(N)
หลวงปู่ทิม เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2456 อุปสมบท เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2491 โดยมี พระครูอุดมสมาจารย์ วัดน้ำเต้า เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.๒๔๙๒ สอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2493 สอบได้นักธรรมชั้นโท พ.ศ.2500 สอบได้นักธรรมชั้นเอก
ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2504 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระขาว พ.ศ. 2510 ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลน้ำเต้า และตำบลพระขาว ทั้งได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2512 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ "พระครูสังวรสมณกิจ"
พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นโทในราชทินนามเดิม และที่นับเป็นเกียรติประวัติอันสำคัญยิ่งสำหรับหลวงปู่ผู้ได้ชื่อว่าเป็นพระนักพัฒนา คือในพ.ศ.2549 ได้รับการถวายปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมศาสตร์ เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
ต่อมา พ.ศ.2550 หลวงปู่ยังได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร ในฐานะผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สาขาสงเคราะห์ประชาชน และส่งเสริมพัฒนาชุมชน โดยได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ตลอดเวลาที่ผ่านมา หลวงปู่ทิมได้รับการยกย่องว่าเป็น "เทพเจ้าแห่งความเมตตา" เป็นพระเถระผู้มีความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ให้ความเมตตาช่วยเหลือสงเคราะห์อนุเคราะห์แก่ญาติโยมชาวบ้านมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจนิมนต์ต่างๆ เมื่อได้รับแล้วท่านจะต้องไปสนองศรัทธาญาติโยมเสมอ ไม่ว่าใกล้หรือไกล ไม่เคยปฏิเสธเลย ขณะเดียวกันก็ไม่เคยละเลยการปฏิบัติศาสนกิจใดๆ ที่พระสงฆ์ทั้งหลายพึงปฏิบัติ แม้หลวงปู่จะสูงด้วยพรรษายุกาลมากแล้วก็ตาม
กิจนิมนต์สำคัญอย่างหนึ่งที่หลวงปู่ได้รับโดยตลอด คือ งานพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ จะต้องมีชื่อของหลวงปู่นั่งปรกปลุกเสกเป็นประจำ ชื่อเสียงของหลวงปู่จึงปรากฏขจรขจายอย่างกว้างไกล ด้วยเหตุดังกล่าว วัดพระขาวที่หลวงปู่ปกครองดูแล จึงเป็นวัดที่มีการพัฒนาสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองตลอดเวลา เพราะแรงศรัทธาของชาวบ้าน และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ที่มีต่อหลวงปู่ ได้ร่วมแรงร่วมศรัทธาทำบุญบำรุงพระพุทธศาสนา บำรุงวัด จนมีเสนาสนะ และถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถหลังใหม่อันงดงาม วิหาร หมู่กุฏิสงฆ์ทรงไทยที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหมด เป็นแถวยาวอย่างมีระเบียบสวยงาม หอพระ ศาลา เมรุ มณฑป เขื่อนกั้นน้ำ แพปลา โรงครัว หรือแม้กระทั่งห้องสุขาห้องน้ำที่มีความสะอาด และถูกสุขลักษณะ
นอกจากนี้ยังรวมถึงสาธารณประโยชน์ ที่หลวงปู่ได้เมตตาให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนรอบวัด ที่สำคัญ คือ โรงเรียนวัดพระขาว แหล่งการศึกษาของบุตรหลานชาวบ้านในท้องถิ่น หลวงปู่ก็ได้ให้ความอุปถัมภ์ทั้งในเรื่องงานก่อสร้างอาคาร และทุนการศึกษามาโดยตลอด |