ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : เชิญร่วมสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ ณ วัดป่าวิเวกภูเขาวง กับหลวงตาประพันธ์ กิตติโสภโณ(หลวงตาพันธ์)



(N)


พระอาจารย์ประพันธ์ กิตฺติโสภโณ (หลวงตาพันธ์)
ประวัติโดยย่อ
ที่มาก่อนจะมาเป็นตึกสงฆ์อาพาธ ณ อ. นาวัง จ. หนองบัวลำภู
จนมาถึงสร้างองค์มหาเจดีย์วัดป่าวิเวกภูเขาวง
หลวงตา ประพันธ์ กิตฺติโสภโณ เกิดเมื่อ วันจันทร์ ที่ ๑๘ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ ปีชวด ณ บ้านสัมพันธ์ ตำบล ขัว-เรียง อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น มีบิดา คือ นายเฮียง น้อยยุ่น และมารดา คือ นางบุญจันทร์ น้อยยุ่น
หลวงตาพันธ์ ท่านมีพระอาจารย์ ๒ องค์ คือหลวงปู่ชอบ ฐานสโม และหลวงปู่เกต กิตฺติวังโส ท่านหลวงปู่ทั้ง ๒ องค์นั้นท่านช่วยกันเทศน์เอาหลวงตาออกบวช หลวงปู่ชอบท่านเทศน์ ๓ คำ คือ
๑. จิตคนเรามันมีหยาบ
๒. จิตคนเรามันมีปานกลาง
๓. จิตคนเรามีละเอียด
หลังจากฟังเทศน์ จากท่านหลวงปู่ชอบแล้วจิตใจ ท่านประพันธ์ได้หลุดพ้นจากการเป็นฆราวาส จากนั้นปี พ.ศ. ๒๕๓๒ จึงออกจากบ้านปากปวน ต. ปากปวน อ. วังสะพุง จ. เลย มาบวชเป็นตาปะขาวที่บ้านม่วงหัก ต.โพนทราย อ. เมือง จ. มุกดาหาร บวชตาปะขาวอยู่ ๔ เดือน แล้วจากนั้นหลวงปู่เกต กิตฺติวังโส จึงพาไปบวชพระ ณ วัดศรีมงคลเหนือ ต. เมือง อ. เมือง จ. มุกดาหาร
หลังจากบวชแล้วได้ นามฉายา กิตฺติโสภโณ มีพระอุปปัชฌาย์คือ พระครูจันทรวิสุทธิ์ พระกรรมวาจาคือ พระครูประภากร วิสุทธิ์ พระอนุสาวนาจารย์ คือ พระใบฏีกายู้ กันตสีโล อุปสมบทเมื่ออายุ ๔๒ ปี วันที่ ๑๘ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๕ เวลา ๑๐.๓๕ น. ณ วัดศรีมงคลเหนือ
หลวงตาพันธ์ไม่ได้บวชกับหลวงปู่ชอบ เพราะขณะนั้นหลวงปู่ชอบ เป็นอัมพาตมาหลายปีแล้ว จึงไปบวชกับพระอาจารย์ ที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่ แทนคือ หลวงปุ่เกต กิตฺติวังโส หลังจากบวชแล้ว หลวงตาพันธ์ได้จำพรรษา ที่วัดป่าหนองบุดดา ต. โพนทราย อ. เมือง
จ. มุกดาหาร เมื่อวันที่ ๑๘ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๒ ก่อนที่ หลวงตาพันธ์ จะออกธุดงค์ภาวนาในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ หลวงตา ได้กราบลา หลวงปู่เกต กิตฺติวังโส ท่านได้ให้ธรรมะ ก่อนออกธุดงค์ครั้งแรกว่า
๑. ที่ไหนกลัวให้ไปที่นั่น
๒. อย่าเป็นพระนักเทศน์เพราะจะไม่ได้ภาวนา
๓. อย่าเข้าวัดถ้าออกจากวัดแล้วให้อยู่ป่าค้นหาธรรม
๔. ถ้าจิตขัดข้องค่อยเข้าหาครูอาจารย์ ถ้าไม่ขัดข้องไม่ให้มา ให้ตายในป่า
หลวงตาจึงน้อมรับคำสอนของหลวงปู่เกต จากนั้นหลวงตา ก็ออกธุดงค์ภาวนา ในป่าในเขาและหมู่บ้านถิ่นทุรกันดารหลายที่หลายแห่ง ท่านหลวงตายังได้พา ลูกศิษย์ยานุศิษย์สร้างวัดและที่พักสงฆ์ไว้หลายที่

โดยคุณ น้องเอ็ม (2.1K)(1)   [อา. 24 ส.ค. 2557 - 21:07 น.]



