(N)
#แรงสุดฉุดไม่อยู่ เหรียญสร้างบารมี ท่านพ่อโสต วัดเขาหินโค่ง
ครั้งแรกที่บรรจุมหายันต์เสือเท้วลงในเหรียญ มวลสารจากหลากหลายลูกศิษย์ลูกหา ที่รวบรวมมาร่วมบุญกัน เพื่อร่วมด้วยช่วยกันสร้างโบสถ์ให้แล้วเสร็จ
ที่สำคัญเงินในการจองจะได้รับร่วมสร้างโบสก์ 100% โดยไม่หักค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น
หลังจากเปิดแบบร่างแล้ว เหรียญตัวอย่างออกมาเรียกได้ว่าวิ่งหาจองกันให้ขวั่ก จนต้องเปิดยอดรายการสร้างออกมา สร้างไม่มากต่อไปหาไม่เจอ
รายการจัดสร้าง
1. เนื้อทองคำ (สร้างตามจอง)
2. เนื้อตะกั่วชนวนตะกรุดเก่า (สมนาคุณเนื้อทองคำ)
3. เนื้อมหาชนวน สร้าง 69 เหรียญ
เป็นชนวนมวลสารเหรียญเกจิต่างๆ จากลูกศิษย์ทุกท่านที่ส่งมาให้คนสร้าง ไม่ผสมอะไรเพิ่มเลย
4. เนื้อเงิน สร้าง 30 เหรียญ
5. เนื้อนวะ สร้าง150 เหรียญ ผสมแผ่นยันต์ ท่านพ่อโสต จำนวน 9 แผ่น
6. เนื้อทองเเดงผิวไฟ สร้าง 3,000 เหรียญ ผสมยันต์ทั้ง 108 แผ่นที่ทางผู้สร้างได้ออกไปเสาะหามา ตามคำบอกกล่าวของท่านพ่อโสต
7. อัลปาก้าฝังพลอย 30 เหรียญ (สมนาคุณบุญยกบิล)
ติดตามกันที่นี้ เร็วๆๆๆนี้
ประวัติท่านพ่อโสต วัดเขาหินโค่ง ต.คลองพลู อ.คิชฌกูฏ จันทบุรี ตอนที่ 1
โด่งดังตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ท่านได้บวชเรียนเป็นสามเณรเมื่ออายุ16 ปี บวชให้โดย ท่านพระครูพิศาล ธรรมคุณ วัดใหม่บูรพา เจ้าคณะอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ในสมัยเป็นเณร ท่านพ่อโสตท่านฝักไฝ่ไปในทาง วิชาคาถาอาคม จึงได้เสาะแสวงหา อาจารย์ทั้งพระสงฆ์ และฆราวาส ขั้นแรกท่านได้ไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์ พระอาจารย์ จุ๋ย วัดทุ่งเบญจา ท่านได้เมตตาสอนวิชาสักยันต์ และวิชา ถอนของ ถอนคุณไสย จาก พระอาจารย์จุ๋ย ทั้งสามเณรโสต ในขณะนั้น ท่านชอบไฝ่เรียนรู้ ต่อมาจึงได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ อาจารย์พัด ซึ่ง อาจารย์พัด นี้ เป็นเสือปล้นชื่อดังจังหวัดจันทบุรี และละแวกจังหวัดใกล้เคียง กล่าวถึง เสือพัด ท่านนี้ เคยอยู่และติดตาม เสือเท้ว จอมโจร โรบินฮู๊ด (ปล้นคนรวยแจกคนจน) ถึง 6 ปี ซึ่งตำราวิชาของเสือเท้วทั้งหมดท่านพ่อโสต ท่านได้รับสืบทอดมาจากเสือพัด กล่าวถึงสมัยเสือเท้วนั้น ท่านพ่อโสต เกิดทัน แต่ท่านโตไม่ทัน หลังจากเรียนวิชาเสือเท้วจากเสือพัดจนหมดสิ้น สามเณรโสต จึงได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ ท่านพ่อคง วัดวังสรรพรส อุปัฏฐากและคอยรับใช้จนท่านพ่อคงเมตตาสอนวิชาเสกเสือ วิชาขุนแผน หลังจากนั้นจึงได้กลับมาอุปัฏฐากและคอยรับใช้ พระอาจารย์จุ๋ยซึ่งอายุมากแล้วที่ วัดทุ่งเบญจา ในขณะนั้น พระอาจารย์จุ๋ย ท่านปรารภว่าจะเลิกสักยันต์ ให้ลูกศิษย์แล้ว ท่านจึงมอบหมายให้ สามเณรโสต ซึ่งขณะนั้น ได้ร่ำเรียนวิชาจากท่านจนหมดสิ้น อีกทั้งสามเณรโสต ท่านตั้งใจปฎิบัติ วัตร กิจของสงฆ์ ทั้งการเจริญภาวนาสมาธิ มิได้ขาด จึงได้รับความไว้วางใจจากพระอาจารย์จุ๋ย ให้รับช่วงสักยันต์ให้ลูกศิษย์ลูกหา
สักยันต์โพธิ์ดำ ที่กระเดือก
ด้วยความที่เป็นเพียงสามเณร ด้วยช่วงแรกๆ สามเณรโสต ก็ถูกปรามาส จากลูกศิษย์ ลูกหา ว่าจะเหนียวจรึงหรือ เหนียวแน่หรือ หลังจากสามเณรโสต ลงเข็มรูปโพธิ์ดำ ที่ลูกกระเดือกให้ลูกศิษย์คนแรก ท่านก็ปรารภว่าลองได้เดี๋ยวนี้ ตรงนี้เลยนะ สามเณรโสต มั่นใจ วิชาของครูบาอาจารย์ที่ได้ร่ำเรียนมา จึงพูดว่ากล้ากันรึเปล่าล่ะ
.. ผู้ที่ได้รับการสักยันต์ในวันนั้นจึงได้ ให้สามเณรโสต ใช้มีดดาบ คมกริบ ฟันที่หลังอย่างแรงหลายครั้ง ปรากฎว่ามีแค่รอย แดง โดยมีดดาบไม่ใด้กินเลือดเลย หลังจากนั้นผู้ที่ปรามาสท่านเอาไว้ จึงเชื่อสนิทใจ ว่ายันต์โพธ์ดำ ที่ลูกกระเดือกของสามเณรโสต เหนียวจริง จากวันนั้นชื่อของสามเณรโสต โด่งดังทั่ว จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง มีลูกศิษย์ผู้นิยมสักยันต์ไว้คุ้มครองตัว มาขอสักยันต์กับท่านนับร่วม 2,000 กว่าคน กล่าวคือหลังจากใครได้สักยันต์กับสามเณรโสต แล้วต้องถูกลองฟันหลังด้วยมีดคมกริบทุกราย |