ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ตะกรุด รุ่น ๑ หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดบ้านนา จ.ระนอง

(N) วัดบ้านนานั้น เป็นวัดเก่าแก่ ที่ขาดทุนทรัพย์ในการบูรณปฏิสังขรณ์วัด หลวงพ่อสมบูรณ์ ท่านได้จัดสร้าง ตะกรุด รุ่น ๑ เพื่อนำเงินไปสร้างกุฏิ ตะกรุด รุ่น ๑ นั้น มีจำนวนการจัดสร้างดังนี้ ๑.ตะกรุดเงินแท้ จำนวน ๔๐ ดอก ราคาจอง ๓๐๐๐ บาท ๒.ตะกรุดตะกั่ว จำนวน ๑๙๙ ดอก ราคาจอง ๔๙๙ บาท --------------- *ตะกรุดเงินแท้ ได้นำมาทดลองตอกโค๊ต จำนวน ๙ ดอก

โดยคุณ วุุฒิมหานิยม (16)  [จ. 17 ก.ย. 2561 - 09:25 น.]

---

โดยคุณ วุุฒิมหานิยม (16)  [จ. 17 ก.ย. 2561 - 09:27 น.] #3881486 (1/3)

ข้อมูลจากวิกีพีเดีย ตะกรุด เป็นหนึ่งในเครื่องรางของขลังที่ผูกพันกับคติความเชื่อในสังคมไทยมาช้านาน เพื่อความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ ดีในทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ป้องกันภยันตราย ภัยพิบัติทั้งปวง รวมทั้งด้านเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ กลับดวง พลิกชะตา เลื่อนยศ ร้ายกลายเป็นดี ฯลฯ ตะกรุดได้ถูกสร้างโดยอ้างถึงพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เพราะหากทำวัตถุบูชาเป็นรูปพระพุทธเจ้าแล้ว เมื่อนำไปในสถานที่ต่าง ๆ เช่น สนามรบ อาจจะไม่บังควร ตะกรุดทำมาจากวัสดุต่าง ๆ ตามตำราของครูบาอาจารย์แต่ละท่าน แต่ที่พบโดยทั่วไปจะเป็นการนำโลหะแผ่นบางๆ อาจจะเป็น ทองคำ เงิน นาก ตะกั่ว หรือโลหะผสมอื่น ๆ มาลงอักขระเลขยันต์ด้วยเหล็กจารแสดงความหมายที่แตกต่างกันออกไป แล้วม้วนให้เป็นท่อกลมโดยมีช่องว่างตรงแกนกลางสำหรับร้อยเชือกติดตัว อาจนำมาหลอมรวมกันแล้วทำเป็นตะกรุดหล่อโบราณ ทำจากรางน้ำฝน ทำจากกาน้ำ ทำจากใบลาน ตัดเป็นแผ่นก่อนแช่น้ำแล้วนำมาม้วนเป็นท่อกลม ทำจากหนังสัตว์ เช่น หนังเสือ หนังหน้าผากเสือ หนังงู หนังเสือดาว หนังลูกวัวอ่อนตายในท้องแม่ หรือจากกระดูกสัตว์ ตะกรุดกระดูกช้าง ตะกรุดจากเขาวัวเผือก หรือจากไม้มงคลต่างๆ เช่น ไม้ไผ่ ซึ่งมีทั้งไผ่ตันและไผ่รวก ไม้คูน ไม้ขนุน ตะกรุดส่วนใหญ่ที่เป็นโลหะ จะมีความเชื่อที่แตกแขนงออกไปอีก เช่น ถ้าเป็นตะกรุดที่ต้องการให้เกิดผลทางด้านเมตตา มักจะทำโดยใช้แผ่นทองหรือแผ่นเงิน ตะกรุดที่ต้องการให้เกิดผลทางคงกระพัน จะใช้แผ่นทองแดง ตะกรุดที่ต้องการให้เกิดผลทางด้านแคล้วคลาด มักจะใช้แผ่นตะกั่ว เป็นต้น รูปแบบของตะกรุดก็มีพัฒนาการเรื่อยมาจากดอกใหญ่หนาสำหรับการออกศึกสงคราม ก็ค่อย ๆ ลดขนาดลง บางทีก็จัดทำเป็นดอกเล็ก ๆ ในลักษณะเครื่องรางติดตัวหรือสามารถตอกฝังเข้าไปในร่างกายได้ ปัจจุบันก็มีรูปแบบใหม่ขึ้นมาโดยทำมาจากปลอกลูกปืน อาศัยนัยว่า แม่ไม่ฆ่าลูก แล้วอาจจะถักด้วยเชือก ด้ายมงคล พอกด้วยผงยาจินดามณี แล้วนำไปจุ่มหรือชุบรักปิดทองตามตำรา ตะกรุดใช้บูชาอยู่ 2 แบบ คือใช้คล้องคอ หรือใช้คาดเอว โดยดอกตะกรุดจะขนานกันไปในแนวนอน ตะกรุดหากเป็นดอกเดียว เรียกว่า ตะกรุดโทน หากเป็นสองดอกจะเป็น ตะกรุดแฝด หรือเป็นโลหะสามชนิดเรียกว่า ตะกรุดสามกษัตริย์ หาก 16 ดอกเรียกว่า ตะกรุดโสฬส ดังจะเห็นได้จากพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก คล้องไว้ด้วยตะกรุดดอกใหญ่ เรียงเป็นแนวยาวพาดพระอังสะ ในลักษณะการเฉียงลงถึงบั้นพระองค์ มีสายตะกรุด 16 ดอก คล้องเป็นแนวยาวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งพระองค์ท่านสะพาย 2 เส้น

