กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : บล็อคของพระรูปเหมือนปั๊มเนื้อทองฝาบาตร หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รุ่นคุณพระเทพประทานพร ปี 2536

(N)

บล็อคของเนื้อทองฝาบาตรทั้งหมด มีประมาณ 12 บล็อค วันนี้ทำมาเฉพาะบล็อคส่วนใหญ่ที่สำคัญ ๆ ออกมาก่อน 8 บล็อค ซึ่งจะครอบคลุมพระส่วนมากถึง 98 % ส่วนที่เหลือค่อยทำเพิ่มเติมอีกในวันหลังครับ

1. บล็อคขีดขวางใหญ่ จำนวนที่พบมากที่สุด 24 %
2. บล็อคกลีบจีวรอ้า จำนวนที่พบประมาณ 22 %
3. บล็อคจมูกมีขีด จำนวนที่พบประมาณ 15 %
4. บล็อคสังฆาฏิมีปุ่ม จำนวนที่พบประมาณ 12 %
5. บล็อคแตกเอวแหลม จำนวนที่พบประมาณ 11%
6. บล็อคแขนสองขีด(พื้นเรียบ) จำนวนที่พบประมาณ 7 %
7. บล็อคขีดเฉียงขีดแหลม จำนวนที่พบประมาณ 5 %
8. บล็อครัดประคตแตก จำนวนที่พบประมาณ 2 %
บล็อคที่ 9 - 12 เป็นบล็อคที่พบน้อยคือมีจำนวนรวมกันทั้งหมดมีประมาณ 2 %
ถ้าหาเอกลักษณะที่ชัดเจนได้และตั้งชื่อแล้วจะนำมาลงเพิ่มเติมอีกในโอกาสต่อ ๆ ไป ครับ

โดยคุณ chokchai (6.6K)

[ศ. 19 พ.ย. 2553 - 19:15 น.]

โดยคุณ chokchai (6.6K)

[ศ. 19 พ.ย. 2553 - 19:18 น.] #1407269 (3/31)

(N)
3. บล็อคจมูกมีขีด เอกลักษณ์ คือ จะมีเส้นลากยาวตรงลงมาจากปลายจมูกเฉียงเล็กน้อยยาวไปจนเกือบถึงริมฝีปากบน และในช่องระหว่างริมฝีปากบนและริมฝีปากล่างส่วนมากจะมีเนื้อเกินเป็นลักษณะกลมยาวรี ๆ เล็ก ๆ ที่มุมปากซ้ายของหลวงพ่อแต่บางองค์จะมีลักษณะแบนยาวไปตลอดแนวริมฝีปากเลย พระบล็อคนี้ส่วนมากค่อนข้างสวยมาก จำนวนที่พบประมาณ 15 %

โดยคุณ chokchai (6.6K)

[ศ. 19 พ.ย. 2553 - 19:19 น.] #1407275 (5/31)

(N)
5. บล็อคแตกเอวแหลม เอกลักษณ์ คือ ที่บริเวณลำคอค่อนมาทางซ้ายของหลวงพ่อจะมีรอยดูเผิน ๆ จะเหมือนเป็นรอยร้าว แต่ที่จริงแล้วเป็นรอยของบล็อคที่แตกไม่ใช่รอยร้าวแต่อย่างใดและที่เอวด้าน ขวาของหลวงพ่อตรงผ้ารัดประคตจะมีปลายยื่นแหลมออกมาเห็นเด่นชัด จำนวนที่พบประมาณ 11%

โดยคุณ chokchai (6.6K)

[ศ. 19 พ.ย. 2553 - 19:23 น.] #1407283 (10/31)