โดยคุณ น้องเอ็ม (2.1K)(1)   [อา. 24 ส.ค. 2557 - 21:09 น.] #3446792 (1/6)


(N)


ที่มาของตึกสงฆ์
ก่อนตึกสงฆ์จะเกิด หลวงตาได้นึกถึงหลวงปู่ชอบ ซึ่งเป็นอัมพาตมาหลายปี หลวงตา ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า
“เราเป็นพระผู้น้อย จะทำอย่างไรจึงจะมีปัญญาสร้างโรงพยาบาล ให้หลวงปู่ชอบให้แล้วเสร็จ”
ตอนนั้นหลวงตานั่งอยู่ยอดดอย ณ วัดฟองงอย บ้านหนองผักบุ้ง ต. วังกวาง อ. น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์ ซึ่งมีศรัทธาญาติโยมชาวตำบล วังกวาง ได้บวชป่าผืนนั้นประมาณ ๕,๐๐๐ ไร่ และถวายเป็นที่พักสงฆ์และให้หลวงตาดูแล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๑ – ๒๕๔๒ หลวงตา จึงได้สร้างศาลาการเปรียญ เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๗๒ พรรษา และเพื่อให้พระในป่าได้พักอาศัย บำเพ็ญภาวนา และเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ หลวงตา ท่านมีอายุพรรษา ๑๕ พรรษาพอดี จึงคิดริเริ่มที่สร้างโรงพยาบาลสงฆ์อาพาธหลวงปู่ชอบ
ในคืนหนึ่งได้แต่คิด เดินจงกรมคิด นั่งภาวนาคิดว่า
“ทำอย่างไรเราจึงจะมีวาสนาสร้างโรงพยาบาลหลวงปู่ชอบให้เสร็จทำไมจึงต้องมาเกี่ยวข้องกับใจเรา เพราะลูกศิษย์มี ตั้งเยอะแยะไป”
หลวงตาจึงตั้งสัจจะอธิษฐานจิตว่า
“เราไม่มีศรัทธาจากลูกศิษย์ผู้มีเงินมีทองที่ไหนเลย ได้แต่นั่งภาวนาคิดอยู่นี่ ใครหนอที่เคยสร้างบุญด้วยกันมาแต่ชาติปางก่อน ให้ร้อนถึง ณ คน ๆ นั้น ณ เวลา นี้”
เวลาผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ มีแรงบันดาลให้ลูกศิษย์จากแต่ละทิศมากราบหลวงตา แล้วปรึกษากัน มีพ่อตู้เทียง พ่อหนึ่ง หลวงตาเลยพูดเรื่องสร้างโรงพยาบาล ให้ลูกศิษย์ฟัง
ลูกศิษย์จึงเห็นดีด้วย จึงได้เงินเริ่มต้นจากพ่อหนึ่งสมทบทุน ๔,๐๐๐ บาท ด้วยแรงบันดาลที่หลวงตาประพันธ์ตั้งสัจจะอธิษฐานไว้ได้ไปดลบันดาลให้หนูเบ็น กับ โยมป๋องซึ่งเป็นสามีและภรรยากัน และหนูเล็กซึ่งเป็นน้องสาว มาภาวนา ที่วัดป่าฟองงอย บ้านหนองผักบุ้ง ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ หลวงตา เลยปรารภเรื่องสร้างโรงพยาบาลตึกสงฆ์อาพาธ เพื่อถวายหลวงปู่ชอบ ไม่รู้จะได้ทุนมา จากไหนบังเอิญคนทั้งสามนี้เป็นลูกสาวและลูกเขยเจ้าของโรงงานหล่อพระอ่างที่จังหวัดชลบุรี จึงได้ถวายปัจจัยไว้คนละ ๑๐,๐๐๐ บาท หลวงตาจะได้พาสร้างโรงพยาบาลให้หลวงปู่ชอบ และถามโยมเบ็นกับโยมป๋องและหนูเล็กว่า
“ป๋อง เธอจบอะไรมา”
“ประติมากรรมปั้นรูปครับ” โยมป๋องตอบ
“เออ...พอดีล่ะ เธอปั้นรูปหลวงตาได้ไหม องค์เท่าพระกริ่งองค์เล็กๆ อีกอันรูปหยดน้ำ (วงรี) เธอเป็นเจ้าภาพได้ไหม”
หนูเบ็นถาม
“โรงพยาบาลตึกสงฆ์อาพาธใช้เงินเท่าไรค่ะหลวงตา”
