(N)
ประวัติ หลวงพ่อทองใบ วัดป่าประชาสันติธรรม จ.บุรีรัมย์ กับ เหรียญเสมาชินบัญชร เศรษฐีมหาเศรษฐี
♤♤♡♡ ชีวประวัติหลวงพ่อทองใบ ได้พิจารณา และตรวจทานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว....
พระครูวารีศรีภิรมย์ (หลวงพ่อทองใบ ฐานธมฺโม)
ท่านเป็นชาว มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
สถานะเดิม ท่านชื่อ นายทองใบ อ่อนลมูล
◇ บิดา ชื่อนายใส อ่อนลมูล
◇ มารดา ชื่อนางจันที อ่อนลมูล
ท่านเกิด วันที่4มีนาคม2494 ต.หนองแปน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ท่านบวชเณรตอนปี พ.ศ 2511และครบอายุบวชก็อุปสมบท เมื่อ วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2513 ณ.วัดศรีบุญเรือง จ.ขอนแก่น
☆ พระอุปัชฌาย์ พระมุนีวรญาณเถระ
☆ ประกรรมวาจารย์ พระปลัดบุญมา ปิงติโย
☆ ท่านสังกัดวัดป่าอุดมคงคาวารี ต.หนองแปน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และได้ฝึกปฏิบัติกรรมฐานกับ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ได้ออกวิเวกธุดงค์ตามจังหวัดต่างๆได้มีโอกาสเข้ากราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์อบรมกรรมฐานเพิ่มเติมจากครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อทิ
☆หลวงปู่มหาโส กสัสโป วัดป่าคำเเคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
✩หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
☆ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
☆ หลวงปู่บุญมา ปุญญวันโต วัดป่าภูหัน ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น
☆หลวงปู่หลือง ฉนฺทาคโม อ.บ้านด่านจ.บุรีรัมย์ เป็นต้น
☆หลวงพ่อทองใบ ฐานธมฺโม ใด้มาจำพรรษาอยู่วัดโนนเขวา ต.ดอนมนต์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เมื่อ ปี พ.ศ.2520 ต่อมาใด้ดำรงต่ำแหน่งเจ้าคณะตำบลสตึก
☆ หลวงพ่อทองใบท่านได้เที่ยววิเวกรุกขมูลธุดงค์มาปักกรดที่ป่าช้าหนองปูนเมื่อวันที่ 12พฤศจิกายน2528 ซึ่งในอดีตสมัยนั้นป่าช้าหนองปูนเป็นป่าใหญ่มีไม้เต็งไม้รังขึ้นหนาแน่นมีทางเกวียนผ่านสัญจรระหว่างหมู่บ้านป่าแห่งนี้จะมีหนองน้ำคนเดินทางก็มักแวะพักให้วัวควายม้าได้กินน้ำกินหญ้าและมักจะมีโจรคอยดักปล้นฆ่าเอาทรัพย์สินแล้วนำศพไปทิ้งในหนองน้ำน้ำกลายเป็นสีแดงเหมือนน้ำปูนที่เคี้ยวหมากชาวบ้านเรียกขานว่าป่าช้าหนองปูนเมื่อมีคนตายชาวบ้านในระแวกนั้นก็นิยมนำศพมาฝังไว้ในป่าช้าแห่งนี้ เมื่อหลวงพ่อทองใบมาปักกรดเจริญภาวนาพระกรรมฐานจนชาวบ้านเกิดความศัรทธาเลื่อมใสในข้อวัตรปฎิบัติของหลวงพ่อได้นิมนต์ให้อยู่จำพรรษาที่ป่าช้าหนองปูนและเริ่มสร้างกุฎิเล็กๆมีพื้นที่ป่าไม้เต็งไม้รังประมาณ400กว่าไร่
เริ่มสร้างศาลาได้เกิดอุปสรรคทำให้การก่อสร้างล่าช้า... ชาวบ้านได้จัดพิธีบวงสรวงเทพภูมิ ชาวบ้านได้รวบรวมเงินซื้อหัวหมู ผลไม้ บายศรีต่างๆ เมื่อถึงเวลาบวงสรวงนั้นได้มีงูขนาดเล็กเท่าหัวนิ้วโป้เท้าคนเรา เลื้อยเข้ามาบริเวณพิธีบวงสรวง ชาวบ้านได้ใช้ไม้กวาด กวาดไล่ออกไปสักพัก งูตัวเดิมก็กลับมาอีก หมอทรงธรรม จึงร้องบอกชาวบ้านว่า " ให้เขาเข้ามา " เจ้าที่เขามาแล้ว งูตัวนั้นก็เลื้อยเข้ามาอยูใต้กองบายศรีบวงสรวง " งูตัวนั้นมีลักษณะพิเศษเป็นอย่างมากไม่เหมือนงูธรรมดาทั่วไป มีหงอนสีแดงเหมือนไก่แจ้ "
เมื่อทำพิธีเสร็จชาวบ้านที่มุงดูก็พากันหางูตัวนั้น หาเท่าไรก็หาไม่เจอเป็นที่อัศจรรย์ใจยิ่งนัก