พระเนื้อนวะโลหะกับเนื้อทองฝาบาตรเป็นเนื้อที่แข็งและทำยากที่สุด ฉนั้นหากพบพระในสองเนื้อนี้มีรอยรานที่คอบ้าง
ก็อย่าไปสนใจกับรอยนั้นมากนักเพราะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงยาก จะมีมากบ้างน้อยบ้างแทบทุกองค์
ซึ่งก็จะเหมือนกับพระก้นระฆังเนื้อทองเหลืองของหลวงพ่อพรหมก็จะมีรอยรานที่คอทุกองค์เหมือนกันครับ
ส่วนโค้ตที่ตอกก็เหมือนกัน เนื่องจากโค้ตที่ตอกนั้นใช้หลายอัน แต่ก็มีลักษณะเหมือนกันทุกอันเพราะถ่ายพิมพ์มาจากตัวแม่ตัวเดียวกัน
ตอนที่ตอกตอนแรก ๆ โค้ตก็จะดูคมชัดดี พอตอกไปนาน ๆ เข้า ใกล้จะเสียก็จะเป็นทราย ๆ ความคมชัดจะลดลง
ก็จะเปลี่ยนตัวใหม่เอามาตอกต่อแทน เพราะฉนั้นจะเห็นว่ามีโค้ตที่คมชัดมากบ้างหรือบางทีก็จะเจอที่เบลอเป็นทราย ๆ บ้าง ถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ
พระรุ่นนี้ปั๊มครั้งเดียวไม่มีการสร้างเสริมใด ๆ ทั้งสิ้น แค่ทำเนื้อทองฝาบาตรให้ครบเต็มตามจำนวน 20, 000 องค์ยังทำไม่ได้เลย
เพราะว่าถ่ายพิมพ์จนบล็อคตัวผู้พังไม่สามารถถ่ายพิมพ์ได้ต่อไปอีก จึงทำมาได้แค่เพียงสี่พันกว่าองค์
และเมื่อนำไปเข้าชุดทองคำเสีย 1,000 องค์ จึงเหลืออยู่ในแบบทั่วไปเพียง 3,000 กว่าองค์เท่านั้น
ในระยะยาว ๆ ถ้าพระกระจายตัวเต็มที่แล้ว ราคาพระเนื้อทองฝาบาตรก็จะใกล้เคียงกับเนื้อนวะโลหะมาก ๆ เลยทีเดียวครับ

โดยคุณ chokchai (6.6K)

[ส. 20 พ.ย. 2553 - 09:49 น.] #1408250 (11/31)

ผิวของพระเนื้อทองฝาบาตรมี 2 แบบ คือแบบชุบและแบบไม่ชุบ
พระในชุดทองคำจะเป็นแบบไม่ชุบทั้งหมด
ส่วนในพระธรรมดานั้นมีทั้งสองแบบ แต่แบบไม่ชุบจะมีจำนวนกว่ามากคือประมาณสองถึงสามร้อยองค์เท่านั้น
เพราะเป็นพระที่คัดมาเพื่อนำไปเข้ากับชุดทองคำแล้วเป็นจำนวนที่เหลือจากชุดทองคำ

โดยคุณ chokchai (6.6K)

[อา. 21 พ.ย. 2553 - 09:00 น.] #1409614 (14/31)

***แก้ไข พิมพ์ตกคำว่า "น้อย" ในบรรทัดที่ 3 **
ผิวของพระเนื้อทองฝาบาตรมี 2 แบบ คือแบบชุบและแบบไม่ชุบ
พระในชุดทองคำจะเป็นแบบไม่ชุบทั้งหมด
ส่วนในพระธรรมดานั้นมีทั้งสองแบบ แต่แบบไม่ชุบจะมีจำนวนน้อยกว่ามากคือประมาณสองถึงสามร้อยองค์เท่านั้น
เพราะเป็นพระที่คัดมาเพื่อนำไปเข้ากับชุดทองคำแล้วเป็นจำนวนที่เหลือจากชุดทองคำ

โดยคุณ chokchai (6.6K)

[พ. 08 ธ.ค. 2553 - 11:08 น.] #1434001 (19/31)

(N)