หลวงตาตอบ “ประมาณ ๒๐ ล้าน”
หนูเบ็นถาม “จะเอาเงินมาจากไหนค่ะหลวงตา ปวดหัวแล้วจะเอาเงินมาจากไหน หลวงตาเองก็นั่งอยู่แต่ในป่า”
หลวงตาตอบ “ก็เงินเธอ ๓๐,๐๐๐ บาท ไง”
หนูเบ็นถาม “๓๐,๐๐๐ บาทจะทำอะไรเสร็จค่ะ”
หลวงตาตอบ
“แฟนเธอปั้นรูปเป็นไม่ใช่หรือ ก็ปั้นเป็นพระกริ่งองค์เล็กๆ”
หลวงตาถามหนูเบ็นว่า
“ ทองแท่งหนึ่งที่หล่อพระในโรงงาน น้ำหนัก ๗ กิโลกรัม ใช่ไหม”
หนูเบ็นตอบ “ค่ะ”
หลวงตาถาม “โยมป๋อง แล้ว ๗ กิโลกรัม จะปั้นองค์เล็กได้กี่องค์”
สองผัวเมียตอบ “ได้เป็นร้อยเลย ครับ/ค่ะ”
หลวงตาบอก “เธอเริ่มเห็นแสงสว่างหรือยัง เงิน ๓๔,๐๐๐ บาท ซื้อทองได้กี่แท่ง เธอเข้าใจแล้วนะ”
สองผัวเมียตอบ “จ้า”
หลวงตาบอก “แล้วทำเป็นเหรียญอีก ๒ รุ่น รุ่นแรกคือ น้องรี(เหรียญรูปหยดน้ำ) รุ่นสองคือ พี่กลาง(รุ่นแรกสร้างโรงพยาบาล) ส่วนพระกริ่งให้ชื่อรุ่นพี่เบิ้ม แล้วหลวงตา อายุพรรษา ๑๕ พรรษา
ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ นั่งภาวนาอยู่ ณ ยอดดอย วัดฟองงอย ตั้งสัจจะไว้
“ขอถวายหลวงปู่ชอบ คุณธรรมทั้งหลาย บารมีทั้งหลาย ที่มีในหลวงปู่ จงมาอยู่ในเหรียญ หลวงตา ให้เหรียญมีอนุภาพเหมือนหลวงปู่ทุกอย่าง เหรียญนั้นเป็นของลูกศิษย์ แต่อนุภาพและบารมีธรรมเป็นของหลวงปู่ ขอจงได้สำเร็จ”
และเมื่อออกพรรษา หลวงตา จึงอนุญาตให้ลูกศิษย์ของหลวงตา ทำเหรียญรุ่นแรกสร้างโรงพยาบาล ออกมามีหลายแบบคือ
๑. พระกริ่ง
๒. เหรียญกลม
๓. เหรียญรูปวงรี
ศิษย์ยานุศิษย์ทั้งหลายทั่วสารทิศเมื่อรู้ข่าวต่างก็มาจองบูชาเหรียญเพื่อร่วมทำบุญสร้างโรงพยาบาลตึกสงฆ์อาพาธ กันอย่างเนืองแน่น หลวงตารวบรวมปัจจัยทุกบาทที่ได้มาจากศิษย์ยานุศิษย์ ที่ร่วมทำบุญและบูชาเหรียญฝากเก็บไว้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขา อ. วังสะพุง จ. เลย
จากนั้นปี พ.ศ. ๒๕๔๗ หลวงตาอายุพรรษา ๑๖ พรรษา และได้นำมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดป่าภูดิน ต. วังปลาป้อม จ. หนองบัวลำภู
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ อายุพรรษา ๑๗ พรรษาที่ บ้านยางเกาะ ต. ปริก อ. สะเดา จ. สงขลา
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ – ๒๕๕๐ ได้มาจำพรรษาอยู่ที่ วัดป่าภูดิน ต. วังปลาป้อม อ. นาวัง จ. หนองบัวลำภู และ ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ นี้เอง หลวงตา ท่านได้พาศิษย์ยานุศิษย์ทั้งหลาย วางศิลาฤกษ์ สร้างโรงพยาบาลตึกสงฆ์อาพาธฐานสโมนุสรณ์ ที่โรงพยาบาลนาวังเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา อ. นาวัง จ. หนองบัวลำภู
หลวงตาประพันธ์ท่านลั่นสัจจะวาจาไว้
“เมื่อข้าพเจ้า อายุพรรษา ๒๐ พรรษา ณ วันใด หรือ อายุ ๖๐ ปี ณ วันใด ตึกสงฆ์เสร็จ วันนั้น”