โดยคุณ วุุฒิมหานิยม (16)  [พ. 19 ก.ย. 2561 - 22:31 น.] #3881949 (2/3)

ประวัติการเรียนวิชาอาคม ของหลวงพ่อสมบูรณ์จากหลวงพ่อแดง วัดวังกุ่ม อ.กะเปอร์ จ.ระนอง หลวงพ่อแดงนั้น เมื่อสมัยไม่บวช ได้เป็นหมอธรรมของทางภาคอีสาน มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิชาอาคมอย่างมาก พร้อมกับถือข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่ยังไม่บวช เมื่ออายุครบ ๓๐ ปี พิจารณาเห็นแล้ว การถือเพศของชาวบ้านนั้นไม่เหมาะกับท่าน จึงตัดสินใจออกบวชอย่างเด็ดเดี่ยว ตั้งความปรารถนาว่า จะไม่ลาสิกขา มุ่งหน้าปฏิบัติธรรมเพื่อความสงบทางจิตใจ พร้อมทั้งเคร่งครัดในศีลธรรมอย่างยิ่ง ปฏิบัติธรรม สวดมนต์นั่งสมาธิทุกวัน จนจิตของหลวงพ่อแดงนั้นสงบนิ่งมาก เมื่อบวชแล้วท่านมีเหตุที่จะต้องมาจำพรรษาที่จังหวัดระนอง คือ วัดวังกุ่ม อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ในเรื่องความเคร่งครัดและการปฏิบัติดีของท่าน เป็นที่ประจักษ์ เป็นที่นับถือของชาวบ้านในพื้นที่ละแวกนั้น เป็นอย่างยิ่ง พร้อมทั้งนั้นมีคนถูกคุณไสย หรือผีเข้ามาให้ท่านช่วยเหลืออยู่บ่อยๆ และที่เลื่องชื่อมากก็คือ ตะกรุดโทน มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย มีผู้คนจำนวนมากที่จะพากันมาฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อเรียนวิชาจากหลวงพ่อแดง แต่ท่านไม่ถ่ายทอดวิชาให้ใคร เพราะกลัวว่า ผู้ที่เรียนจะนำไปใช้ในทางที่ผิดๆ ทำให้ผู้เล่าเรียนกับหลวงพ่อแดงนั้นมีน้อยมาก เนื่องจากว่ามีข้อแม้ว่า ต้องไม่ลาสิกขา และถือข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยที่ต้องมีศีล ๕ เป็นพื้นฐาน หลวงพ่อสมบูรณ์ ท่านได้เล่าว่า หลังจากที่ท่านบวชได้ ๓ พรรษาแล้ว ก็ได้ไปอาศัยอยู่กับหลวงพ่อแดง ในพรรษานั้น มีชาวบ้านในพื้นที่วังกุ่มไปเสียชีวิตที่จังหวัดอื่น และเมื่อทำเผาศพแล้ว ก็ได้นำกระดูกมาฝังไว้ใกล้ศาลาวัด ในขณะที่ฝังอยู่นั้น ก็มีคนในกลุ่มที่ร่วมพิธีถูกวิญญาณของผู้เสียชีวิตมาเข้าสิง ร้องลั่น พร้อมกับมีอาการที่ผิดปกติไปจากเดิม ตัวสั้น เสียงเปลี่ยน เอาฝาเท้าถีบเอาธูปเทียนที่ทำพิธีกระจัดกระจาย