ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : หลวงปู่เง็ก วัดระนาม



(N)


พระครูอินทคณานุสิชฌน์ หรือหลวงปู่เจ็ก (หลวงพ่อเจ็ก) อาจารสุโภ อดีตเจ้าอาวาสวัดระนาม หมู่ ๖ บ้านระนาม ตำบลชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวจังหวัดสิงห์บุรีและจังหวัดใก้ลเคียงให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก ท่านเปี่ยมไปด้วยความเมตตากับญาติโยมทุกๆ คนที่ไปหาท่านไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใดให้ความเมตตาเท่ากันหมด "นายทองอินทร์ สุขุม" เป็นชื่อและนามสกุลเดิมของหลวงปู่เจ็ก เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๐ ที่บ้านเดิมบางนางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โยมบิดาชื่อ นายมะกล่ำ โยมมารดาชื่อ นางถุงเงิน มีพี่น้องทั้งหมด ๗ คน ท่านเป็นคนที่ ๖ โดยที่มาของชื่อ "เจ็ก" นั้น นอกจากตั้งตามเชื้อสายเป็นลูกชาวจีนแล้ว ยังตั้งตามความเชื่อที่ว่า "ถ้าชื่อเด็กไพเราะเพราะพริ้งจะเลี้ยงยาก ขี้โรค และถ้าตั้งชื่อลูกให้มีความหมายน่าเกลียดน่าชังเด็กคนนั้นๆ จะไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วย จะเลี้ยงง่าย เมื่ออายุมากขึ้นทางบ้านเห็นว่าน่าที่จะต้องรู้หนังสือพออ่านออกเขียนได้ไว้บ้าง พี่สาวกับพี่เขยจึงฝากให้เรียนหนังสือกับหลวงพ่อปั้น และหลวงพ่อมา ที่วัดเสือข้าม ต.ประสบสุข อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จนกระทั่งอายุครบ ๒๐ ปี ก็บวชเป็นพระที่วัดระนาม โดยมีหลวงพ่อใย อดีตเจ้าอาวาสวัดระนามเป็นพระอุปัชฌาย์ พระวินัยธรเขียว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาพรหม วัดบางคู เป็นพระอนุสาวนาจายร์ ได้ฉายาว่า "อาจารสุโภ" บวชได้ ๑ ปี ก็ถูกเกณฑ์เป็นหทาร เมื่อครบกำหนด ๒ ปี ท่านก็กลับไปบวชเป็นครั้งที่ ๒ เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๗ โดยมีหลวงพ่อใย อดีตเจ้าอาวาสวัดระนามเป็นพระอุปัชฌาย์ พระคู่สวดก็รูปเดิม นอกจากศึกษาด้านปริยัติจนสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ หลวงปู่เจ็กยังเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแบน วัดเดิมบาง (อาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อกวย) หลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ หลวงพ่อใย วัดระนาม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อพรหม วัดบางปูน ซึ่งอาจารย์ของท่านที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นพระที่เป็นตำนานของสุดยอดพระเกจิทั้งสิ้น หลวงปู่เจ็ก เป็นพระอริยสงฆ์ที่ทรงอภิญญาสูงมาก ท่านอายุยืน