โดยคุณ น้องเอ็ม (2.1K)(1)   [อา. 24 ส.ค. 2557 - 21:10 น.] #3446796 (2/6)


(N)


หลังจากนั้นจึงเริ่มทำการก่อสร้างโรงพยาบาลตึกสงฆ์อาพาธ รวมระยะเวลาก่อสร้างนาน ๑๑ เดือน โดยไม่มีใครเชื่อว่าจะทำเสร็จ จากแรงศรัทธาของศิษย์ยานุศิษย์ทุกหนทุกแห่งต่างก็มาช่วยกันทั้งหมด ทั้งถวายปัจจัยคนละ ๑๐ – ๑๐๐ - ๑,๐๐๐ บาท ใครมีกำลังแรงก็ช่วยแรง ใครมีกำลังทรัพย์ก็ช่วยทรัพย์ร่วมกันสร้างจนแล้วเสร็จ ด้วยงบประมาณของหลวงตา และญาติโยมทั่วสารทิศ (ด้วยปัจจัยเริ่มต้นแค่ ๓๔,๐๐๐ บาท ก็ยอดบุญมาเป็น ๒๐ ล้านบาท)
หลังจากวางศิลาฤกษ์เสร็จ จึงเริ่มขุดหลุมเสาทันทีรวมทั้งหมด ๗๗ หลุม โดยไม่ได้จ้าง มีคุณหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และชาวบ้านหลายๆ หมู่บ้านมาช่วยกันจองเป็นเจ้าภาพขุดจนแล้ว เสร็จ และดำเนินการก่อสร้างเรื่อยมา
ตั้งแต่วันเริ่มก่อสร้าง หลวงตา ท่านก็มีเมตตาได้ออกบิณฑบาตจาก วัดป่าภูดิน มาฉันเช้าที่โรงพยาบาล อ. นาวัง เกือบทุกวัน วันไหนไม่ได้มา หลวงตา ท่านก็ให้ลูกศิษย์มาแทน เพื่อจะได้นำอาหารข้าวก้นบาตรที่พระฉันเสร็จแล้วมาเลี้ยงช่าง และลูกศิษย์ ที่มาช่วยทำงาน เพราะ หลวงตา ไม่มีเงินจ้างช่างรับเหมาก่อสร้างมาทำ จึงมีแต่คณะลูกศิษย์หลายๆ หมู่บ้านมาช่วยออกแรงทำกัน อุปสรรคในเบื้องต้น จะสร้างตึกสงฆ์ ต้องใช้ไม้มาทำไม้แบบจำนวนมาก
“จะได้ไม้แบบมาจาก ไหนหนอ”
หลวงตานั่งคิด เลยคิดได้ว่าไปบ้านโคกมนก่อน ไปหาตู้เทียง ตู้เหล่ พ่อเฒ่า (นายจิ๋ว)ไปขอบิณฑบาต ต้นไม้ที่ยังไม่เป็นลูกก็ดี เป็นลูกแล้วก็ดี ที่แก่แล้วก็ดี ไม้มะพร้าวก็เอาไม้มะม่วง ก็ได้ แต่ก็ไม่มีใครให้เลย ไปขอไม่ได้เลย เพราะไม่มีใครเชื่อว่าจะสร้างเสร็จ หลวงตาจึงยกมือสาธุหาหลวงปู่ชอบ ให้หลวงปู่หาให้ จากนั้นลูกเขยและลูกสาวพ่อหวัดจึงให้เป็นคนแรก (พ่อหวัด ผู้ซึ่งเป็นมรรคทายกหลวงปู่ชอบมาก่อนแต่ตอนนี้ถึงแก่กรรมแล้ว) ลูกเขยลูกสาวเป็นคนให้แทน ได้ต้นมะม่วง ๓ ต้น ต่อมามีแต่คนบอกให้ไปเอา เอาจนไม่หวาดไม่ไหว
เมื่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธฐานสโมนุสรณ์เสร็จแล้ว หลวงตา ท่านยังมีเมตตามอบรถฉุกเฉินอีก ๑ คัน และเตียงผู้ป่วย ๑๖ เตียง พร้อมด้วยแอร์ อีก ๒ ตัว พระพุทธรูปปรางค์ชนะมาร หน้าตักกว้าง ๓๒ นิ้ว ๑ องค์ และตู้พระไตรปิฎกฝังมุกพร้องหนังสือพระไตรปิฎก ๑ ชุด ไม้เท้าอีก ๑๖ อัน โต๊ะเลื่อนวางอาหารปรับระดับได้ (เมโย) อีก ๑๖ ตัว หลวงตา ท่านมอบให้เป็นคุณของ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และ พ่อหลวงคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา หลวงตายังมีโครงการ จะซื้อเครื่องตรวจร่างกายด้วยระบบคอมพิวเตอร์ มอบไว้ให้แก่โรงพยาบาลนาวังเฉลิมพระเกียรติ ฯ และที่โรงพยาบาลนาวังเฉลิมพระเกียรติ ฯ นี้เองก็ได้มีลูกศิษย์ของหลวงตาที่เป็นแพทย์ เภสัชกร พยาบาล หลายคนเสนอตัวขอเป็นแพทย์อาสา นำทีมโดย แพทย์หญิง ศิริวรรณ หมอแดง หมออั๋น และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนาวังเฉลิมพระเกียรติ ฯ อีกหลายคน หลวงตา จึงได้จัดตั้งกองทุนขึ้นมา ชื่อว่า กองทุนกิตฺติโสภโณ และจัดหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ออกตรวจตามชุมชนถิ่นทุรกันดารต่างๆ ที่ หลวงตา เคยได้ไปธุดงค์ภาวนาหลังจากมอบถวาย ตึกสงฆ์อาพาธหลวงปู่ ให้กับพระสงฆ์รับเสร็จแล้ว หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ ท่านก็ได้ไปจำพรรษาที่ วัดป่าวิเวกภูเขาวง ต่อไป
หมายเหตุ - โรงพยาบาล หลวงปู่ชอบ ฐานสโม สร้างขึ้นเมื่อสมัยหลวงปู่ชอบยังมีชีวิตอยู่ ที่ บ. โคกมน ต. ผาน้อย อ. วังสะพุง จ. เลย ต่อมา หลวงปู่ชอบท่านได้ละสังขารไปก็ไม่มีใครดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จ

โดยคุณ น้องเอ็ม (2.1K)(1)   [อา. 24 ส.ค. 2557 - 21:11 น.] #3446797 (3/6)


(N)