ประวัติการสร้าง

พระรุ่นนี้ไม่ได้เริ่มจากการที่มีโครงการจะสร้างวัตถุมงคลแล้วเข้าไปขออนุญาตสร้างนะครับ
แต่ เริ่มจากการที่ดร. พระมหาปรีชา (ในขณะนั้นท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดใหม่อมตรส)
ซึ่งเป็นหลานแท้ ๆ ของหลวงพ่อคูณ เคยหอบหิ้วกันไปลำบากลำบนที่ประเทศอินเดียกับหลวงพ่อเมื่อหลายสิบปีก่อน
ท่านได้ดูแลโรงเรียนพระปริยัติธรรมซึ่งอยู่ในความอุปถัมภ์ของหลวงพ่อคูณอยู่
ท่านก็มาเบิกค่าใช้จ่ายจากหลวงพ่อคูณอยู่เรื่อย ๆ
แล้ววันหนึ่งหลวงพ่อก็ได้ดำริว่าให้ท่านสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อขึ้นมา
เพื่อเป็นกองทุนไว้ใช้จ่ายในเรื่องของโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่ท่านดูแลอยู่นี้ขึ้นมา
เมื่อเป็นดังนั้นแล้ว ดร. พระมหาปรีชาจึงได้ปรึกษากับคนสนิทก็คือ คุณโอฬาร อากาศวิภาต อดีตวุฒิสมาชิกสมัยนายกฯเปรม และอดีตนายกสามคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทย
ให้ช่วยจัดการดำเนินการให้ แล้วถึงทำเป็นหนังสืออนุญาตสร้าง ในนามวัดบ้านไร่เสนอให้หลวงพ่อคูณลงนาม

แล้วจึงได้สร้างเหรียญออกมารุ่นหนึ่ง คือ รุ่นคุณพระเทพพิทักษ์ และออกให้บูชาได้รายได้มาจำนวนหนึ่งเล็กน้อย ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ให้โรงเรียนพระปริยัติธรรมอยู่ได้ด้วยตนเอง

จึงได้ทำการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาใหม่อีกรุ่นหนึ่งซึ่งก็คือรุ่นคุณพระเทพประทานพร นี่เอง

คำว่า "คุณพระเทพ"หมายถึง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่ท่านเสด็จมายังวัดบ้านไร่ ในปีนั้น

และรุ่นคุณพระเทพประทานพรนี่เอง ที่ทำให้บรรลุวัตถุประสงค์สามารถตั้งกองทุนบุญนิธิฯได้เพียงพอที่จะบริหาร จัดการในการที่จะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในด้านโรงเรียนพระปริยัติธรรม
ได้ต่อไปสมดังเจตนาของหลวงพ่อคูณที่ดำริไว้ทุกประการ

พระรุ่นนี้นอกจากหลวงพ่อคูณจะเป็นผู้บอกให้สร้างแล้ว
ท่านยังเมตตานั่งสมาธิเป็นแบบให้ ในการสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้อีกด้วย

และท่านยังเมตตาอย่างสูงเมื่อคุณโอฬารได้บอกกับหลวงพ่อว่ามีความประสงค์ที่จะขอจีวรที่หลวงพ่อท่านครองอยู่
เพื่อที่จะนำไปติดที่ก้นพระบูชา หลวงพ่อคูณท่านก็บอกว่ารอเดี๋ยวนะ แล้วท่านก็เข้าไปในกุฏิห้องนอนของท่าน แล้วก็ถอดเปลี่ยนจีวรใหม่
และออกมามอบจีวรที่ท่านครองอยู่ในวันนั้น ให้มาติดที่ก้นของพระบูชาของรุ่นนี้อีกด้วย

พระรุ่นนี้ได้รับความเมตตา ความตั้งใจและความเต็มใจที่จะให้สร้างอย่างมากมายอย่างล้นเหลือจากหลวงพ่อคูณเลยจริง ๆ

จากการที่พระรุ่นนี้หลวงพ่อคูณท่านเต็มใจและตั้งใจที่จะให้สร้างจริง ๆ พระที่ออกมาจึงได้มีความสวยงามและมีความเหมือนหลวงพ่อคูณมาก ๆ

ดูรูปที่ท่านนั่งสมาธิให้เป็นแบบกับพระรูปเหมือนปั๊มรุ่นนี้ จะแสดงออกถึงอารมณ์เดียวกันเลย
คือ อารมณ์ที่ท่านอยู่ในภวังค์ของสมาธิและเปี่ยมไปด้วยความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง

ใครที่ได้ห้อยบูชาพระรุ่นนี้ก็จะรู้สึกเหมือนมีหลวงพ่อไปด้วยในทุก ๆ หน ทุก ๆ แห่ง ด้วยตลอดเวลาเลย ถือว่าเปี่ยมล้นด้วยคุณค่ามาก ๆ เลย

โดยคุณ chokchai (6.6K)

[พ. 08 ธ.ค. 2553 - 11:18 น.] #1434014 (20/31)