ตกดึก หลวงพ่อทองใบ ท่านนิมิต ได้ยินเสียงแคนอันไพเราะมากท่านจึงเดินตามเสียงแคนนั้นไป ตรง บริเวณที่จะสร้างศาลา พบว่า เป็นเต่ากำลังเป่าแคน หลวงพ่อนึกในใจว่า "เต่านี้ไม่ธรรมดาเป่าแคนได้ " เท่านั้นแหละเต่าก็หยุดเป่าแคนทันที
แต่ก็ได้มีสิ่งประหลาดมุดดินมาเสียงดังคลืนๆๆ แล้วมาโผ่ขึ้นตรงหน้าหลวงพ่อทองใบ เป็นงูขนาดใหญ่มหึมา มีหงอนเหมือนไก่แจ้ พูดขึ้นมาว่า " เฮานี้แหละตัวขัดขวาง " หลวงพ่อได้ยินดังนั้น... ก็ได้พูดขึ้นมาว่า ก็ดีแล้ว มาอยู่มากินให้สำราญ แล้วท่านก็ล่วงเอาข้าวตอกแตก (ข้าวกระยาสาท) หว่านลงตามพื้น ปรากฎว่างูใหญตัวนั้นจิกกินข้าวตอกแตกเหมือนไก่ สักพักก็มีบริวานตัวเล็กตัวน้อยเลื้อยลงมาจากต้นไม้เป็นจำนวนมาก งูนั้นมีหงอนเหมือนไก่แจ้ทุกตัว ลงมากินข้าวตอกแตก กินอิ่มแล้วก็เลื้อยขึ้นต้นไม้ตามเดิม
... พอรุ่งเช้า... ลุงกำนันสู มาบริเวณศาลาได้พบที่ตรงบริเวณบวงสรวงมีรอยงูขนาดใหญ่พอๆกับบาตรพระเป็นรอยทางยาว จึงได้นำเรื่องไปแจ้งให้หลวงพ่อทองใบรับทราบ
พอท่านทราบท่านก็เล่านิมิตให้ลุงกำนันฟังและหลวงพ่อก็กล่าวว่า ต่อไปวัดเราจะเจริญ
และหลวงพ่อทองใบได้พัฒนาเรื่อยมาจนเป็นวัดป่าประชาสันติธรรมตามบัญชาของ หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม และต่อมาได้ดำรงต่ำแหน่งเจ้าคณะอำเภอสตึก ( ธ ) ปี พ.ศ.2534 และย้ายมาดำรงต่ำแหน่งเจ้าคณะอำเภอคูเมือง - แคนดง ( ธ ) ปี พ.ศ.2557
☆ ปัจุบันท่านดำรง พระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ท่านปฏิบัติ ตามกิจของสงฆ์ไม่ขาดตกบกพร่อง ส่วนมากท่านจะเจริญภาวนา กรรมฐาน และ โปรดคณะศิษยานุศิษย์คณะศรัทธาญาติโยม สอนกรรมฐานเป็นประจำที่แวะเวียนเข้ามา
ตอนนี้ท่านได้ก่อสร้างพระอุโบสถไปแล้ว 70% ยังต้องการปัจจัยเพิ่มเติมอีกมาก ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยครับ
☆☆ และ เป็นโอกาศอันดีครับ ท่านเมตตาให้จัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อหารายได้สร้างพระอุโบสถ เป็นรุ่นแรกที่ให้จัดสร้าง และ มอบมวลสาร แร่กายสิทธิ์
ได้รับความเมตตาจาก ครูบาอาจารย์ ท่านอธิฐานจิตมวลสารแร่กายสิทธิ์ดังนี้
1. หลวงปู่ดูน อนีโฆ สำนักสงฆ์คงคำโคกทม จ.บุรีรัมย์
2. หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย วัดป่าโคกหม่อน จ. สุรินทร์
3. หลวงปู่สาร มนุตชาโต สำนักสงฆ์บ้านตางมาง จ. สุรินทร์
4. หลวงปู่เพียง ปิยะธัมโม วัดบ้านหว้า จ. ศรีสะเกษ
5. หลวงปู่คำสิงห์ ฐิตธมฺโม วัดปลาซิว จ. ศรีสะเกษ
6. หลวงพ่อทองใบ ฐานะธัมโม วัดป่าประชาสันติธรรม จ.บุรีรัมย์
7. หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม วัดกระดึงทอง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์
8.หลวงปู่สอ คัมภีรบุญโญ วัดบ้านขาม อ.จอมพระ จ.สุรินทร์
9.หลวงปู่ขำ เกสาโร วัดหนองแดง อ.นาเชือกจ.มหาสารคาม
10.หลวงปู่ลมัย จันทรโร วัดโคกตาเขียว อ.สังขะ จ.สุรินทร์
ขอเรียนเชิญคณะศิษยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบุญสร้างพระอุโบสถ โดยตรงกับ พระครูวารีศรีภิรมย์(หลวงพ่อทองใบ ฐานธัมโม)วัดป่าประชาสันติธรรม ต. ตูมใหญ่ อ. คูเมือง จ. บุรีรัมย์
หรือโอนผ่านบัญชี
ธ.กรุงไทย
เลขทีบัญชี 330 -1-10090-2
ชื่อบัญชี พระครูวารีศรีภิรมย์
สาขา สตึก
ขออนุโมทนาบุญกับคณะศิษยานุศิษย์ และผู้ มีจิตศรัทธาทุกๆท่าน ในการสร้างพระอุโบสถ เพื่อใช้ในงาน พระพุทธศาสนาสืบไป ...สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
............................................................................
ประวัติท่าน เรียบเรียงโดย หรั่ง ณโม / ชูชาติ |