ตอนที่ ๒
ณ วัดป่าวิเวกภูเขาวง
ณ วัดป่าวิเวกภูเขาวง
บ. ดงน้อย ต. ผาขาว อ. ผาขาว จ. เลย
วัดป่าวิเวกภูเขาวง ตั้งอยู่ในเขตป่าภูผาขาว พื้นที่โดยรอบมีลักษณะเป็นป่าดงดิบแล้ง ยังเป็นป่าที่มีความสมบูรณ์และมีสัตว์ป่านานาชนิด พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาเรียงรายซ้อนกันหลายลูก ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ทั้งหมด ๒๐๐ ไร่ เหมาะแก่การบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน เป็นอย่างยิ่ง เดิมเป็นวัดที่ หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต ท่านได้มีเมตตาสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๘๑ มีนายคูณ คำผงแดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๔ ต. ผาขาว อ. ภูกระดึง จ. เลย เป็นผู้รับรองการสร้างวัดในสมัยนั้น หลวงปู่ผาง ท่านได้จำพรรษาอยู่หลายปี ต่อมาก็มี หลวงพ่อต้น ท่านเดินธุดงค์ผ่านและชาวบ้านดงน้อยจึงได้ อาราธนานิมนต์ให้ท่าน หลวงพ่อต้น อยู่จำพรรษา ต่อมาก็เป็นเจ้าอาวาส องค์แรก หลังจากนั้นหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต ก็ออกธุดงค์ภาวนาไปจำพรรษาต่อที่ถ้ำน้ำหนาว หลวงพ่อต้น เจ้าอาวาสรูปแรกก็ได้ บูรณปฏิสังขรณ์ วัดวิเวกภูเขาวง ในขณะนั้น มาจนถึง ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ มีพระอาจารย์บัวหอม ขันติยาคะโม เป็นเจ้าอาวาส รูปที่ ๒ และท่านได้มรณภาพเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ (หลวงปู่ผาง ท่านทำนายไว้ว่าเจ้าอาวาสรูปที่ ๑ และ เจ้าอาวาสรูปที่ ๒ ก็ไม่เท่าไรแต่เจ้าอาวาสรูปที่ ๓ จะรุ่งเรือง)

ปัจจุบัน ณ วักป่าวิเวกเขาวง
หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ ท่านได้จำพรรษาแรกเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ เนื่องจาก ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ นาย ปัญญา วงศรีแก้ว นายอำเภอผาขาว จังหวัดเลย คุณ จิ๊ฟฟี่ ปลัดอำเภอผาขาว กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. และชาวบ้านได้ไปกราบอาราธนานิมนต์ หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ จากสำนักสงฆ์ฐานสโมวังโส (ป่าฟองงอย) บ. หนองผักบุ้ง ต. วังกวาง อ. น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์ ให้มาจำพรรษาและบูรณะ วัดป่าวิเวกภูเขาวง บ. ดงน้อย ต. ผาขาว อ. ผาขาว จ. เลย ให้เป็นวัดที่มีศาสนสถาน ที่สมบูรณ์และเป็นจุดศูนย์กลางระหว่างกลุ่มศิษย์ยานุศิษย์ จ. เลย จ. หนองบัวลำภู จ. ขอนแกน จ. เพชรบูรณ์ และทั่วประเทศไทย
หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ และ ศิษย์ยานุศิษย์จึงเห็นพร้อมที่จะบูรณปฏิสังขรณ์ ต่อเติมศาลาการเปรียญหลังเก่าจากเดิมเป็นศาลาชั้นเดียวโดยได้ยกให้สูงขึ้น ด้านล่างทำเป็นที่กักเก็บน้ำฝนขนาดใหญ่สำหรับเอาไว้รองรับน้ำฝนไว้ใช้ภายในวัดเนื่องจากวัดอยู่บนภูเขาไม่มีน้ำประปาใช้ และปัจจุบันหลวงตากำลังทำการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่อีก ๑ หลัง กว้าง ๒๔ เมตร ยาว ๗๒ เมตร ประมาณการก่อสร้างกว่า ๑๕ ล้านบาท เนื่องจากศาลาหลังเดิมไม่พอรองรับ พุทธศาสนิกชน ศิษย์ยานุศิษย์ ทั้งหลายเวลามีพิธีกรรมทางศาสนาและงานบุญต่างๆ และเมื่อ วันที่ ๒ พ.ย. ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ และศิษย์ยานุศิษย์ ได้กราบอาราธนานิมนต์ ท่านเจ้าคุณ ปิยทัสสี ฐานยุตโต หรือหลวงปู่โกวิท เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ โดยมีนาย พรศักดิ์ เจียรนัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ประธานฝ่ายฆราวาส นาย ปัญญา วงศรีแก้ว นายอำเภอผาขาว รองประธาน และ ส.ส. นันทนา ทิมสุวรรณ ส.ส. เลยเขต ๒
พร้อมทั้งพุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้ร่วมกันวางศิลาฤกษ์ก่อสร้าง องค์มหาเจดีย์ ขนาดความกว้าง ๓๐*๓๐ เมตร สูง ๖๐ เมตร การดำเนินงานก่อสร้างครั้งนี้ต้องใช้ค่าก่อสร้างประมาณ ๔๔ ล้านบาท ณ ปัจจุบันปัจจัยที่มีอยู่ก็ได้มาจากศิษย์ยานุศิษย์จากทิศทั้งสี่ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา และศรัทธาในตัวท่านหลวงตา ได้จัดทำบุญกฐิน บุญผ้าป่ามาถวายบ้าง ท่านก็เอาอิฐ เอาหิน เอาปูน เอาทราย มาบริจาคเพื่อร่วมสร้างศาลาการเปรียญ – เจดีย์ และยังมีชาวบ้านจากหลายหมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด มาช่วยแรงในการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก ตลอดมาไม่ว่าจะเป็นพุทธศาสนิกชนผู้ใจบุญจากทั่วทุกสารทิศ ก็มาช่วยออกแรงทำบุญเป็นประจำ หลวงตา ท่านก็มีเมตตา ทำวัตถุมงคล มีสายแขน สายคอ ล็อกเกต ตะกรุด เพื่อมอบให้เป็นของขวัญตอบแทนแก่ศิษย์ยานุศิษย์ทั้งหลาย ที่มาร่วมทำบุญสร้าง ศาลาการเปรียญ เจดีย์ แต่ปัจจัยในการก่อสร้างก็ยังไม่เพียงพอ ยังขาดแคลนทั้งปัจจัยที่มาช่วยในการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก จึงขอถือโอกาสนี้ เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา ทุกๆ ท่านได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพสร้าง องค์มหาเจดีย์ ศาลาการเปรียญ ในครั้งนี้โดยพร้อมเพียงกัน ร่วมบริจาคปัจจัย อิฐ หิน ปูน ทราย ไม้ เหล็ก ได้โดยตรงที่ วัดป่าวิเวกภูเขาวง

