหลวงปู่นั่งเรือมาบิณฑบาตรโดยมีฝีพายมาให้ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าใครไม่เคยเห็นก็คงตกใจเมื่อหลวงปู่ต้องใช้ฝีพายถึง 5 คน เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งหลวงปู่จะออกบิณฑบาตรในตลาดน้ำ ก็เลยให้เด็กวัดเตรียมเรือไว้ เมื่อหลวงปู่ขึ้นเรือจึงหันไปถามเด็กวัดว่า พายคนเดียวจะพากูไหวหรอ เด็กวัดได้ยินเช่นนั้นตอบทันควัน สบายมากหลวงปู่ พอเริ่มพายเท่านั้นแหละ รู้สึกเหมือนมีคนนั่งในเรือ 5 คน ทั้งๆที่มีแค่หลวงปู่กับฝีพายแค่ 2 คน พายไปได้ที่ล่ะนิด ทีล่ะนิดยังไม่พ้นท่าเลย เด็กวัดถามทำไมหลวงปู่ตัวหนักจัง หลวงปู่ท่านหัวเราะแล้วตอบว่า กูไม่ได้มาคนเดียวครูบาอาจารย์ท่านมากันหมดเลย เด็กวัดถึงกับอึ้ง จึงเปลี่ยนเรือลำใหญ่แล้วตามฝีพายมาทั้งหมด 5 คน ถึงจะพาหลวงปู่บิณฑบาตรได้
ยาเส้นตัวเดียวหลวงปู่ดูดได้ทั้งวันไม่มอด และไม่หมด
หลวงปู่ทองเมื่อครั้งสมัยธุดงธ์เข้าป่า นิมิตถึงพ่อปู่สิงห์สมิงพราย และพ่อปู่ฤาษีตาไฟ หลวงปู่จะต้องเตรียมยาเส้นและใบจากไว้ทุกครั้งเพื่อ เป็นเครื่องเส้นไหว้ครูบาอาจารย์ และตัวท่านเองก็ดูดเองด้วยตั้งแต่ตอนนั้น เวลาอยู่ในป่าในเขาไม่ได้หาง่ายๆ ถ้าไม่ได้เตรียมให้พร้อม ชาวบ้านที่นำมาถวายก่อนขึ้นเขาเตรียมมาให้เป็นหีบๆ แต่หลวงปู่ไม่รับหลวงปู่บอก เอาแค่หยิบมือพอกูดูดได้เป็นเดือน แค่ตัวเดียวดูดได้ทั้งวัน ไม่มีมอด ไม่มีหมด
จนปัจจุบันหลวงปู่ทองได้มาเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดหินแร่เก่า ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ด้วยวัยชราภาพและโรคเบาหวานประจำตัวทำให้ดวงตาทั้ง 2 ข้างพล่ามัวเห็นบ้างบางทีก็เห็นจางๆ ด้วยวาจาว่า เห็นทีจะอยู่ไม่กี่ปีคงตาย แต่กูก็จะอยู่สร้างโบสถ์หลังนี้ให้เสร็จก่อน และหลวงปู่ได้จัดสร้างวัตถุมงคลที่เป็นรุ่นแรกของท่าน เพื่อนำรายได้สร้างโบสถ์หลังที่ 3 ณ.วัดหินแร่เก่า มี 2 อย่างคือ จระเข้โทนรุ่นแรกเนื้อตะกรุด และเบี้ยแก้รุ่นแรกหุ้มเนื้อตะกรุด ถือว่าสุดยอดมากเพราะตะกรุดที่หลวงปู่ได้ทำ และทดลองมาตลอดเวลาที่ร่ำเรียนมานำมาเป็นมวลสารในครั้งนี้ทั้งหมดไม่มีเหลือ ยังมีมวลสารอื่นๆอีกมากมายลองอ่านรายละเอียดได้
** ตำราวิชาโบราณแห่งวัดวัดลำบัวลอยเริ่มหายสาบสูญไปแล้วครับ คราวนี้โชคดีที่หลวงปู่ทองท่านได้จัดสร้างจรเข้รุ่นแรกเพื่อสืบสานตำนานครู ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งของดี เรียนเชิญทุกท่านได้เลยครับ |