(N)
ลำดับการปั๊มในแต่ละเนื้อ

เนื้อทองแดงปั๊มก่อนเป็นเนื้อแรกจึงมีความสวยงามมากที่สุด
อีกทั้งยังรมน้ำตาลหรือเรียกว่ารมมันปูตามอย่างรูปหล่อก้นระฆังของหลวงพ่อพรหมอีกด้วย

ถัดมาก็เป็นเนื้อนวะโลหะเสร็จแล้วก็ตามด้วยเนื้อเงิน
แล้วจึงปั๊มเนื้อทองคำ

ส่วนเนื้อทองฝาบาตรปั๊มเป็นเนื้อสุดท้าย ปั๊มได้แค่เพียงสี่พันกว่าองค์
(และเมื่อนำไปเข้าชุดทองคำเสีย 1,000 องค์ จึงเหลืออยู่ในแบบทั่วไปเพียง 3,000 กว่าองค์เท่านั้น)

ปรากฏว่าบล็อกชำรุดยิ่งเร็วมาก จนช่างบอกว่าไม่ไหวแล้วและบล็อคตัวผู้ก็พังมากแล้วด้วย
จึงขอพอแค่นี้พระเนื้อทองฝาบาตรส่วนใหญ่สีจะไม่สวยกระดำกระด่าง

จึงได้คัดส่วนที่สีพอดูได้นำไปเข้าชุดทองคำและส่วนพระที่กระดำกระด่างก็นำไปจ่าเงาอีกทีเพื่อให้สวยงามขึ้น

(จ่าเงาคือการนำโลหะไปจุ่มลงในกรดกัดเงา จะทำให้ผิวสุกสะอาดและเป็นเงางามขึ้น)

โค้ดที่ใช้ตอกทั้งหมด
เป็นโค้ด ตัว มิ ตัวเดียว มีทั้งหมดจำนวน 10 อัน
โค้ตตัว อุ และ ตัว นะ มีทั้งหมดอย่างละ 15 อัน

ลักษณะจะเหมือนกันทุกอันเพราะถ่ายพิมพ์จากแม่พิมพ์ตัวเดียวกัน

(แยกเนื้อด้วยการตอกสลับตำแหน่งให้แตกต่างกันในแต่ละเนื้อ)

ตอนที่ตอกโค้ดในตอนแรก ๆ ก็จะคมชัดดี โดยเฉพาะเนื้อทองแดงโค้ตจะคมชัดมากเพราะว่าตอกก่อนเนื้ออื่น ๆ

พอตอกไปนาน ๆ เข้าโค้ตใกล้จะเสียก็จะเป็นทราย ๆ
ความคมชัดจะลดลง ก็จะเปลี่ยนตัวใหม่เอามาตอกต่อแทน

สังเกตุเปรียบเทียบดูได้จากโค้ตที่ตอกในพระชุดทองคำ ก็เป็นโค้ตที่ตอกแล้วมีลักษณะหยาบเหมือนทราย ๆ เหมือนกัน เป็นตอกหลัง ๆ เหมือนกัน

(คนที่ตอกโค้ดทั้งหมดมีสี่คน)

โดยคุณ chokchai (6.6K)

[พ. 08 ธ.ค. 2553 - 11:41 น.] #1434042 (22/31)

(N)
(ภาพเครดิตโดยคุณ toy2k)

พิธีปลุกเสกก็ถือว่าสุดยอด โดยพิธีปลุกเสกเริ่มตั้งแต่บ่ายของวันที่ 6 พ.ย. 2536

โดยพระสงฆ์สวดพุทธมนต์เจริญมงคลคาถาชินบัญชร 999 จบต่อเนื่องไปจนถึงเช้าวันที่ 7 พ.ย.