โดยคุณ น้องเอ็ม (2.1K)(1)   [อา. 24 ส.ค. 2557 - 21:12 น.] #3446800 (4/6)


(N)


หลวงตาประพันธ์ ท่านย้อนนึกถึงเมื่อตอนสร้างตึกสงฆ์อาพาธ ฯ อ. นาวัง จ. หนองบัวลำภู ที่ตอนนั้นได้อนุญาตให้ลูกศิษย์ทำเหรียญรุ่นแรกขึ้นมา เพื่อช่วยสร้างตึกสงฆ์อาพาธ ฯ อ. นาวัง จ. หนองบัวลำภู คือ เหรียญรุ่นแรกสร้างโรงพยาบาลมี
๑. พระกริ่ง (พี่เบิ้ม)
๒. เหรียญกลม (พี่กลาง)
๓. เหรียญรูปวงรี (น้องรี)
โดยได้ตั้งสัจอธิษฐาน จะทำเหรียญรุ่นนี้รุ่นแรกและรุ่นเดียว เพื่อสร้างโรงพยาบาลให้แล้วเสร็จ ถ้าโรงพยาบาลเสร็จแล้วเหรียญที่เหลือก็จะเอาไปเทลงแม่น้ำโขงให้หมดแต่ ตอนนี้เหรียญก็เอาไปเทน้ำโขงจนหมดแล้ว ถ้าเหรียญนั้นยังอยู่คงจะช่วยเป็นกองทุนสร้างศาลาและสร้างเจดีย์ให้แล้วเสร็จเร็วยิ่งขึ้น
ย้อนไปเมื่อวันที่ ๔ ม.ค. ๒๕๕๒
เป็นวันที่หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ พร้อมทั้งศิษย์ยานุศิษย์ได้ทำพิธีส่งมอบ ตึกสงฆ์อาพาธโรงพยาบาลนาวังเฉลิมพระเกียรติ ฯ อ. นาวัง จ. หนองบัวลำภู หลังจากพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเช้า และรับมอบตึกสงฆ์อาพาธแล้วเสร็จ หลวงตาได้ประกาศให้ลูกศิษย์ที่เป็นครู ตำรวจ ทหาร มารับเหรียญในตอนนี้ หลังจากนั้นก็มี อาจารย์สุพรรณ จาก โรงเรียนโคกกลางใหม่โพธิ์ทอง อ. ศรีบุญเรือง มารับ นอกจากนี้ หลวงตาก็ยังมอบให้ทหารที่ลงไปประจำการภาคใต้ ๔๐ เหรียญ ตำรวจตำบลนาวัง ๗๐ เหรียญ จากนั้น หลวงตา พร้อมทั้งศิษย์ยานุศิษย์หลายคนก็ได้นำเหรียญ หลวงตา รุ่นแรกสร้างโรงพยาบาล ขึ้นรถยนต์ฟอร์ดเอวอเรส และขบวนรถคณะศิษย์ยานุศิษย์อีกหลายคันมุ่งหน้าไปยังฝั่ง
แม่น้ำโขง ที่ วัด ท่าสองนาง บ้านน้อย หมู่ ๔ ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย เวลาประมาณบ่าย ๒ โมง หลวงตา ได้กำเหรียญโยนลงน้ำโขงและได้ให้ลูกศิษย์หลายคนช่วยกันโยนเหรียญลงแม่น้ำโขงตามที่ท่านได้ตั้งสัจจะเอาไว้ ก่อนที่จะโยนเหรียญลงแม่น้ำโขง หลวงตาได้อธิฐานจิตไว้ว่า
“ข้าพเจ้าได้สร้างโรงพยาบาลตึกสงฆ์อาพาธถวายให้ครูบาอาจารย์เสร็จแล้วข้าพเจ้าได้เอาเหรียญมาเทลงแม่น้ำโขงตามสัญญาขอให้พญานาคช่วยเก็บรักษาเหรียญนี้ไว้ด้วย”
เวลาผ่านไปนาน ๑ ปี ๔ เดือนเศษจนถึง ณ วันนี้”