ท่านมรณภาพนับอายุได้ร้อยกว่าปี และมีเมตตาเป็นปกติ ไม่ชอบความวุ่นวาย มีความเป็นอยู่เรียบง่าย สมถะเป็นที่สุด วันทั้งวันถ้าไม่มีกิจอะไรท่านจะนั่งภาวนาตลอด เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนทั่วประเทศ ฌานสมาบัติของท่านนั้นเยี่ยมยอดมากๆ หลายท่านเจอกับตนเอง เช่น ก่อนไปตั้งใจจะไปหาท่าน เพื่อให้ท่านสงเคราะห์เรื่องต่างๆ พอไปเห็นหน้าท่าน ท่านสามารถบอกได้หมดว่าต้องการให้ท่านสงเคราะห์เรื่องอะไร ทั้งๆ ยังไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย อย่างไรก็ตามเมื่อครั้งที่หลวงปู่เจ็กมีชีวิตอยู่มักมีผู้นิยมไปกราบไหว้ขอพร และยากได้ยินคำที่หลวงปู่เจ็กพูดว่า "ขอให้โชคดีนะโยม กลับบ้านให้มีเงินทองใช้มากมาย แต่อย่าลืมทำบุญนะ" ปรากฏว่าผู้ที่ได้รับพรจากหลวงปู่ไปเมื่อกลับมากราบหลวงปู่อีกครั้งกลับกลายเป็นคนมีฐานะดีกว่าที่มากราบหลวงปู่ครั้งแรก เรื่อวาจาสิทธิ์นี้เป็นที่กล่าวขานของคนจังหวัดสิงห์บุรีและใกล้เคียงมาถึงทุกวันนี้ ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากนายมนัส พันธุ์กลาง ผู้ที่สนใจข้อมูลการจัดสร้างพระหลวงปู่เจ็กวัดระนาม ทุกๆ รุ่น สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.๐๙-๐๘๐๔-๓๔๙๙ หลวงปู่เจ็กศิษย์หลวงพ่อใย วัดระนาม เมื่อครั้งที่พระครูสิงหราชมุนี หรือหลวงพ่อใย พรหมสร อดีตเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี อดีตเจ้าวัดระนามนั้น ขึ้นชื่อว่าเจริญสุดขีด การศึกษาของวัดเจริญรุ่งเรืองมาก หลวงพ่อใยท่านเป็นนักส่งเสริมการศึกษาทั้งพระเณรและฆราวาส มีทั้งโรงเรียนมัธยม โรงเรียนทอผ้า ซึ่งเป็นแห่งแรกที่เป็นโรงเรียนทอผ้าผู้หญิง เปิดสอนครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๑ โดยใช้ชื่อว่า “โรงเรียนช่างทอผ้าสิงห์บุรี” มีครู ๑ คน นักเรียน ๓๐ คน ณ สถานที่ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งสำนักงานเทศบาลเมืองสิงห์บุรี โรงเรียนมัธยมชื่อโรงเรียนประสิทธิวิทยา รวมทั้งโรงเรียนสิงหราชประชานุเคาะห์ นอกจากนี้ยังตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมสอนให้พระเณรจบนักธรรม สอบบาลีได้มหาเปรียญมากมาย ในเรื่องของการสอนวิปัสสนากรรมฐานนั้น หลวงพ่อใยท่านก็เป็นพระนักปฏิบัติได้สอนวิปัสสนากรรมฐานอย่างสม่ำเสมอ ถึงกับได้ชื่อว่า "วัดระนามเป็นศูนย์กลางการผลิตนักเรียนนักศึกษาก้าวสู่โลกภายนอก" ลูกศิษย์ ๒ รูป ของหลวงพ่อใย คือ พระครูอุดม กับหลวงปู่เจ็ก จึงได้เรียนวิปัสสนากรรมฐานโดยปริยาย และด้วยเหตุที่วัดตั้งอยู่ใกล้ๆ กับวัดเสือข้าม จึงได้แลกเปลี่ยนสนทนาธรรมกับพระเกจิ ๒ รูป แห่งวัดเสือข้าม คือ หลวงพ่อมาและหลวงพ่อปั้น หลวงพ่อใย เป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อโฉม วัดตาคลีใหญ่ ซึ่งท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ในยุคนั้น วัตถุมงคล ท่านสร้างใว้น้อยมากเพียงไม่กี่ชนิดท่านจะสร้างเฉพาะตามวาระสำคัญๆ เช่น ผ้าขาวตราโบสถ์แจกเมื่อคราวรับสมณศักดิ์เป็นพระครูอินทรภารพินิจ พ.