คนตกใจบางคนก็วิ่ง บางคนก็ยืนงงๆ และมีพระได้พูดขึ้นว่า ให้ช่วยกันจับไว้ ๆ ในขณะนั้น หลวงพ่อแดงกำลังนั่งสวดมนต์อยู่ ก็หยุดสวดแล้วได้กล่าวว่า "คนก็อยู่ส่วนคน ผีก็อยู่ส่วนผี จะทำบุญไปให้ นี่ก็กำลังทำพิธีกันอยู่" แต่ร่างของผู้นั้น ก็ไม่สงบ พร้อมกับส่งเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนหลวงพ่อแดง ท่านพูดขึ้นว่า " อย่างนี้ต้องเจอกับอัตมา เมื่อพูดดีด้วยไม่ได้ " หลวงพ่อแดงจึงให้พระใหม่นำพวกหินทราย บริเวณหน้าศาลามาคนละกำ แล้วท่านก็เสกหินและทรายเหล่านั้นสักพักใหญ่ เมื่อเสกเสร็จ ให้พระใหม่ได้นำหินทรายเหล่านั้น ไปโปรยรอบๆศาลาที่ทำพิธีกรรม และกำหนึ่งได้โปรยที่ตัวของผู้ที่ถูกวิญญาณเข้าสิง เมื่อหินทรายเหล่านั้นไปถูกต้องของผู้ที่ถูกเข้าสิงนั้นกรีดร้องเสียงดังลั่น และสงบไป แล้วหลวงพ่อแดงก็ได้พูดขึ้นว่า เขาไปแล้ว จะทำบุญอุทิศไปให้ เหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้หลวงพ่อสมบูรณ์เชื่อ เพราะท่านอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทำให้เกิดความเชื่ออยากเรียนวิชาจากหลวงพ่อแดง หลวงพ่อแดงท่านได้บอกว่า "เรียนวิชากับเราได้ แต่ต้องห้ามลาสิกขา ถ้าไม่ลาสิกขาทา่นจะถ่ายทอดวิชาให้หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตะกรุด หรือว่า เรื่องเกี่ยวกับอาคมต่างๆ ให้จนครบสูตร" ในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ก่อนที่หลวงพ่อแดง มรณภาพ ท่านรู้ล่วงหน้าว่า จะมรณภาพ จึงแจ้งข่าวหลวงพ่อสมบูรณ์ ว่า อีก ๕ วันท่านจะมรณภาพ แต่หลวงพ่อสมบูรณ์ ก็ไม่คิดว่า จะเป็นเรื่องจริง เมื่อครบ ๕ วันท่านก็มรณภาพตามคำที่กล่าว และประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงพ่อแดงนั้นมีอีกมากมาย โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องตะกรุดโทน -------- cr.กลุ่มศิษย์หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดบ้านนา

โดยคุณ kittipat (38)(2)   [พฤ. 20 ก.ย. 2561 - 09:48 น.] #3881981 (3/3)

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!

Copyright ©G-PRA.COM www1