แล้วเรื่องอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
ที่วัดท่าแขก บ้านน้อยหมู่ ๔ ต. เชียงคาน อ. เชียงคาน จ. เลย ได้มีสามเณรจำนวน ๖ รูปและ ด.ช. ก่อน1เป็นสามเณร อีก ๔ คน
๑. ด.ช. อภิสิทธิ์ ศรีสบ ก่อนเป็นสามเณร บ. หนองโก ต. ผาขาว จ. เลย ๒. ด.ช. ปิยะ ชัยนะ ก่อนเป็น
สามเณร บ. ห้วยบ่อชืน อ. ปากชม จ. เลย ๓. ด.ช. อิทธิพล จันทะ ก่อนเป็นสามเณร บ. ท่าบม ต. เขาแก้ว อ.เชียงคาน จ. เลย ๔. นายจิตรกร ดรพล ก่อนสามเณร บ. ดงน้อย ต. ผาขาว อ. ผาขาว จ. เลย ๕. สามเณร คมสันสันต์ หารนาดง ก่อนเป็นสามเณร บ. ดงบาก ต. หนองไผ่ อ. หนองหาร จ. อุดรฯ ๖. สามเณร ภาณุวัฒน์ โกมล ก่อนเป็นสามเณร บ. หนองม่วง ต. ปทุมวาปี อ. ส่องดาว จ. สกลนคร ๗. สามเณร เขื่อนเพชร ชำนาญเริง ก่อนเป็นสามเณร บ. หาดคัมภีร์ ต. หาดคัมภีร์ อ. ปากชม จ. เลย ๘. สามเณร กริศนะ ไชยคนี ก่อนเป็นสามเณร บ. ท่าบม ต. เขาแก้ว อ. เชียงคาน จ. เลย ๙. สามเณร อนุชา ศรีดี ก่อนเป็นสามเณร บ. หนองพอก ต. รอบเมือง อ. หนองพอก จ. ร้อยเอ็ด ๑๐. สามเณร สมรักษ์ ฮุยเสนา ก่อนเป็นสามเณร บ. หนองแซงสร้อย ต. น้ำพัน อ. หนองวัวซอ จ. อุดรฯ สามเณรทั้งหมด ๖ รูป จู่ๆก็รู้สึกกระวนกระวายคิดอยากลงไปอาบน้ำ พระอาจารย์ห้ามไว้ก็ไม่ฟังจึงพากันแอบลงไปเล่นน้ำ ณ บริเวณนั้นซึ่งมีชื่อเรียกว่า ถ้ำแข้ (ถ้ำจระเข้) ตรงนั้นจะเป็นวังน้ำลึก มีโขดหินใหญ่และน้ำใสกว่าปกติเป็นวงกลมล้อมรอบอยู่ โดยสังเกตมองเห็นได้ชัดเจน หนึ่งในสามเณรนั้นเผอิญเท้าได้ไปเหยียบเจอเอาเหรียญ หลวงพ่อประพันธ์ กิตฺติโสภโณ รุ่นแรกสร้างโรงพยาบาลซึ่งน้ำได้พัดเอาเหรียญมารวมกัน ณ ถ้ำแข้ (ถ้ำจระเข้) นั้น ทีแรกเจอก่อน ๑ เหรียญ ต่อมาสามเณรทั้งหมดจึงช่วยกันดำขึ้นมานับรวมกันแล้วได้ทั้งหมดจำนวน ๔,๐๖๗ เหรียญ จึงนำเหรียญนั้นไปเก็บไว้กับพระอาจารย์ วัดท่าแขกก่อน ต่อมาสามเณรจิตรกร ดรพล เดิมอยู่ บ. ดงน้อย ต. ผาขาว อ. ผาขาว จ. เลย ได้นำเหรียญของ หลวงตา รุ่นแรกสร้างโรงพยาบาลจำนวนหนึ่งมาให้พ่อดูและเล่าเรื่องให้พ่อฟัง พ่อจึงได้พาลูกชายไปกราบ หลวงตาที่วัดป่าวิเวกภูเขาวง บ. ดงน้อย ต. ผาขาว อ. ผาขาว จ. เลย และเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับ หลวงตาฟัง และเมื่อวันที่ ๔ พ.ค. ๒๕๕๓ หลวงตา พร้อมทั้งศิษย์ยานุศิษย์ บ. ดงน้อย ต. ผาขาว อ.ผาขาว จ. เลย จึงได้ออกเดินทางไปยัง วัดท่าแขก บ้านน้อยหมู่ ๔ ต. เชียงคาน อ. เชียงคาน จ. เลย เพื่อรับเหรียญคืนจาก พระอาจารย์ วัดท่าแขก จำนวน ๔,๐๖๗ เหรียญ และได้นำมาเป็นกองทุนเพื่อสร้าง ศาลาการเปรียญและองค์มหาเจดีย์ที่วัดป่าวิเวกภูเขาวงต่อไป จุดที่เทหว่านเหรียญทิ้งนั้น คือ วัดท่าสองนาง จุดที่พบเจอเหรียญ คือ วัดท่าแขก มีระยะห่างกันประมาณ ๑ กิโลเมตร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เพราะตามธรรมดาเวลาน้ำโขงขึ้นเต็มฝั่งน้ำจะพัดแรงมาก ถ้าหากไม่พัดเอาเหรียญหนีไปไกลแสนไกล ดินทรายก็น่าจะพัดถมหมดแล้ว คงเป็นเพราะด้วยอำนาจบารมีด้วยแรงอธิฐานจิตของท่านหลวงตา ที่ฝากพญานาคเก็บรักษาไว้จึงเป็นเหตุให้ได้เหรียญนั้นกลับมาเป็นกองทุนเพื่อสร้าง องค์มหาเจดีย์ ต่อไป