แล้วเวลาประมาณตีห้ากว่า ๆ หลวงพ่อคูณ ก็มาทำพิธีปลุกเสกเดี่ยวอีกประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง
จึงแล้วเสร็จพิธี

โดยคุณ chokchai (6.6K)

[พ. 08 ธ.ค. 2553 - 12:08 น.] #1434075 (23/31)

(N)

เหตุผล 3 ข้อที่ทำให้พระรุ่นนี้เล่นได้อย่างสบายใจไม่ต้องกังวลว่าจะมีของเสริม

ข้อที่ ๑. บล็อคตัวผู้พัง พระรุ่นนี้ปั๊มครั้งเดียวไม่มีการสร้างเสริมใด ๆ ทั้งสิ้น
เพราะแค่ทำเนื้อทองฝาบาตรให้ครบเต็มตามจำนวน 20, 000 องค์ยังทำไม่ได้เลย
เพราะว่าถ่ายพิมพ์จนบล็อคตัวผู้พังไม่สามารถถ่ายพิมพ์ต่อไปได้อีก
จึงทำมาได้แค่เพียงสี่พันกว่าองค์และเมื่อนำไปเข้าชุดทองคำเสีย 1,000 องค์
จึงเหลืออยู่ในแบบทั่วไปเพียง 3,000 กว่าองค์เท่านั้น

ข้อที่ ๒. ความนิยมในช่วงแรก ๆ มีน้อย พระรุ่นนี้ออกในช่วงที่เวลาตลาดซบเซาพอดี
พระออกมาแล้วราคาจึงแป๊ก ส่วนมากจะขายกันไม่ค่อยได้ บางคนก็ขายแบบยอมขาดทุนออกไปก็มี
เวลาผ่านไปถึง 15 ปี พระถึงเริ่มจะมีราคามีความนิยมขึ้นมา
ในอดีตตอนนั้นคงไม่มีใครทำพระเสริมออกมา ในขณะที่พระขายไม่ได้หรอกครับ
และอีกอย่างหนึ่งคือประธานจัดสร้างฝ่ายฆราวาสของรุ่นนี้ นั้นเป็นถึงอดีตวุฒิสมาชิกและอดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทย
ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ขนาดนั้นแล้ว ท่านไม่ทำพระเสริมขึ้นมาแน่นอนครับ

ข้อที่ ๓. ช่างที่แกะบล็อคและปั๊มพระรุ่นนี้ คือ ช่างตุ้มเจ้าของโรงงานโสภณโลหะภัณฑ์
เป็นลูกศิษย์ของช่างประสานผู้แกะบล็อคพระก้นระฆังของหลวงพ่อพรหมและหลวงพ่อเงินบางคลาน ปี 15
ช่างตุ้มฝีมือยอดเยี่ยม ชื่อเสียงดีมาก โรงงานโสภณโลหะภัณฑ์ก็เป็นโรงงานเกรด A
ปั๊มพระรุ่นดัง ๆ มาแล้วมากมาย เช่น เหรียญรูปไข่เลื่อนสมณศักดิ์อาจารย์นอง
เหรียญบาตรน้ำมนต์และพระจตุคามของวัดพุทไธสวรรย์ทั้งหมด
พระรูปเหมือนปั๊มหลวงปู่คำพันธ์รุ่นแรก พระรูปเหมือนปั๊มหลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์รุ่นแรก
พระส่วนใหญ่ของวัดกลางบางแก้ว พระปั๊มส่วนใหญ่ของวัดสุทัศน์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ไม่เคยปรากฏเลยว่ามีของเสริมออกมาแม้แต่รุ่นเดียว
ถ้าเลยวันปลุกเสกไปแล้ว จะไปจ้างเขาแพงเท่าไหร่ เขาก็ไม่ยอมปั๊มให้หรอก เขารักษาชื่อเสียงเป็นอย่างดีมาโดยตลอดครับ

พระรุ่นนี้เก็บได้อย่างสบายใจปั๊มครั้งเดียวจบไม่มีของเสริม
และยังเป็นรุ่นที่หลวงพ่อบอกให้สร้าง อีกทั้งท่านยังนั่งสมาธิเป็นแบบให้เป็นการโดยเฉพาะ
พระก็เหมือนหลวงพ่อมาก ๆ และใบหน้าหลวงพ่อก็แสดงถึงความเมตตาอย่างล้นเหลือ
อีกทั้งยังเป็นพระรูปเหมือนปั๊มนั่งสมาธิรุ่นแรกของท่านอีกด้วย
เพราะศักดิ์ศรีของการเป็นปั๊มรุ่นแรก จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากมายมาจนถึงทุกว้นนี้
บางคนยังบอกว่าพระรุ่นนี้ราคาจะไปไกลเหมือนกับพระรูปเหมือนปั๊มก้นระฆังของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อีกด้วยครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!