ศ.๒๔๕๘ มีคุณวิเศษในทางป้องกันลมพายุใด้อย่างชะงัดนัก ต่อมาในคราวทำบุญอายุครบ ๖๐ ปี และเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๖ ใด้มีการสร้างวัตถุมงคลไว้แจกแก่ผู้มาร่วมงานแสดงมุทิตาจิต มีสองชนิดคือ เหรียญรุ่นแรกและพระปิดตามหาอุด จำนวนการสร้างไม่ทราบชัดประมาณว่าเหรียญสร้างไม่น่าเกิน ๒๐๐๐ เหรียญ ส่วนพระปิดตามีมากกว่าเล็กน้อย ปาฏิหาริย์แห่งพระหลวงปู่เจ็ก "ล็อกเกตทุกรุ่นของหลวงปู่เจ็กนี้ผู้ที่แขวนคอไว้ เมื่อประสบอุบัติเหตุทางด้านรถชนจะรอดตายทุกราย ในขณะที่เหรียญรุ่นหนึ่งที่เขาเรียกว่ารุ่น เง็ก มีอภินิหารมากจริงๆ เหรียญรุ่นนี้สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ มีหลายคนคิดว่าหลวงปู่นี้คงสร้างออกมาเฉยๆ คงไม่มีอภินิหารอะไร แต่ที่ไหนได้มีคนเอาใส่หมวกกันน็อกโยนขึ้นฟ้าแล้วเอาปืนยิงนับร้อยๆ นัด แต่ยิงไม่ถูก เป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นอย่างมาก" นี่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเล่าของพุทธคุณแห่งพระเครื่องที่จัดสร้างโดยหลวงปู่เจ็ก วัดระนาม พระอริยสงฆ์ ๕ แผ่นดิน แห่งเมืองสิงห์บุรี พระเครื่องและวัตถุมงคลขอหลวงปู่เจ็กขึ้นชื่อว่าพุทธคุณสูงมากๆ โดดเด่น ด้านแคล้วคลาด มหาอุด เมตตา โชคลาภยิ่งนัก เช่น เหรียญรุ่น ๑ ของหลวงปู่เจ็ก เป็นเหรียญที่เขียนชื่อท่านผิดไปจากคำว่า "เจ็ก" เป็นเง็ก" แต่เป็นที่นิยมของบรรดาศิษยานุศิษย์ และประชาชนทั่วไปเป็นอันมาก จนเหรียญรุ่นนี้หมดจากวัดเป็นเวลาอย่างรวดเร็ว ส่วนรูปหล่อเหมือนหลวงปู่เจ็กสำหรับติดหน้ารถนั้น เป็นรุ่น "ซ่อหอประชุม" มีอภินิหารมากเช่นกัน โดยในวันที่ผู้สร้างแบบมาขอถ่ายรูปหลวงปู่ ไม่ติดภาพหลวงปู่สักใบ ทั้งๆ ที่ฟิล์มถ่ายรูปก็ไม่เสียแต่อย่างใด ในขณะที่วัตถุมงคลรุ่นไพรพ่ายซึ่งเป็นรุ่นแรกนั้นก็มีอภินิหารแปลกๆ ให้ได้เห็น เช่น ตอนที่สร้างครั้งแรกนั้นหลวงปู่เทผงลงเบ้าไม่หมดจึงไม่ดังเท่ามี่ควร ท่านจึงนำมาเข้าพิธีหล่อใหม่ ปรากฏว่าช่างรมดำไม่ติดองค์พระของท่านเลย นอกจากนี้แล้วมีดหมอหลวงปู่เจ็กที่ท่านสร้างครั้งแรกนั้นก็มีอภินิหารมากมาย

โดยคุณ ปฐมกรรมฐาน (231)  [อ. 27 ต.ค. 2558 - 17:35 น.]



!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1