ยังมีเรื่องปาฏิหาริย์ เกี่ยวกับหลวงตา และ เหรียญรุ่นแรกสร้างโรงพยาบาล อีกหลายเรื่อง อาทิเมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ ได้มีแม่ลูกคู่หนึ่งเดิมอยู่ที่ บ.โคกเจริญ ต. วังปลาป้อม อ. นาวัง จ. หนองบัวลำภู แต่ได้ย้ายไปอยู่ที่ บ. หนองบัว ต. หนองบัว อ. บ้านหม้อ จ. สระบุรี วันนั้นเขามากราบนมัสการ หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ ที่ วัดป่าวิเวกภูเขาวง บ. ดงน้อย ต. ผาขาว อ. ผาขาว จ. เลย โดยแม่เล่าเรื่องลูกเขารอดตายอย่าง ปาฏิหาริย์ให้หลวงตาฟังว่า ลูกสาว ชื่อ เด็กหญิง พิชาพร ยอดบุรุษ อายุประมาณ ๖ ปี ในคอคล้องเหรียญรุ่นแรกสร้างโรพยาบาล และ ติดตัวไว้ตลอด วันหนึ่งลูกสาวไปเล่นน้ำในสระลึกประมาณ ๓ เมตรและได้เกิดจมน้ำในสระ แม่พยายามเดินหาหลายรอบก็ไม่เจอจนกระทั้งร่างลูกสาวลอยขึ้นเหนือน้ำแม่จึงรีบนำลูกส่งโรงพยาบาลบ้านหมอ หมอไม่รับ แม่ก็เลยพาไปโรงพยาบาล จ. สระบุรี หมอบอกว่าไม่รอด บอกแม่ทำใจ ไม่มีเปอร์เซ็นต์รอดหนึ่งในแสนคนก็ไม่รอด
หมอบอกว่า นอกจากจะมีปาฏิหาริย์ช่วยเท่านั้นจึงจะรอดในขณะนั้นแม่ก็ได้แด่ขอให้คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกของตนด้วย แม่เลยพาลูกไปรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กทม. และลูกสาวเขาก็ไป ฟื้นอย่างปาฏิหาริย์ ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กทม. เมื่อหายดีแล้วแม่จึงพาลูกสาวมากราบหลวงตา ถ้าหากไม่มีเหรียญรุ่นแรกสร้างโรงพยาบาลและได้กำไรข้อมือของหลวงตา ลูกสาวเขาคงไม่รอด แม่บอก
เรื่องอัศจรรย์ปาฏิหาริย์ วัตถุมงคล หลวงตา เกิดขึ้นอีกมากมายหลายครั้งกับหลายๆคนจนไม่สามารถนำมาเล่าได้หมดปัจจุบันที่ วัดป่าวิเวกภูเขาวง แต่ละวันมีศิษย์ยานุศิษย์ มาขอบูชาวัตถุมงคลของ หลวงตาไม่ได้ขาด มีเหรียญรุ่นแรกที่ได้คืนมาจากแม่น้ำโขง เหรียญรุ่นแรกมีหลายแบบ และสายแขน สายคอ ล็อกเกต ตะกรุด บูชาเอาติดตัวไว้เตือนสติตัวเองเวลาเผลอสติคิดทำเรื่องไม่ดี คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย และ เมตตามหานิยมทำมาค้าขายรุ่งเรือง
เรื่องคุณธรรม บารมีธรรม ของหลวงตา ซึ่งในแต่ละวันได้มีลูกศิษย์มา กราบเล่าเรื่อง ความทุกข์ ๑๐๘ ให้ฟังและขอพึ่งบุญบารมีของหลวงตา ให้หลวงตาเมตตาชี้ทางแก้ไขปัญหาความทุกข์ให้ หลวงตาท่านมีเมตตากับลูกศิษย์ทุกคนเสมอกันและท่านยังมีเมตตามากกับคนยาก กับคนที่ยังมืด กับคนที่ไม่รู้จักบุญไม่รู้จักบาป ให้รู้บุญรู้จักบาปและรู้จักทำบุญกินทานเป็น
คติธรรมหลวงตา ท่านจะสอนตรงๆ สั้นๆ เข้าใจง่าย
- ธรรมะทั้งหลายทั้งปวง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ย่อลง
เหลือ ดี กับ ชั่ว ๒ อย่าง อยากได้อะไร ทำเอาเอง
- ถ้าอยากพ้นทุกข์ให้ วาง

โดยคุณ น้องเอ็ม (2.1K)(1)   [อา. 24 ส.ค. 2557 - 21:24 น.] #3446812 (5/6)


(N)


ปีนัี้กฐินวันที่18-19 ตุลาคม 2557 เชิญทุกท่านครับ
ร่วมทำบุญกองละ500 บาท
จะแจ้งรายละเอียดอีกครั้งครับ

โดยคุณ น้องเอ็ม (2.1K)(1)   [อา. 24 ส.ค. 2557 - 21:29 น.] #3446818 (6/6)


(N)


18 ตุลาคม 2557 รวมกฐินจากลูกศิษย์ทั่วประเทศ
19 ตุลาคม 2557 ถวายกฐิน

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1