(N) ประวัติ หลวงพ่อใย วัดปากป่า
พระครูพิพิธธรรมสาร (หลวงพ่อใย ธมฺมสาโร)
เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันของวัดปากป่ามีนามเดิมว่า ใย แสนเกษม
เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ.2487 เป็นบุตรของคุณพ่อหมุน คุณแม่หวิง แสนเกษม ชาวบ้านปากป่า
มีอาชีพเกษตรกรรมทำนาทำสวน
การศึกษาเบื้องต้น หลวงพ่อใยท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านหนองสะพาน เมื่อเรียนจบได้มาช่วยครอบครัวทำนาทำสวน เพราะเป็นบุตรชายต้องเป็นกำลังหลักของครอบครัว จนเมื่ออายุครบบวช พ่อแม่จึงพาไปบวชที่วัดปากป่า
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2510 (ถึงปัจจุบัน 51 พรรษา) โดยมี พระครูพิพิธวรญาณ (หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า) เป็นพระอุปัชฌาย์
หลวงพ่อจิ๊ว วัดปากป่า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูถาวรคุณวัตร (หลวงพ่อติ๊ด วัดหนองสะพาน) เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้ฉายา ธมฺมสาโร แปลว่า ผู้รุ่งโรจน์และสว่างไสวด้วยธรรม หลังอุปสมบทท่านได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้ นักธรรมตรี โท และเอก ตามลำดับ จึงได้หันไปศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐาน โดยได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า พระอุปัชฌาย์ของท่านซึ่งมีชื่อเสียงโงดังมากในขณะนั้น นอกจากเรียนด้านวิปัสสนาแล้ว หลวงพ่อใยยังสนใจศึกษาด้านพุทธาคมเป็นอย่างมาก ซึ่งหลวงพ่อชื่นท่านก็เมตตาสอนให้อย่างไม่ปิดบังทั้ง ลบผง,หุงสีผึ้ง,การปลุกเสกวัตถุมงคล การรักษาคนด้วยสมุนไพร และน้ำมนต์ รวมวิชาอีกหลายประการที่หลวงพ่อชื่นมี หลวงพ่อใยท่านก็เพียรศึกษาและปฏิบัติจนเกิดความชำนาญทำได้สำเร็จจริง จากนั้นท่านยังได้ไปขอเรียนด้านกสินธาตุเพิ่มเติม จากหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก ศิษย์เอกหลวงพ่ออ่ำ เจ้าตำหรับแพะมหาเสน่ห์อันโด่งดังของเมืองไทย เมื่อเรียนสำเร็จ และปฏิบัติจนเห็นผลจริงแล้ว จึงลาครูบาอาจารย์ออกธุดงค์เพื่อศึกษาเพิ่มเติม จากระยอง,นครปฐม,ชัยภูมิ,บุรีรัมย์,โคราช เป็นเวลาร่วม 3 ปีเต็มก่อนเดินทางกลับมาระยอง
แต่ด้วยความสนใจในในด้านกรรมฐาน และเป็นคนใฝ่เรียนชอบแสวงหาครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณ ท่านจึงได้เดินทางไปศึกษากับหลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทเขาพนมดิน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ขอเรียนทั้งการปฏิบัติจิต และเวทย์วิทยาต่างๆ นอกจากนี้หลวงพ่อใยยังมีโอกาสได้เพิ่มเติมภูมิธรรมด้านกรรมฐานกับหลวงปู่บุดดา ถาวโร เมื่อครั้งที่ท่านเดินทางมาระยองอีกด้วย
หลวงพ่อใยท่านเล่าให้ฟังว่า ใครก็ตามที่ให้หลวงปู่บุดดาเจิมแป้งให้ ท่านจะใช้แป้งกระป๋องเทใส่ฝ่ามือ แล้วเป่าใส่หน้าผากหรือศีรษะ
หลวงปู่บอกว่าเร็วดี หลวงพ่อเล่าต่อว่าเมื่อก่อนมีการทดลองการเป่าแป้งที่เขียนตัวนะใส่ฝ่ามือแล้ว แล้วเป่าพ่วงเดียวไปติดฝากุฏิเลยทีเดียว
เมื่อหลวงพ่ออายุมากขึ้น พรรษามากขึ้น กิจนิมนต์ก็มากขึ้น
โดยเฉพาะการนั่งปรกในพิธีต่างๆ ร่วมกับพระเกจิชื่อดัง
หลวงพ่อสาคร,หลวงพ่อสิน,หลวงพ่อนาค และพระเกจิชื่อดังระดับประเทศอีกมากมาย งานปลุกเสกวัตถุมงคลหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ท่านได้รับนิมนต์ให้มานั่งปรกในพิธีมาโดยตลอด
เมื่อถามว่าหลวงพ่อได้เรียนวิชากับหลวงปู่ทิมไว้บ้างไหม หลวงพ่อท่านตอบว่า สมัยก่อนการเดินทางสัญจรไปมาระหว่างปากป่ากับละหารไร่นั้นลำบากมาก เราได้เพียงไปกราบท่านปีละครั้ง แต่ละครั้งหลวงปู่ทิมท่านก็เมตตาให้คาถาสำคัญมาบ้าง ให้วัตถุมงคลและผงพรายกุมารมาบ้าง แม้เราไม่ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ท่านอย่างจริงจัง ท่านก็เมตตาด้วยดีเสมอมา ในด้านวัตถุมงคลที่เคยสร้างไว้เมื่อครั้งสมัยฝังลูกนิมิตเป็นเหรียญพัดยศ และสมเด็จ วันวางศิลาฤกษ์ศาลา เป็นของหลวงปู่ธรรมรังษี จากนั้นในปี พ.ศ.2555 ได้สร้างกริ่งขึ้นอีกประมาณ 500 องค์ เพื่อซื้อที่ดิน และปี พ.ศ.2556 ได้สร้างเหรียญขึ้นอีกชุดนึง เป็นที่ระลึกวัดปากป่าครบ 115 ปี จากนั้นก็ยังไม่ได้สร้างอะไรอีกเลย
หลวงพ่อใย ปัจจุบันอายุ 75 ปี ยังคงแข็งแรง หากวันไหนไม่ติดกิจนิมนต์ หลวงพ่อจะออกบิณฑบาต เหมือนกับพระลูกวัดทั่วไป ไม่ได้ถือตน ยังคงกวาดลานวัด กวาดใบไม้ หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็นกิจที่สมณะพึงปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าอาวาสหรือพระลูกวัดก็ตาม นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของเมืองระยอง ที่ซ้อนเร้นอยู่ในดงพงไพร "หลวงพ่อใย วัดปากป่า" |
|