(N)
เปิดตำ นาน พระสุนทรีวาณี
ความเป็นมาของ พระสุนทรีวาณี ก่อนมาเป็นวัตถุมงคลดัง
นักสะสมชอบนั้น พระเกจิอาจารย์จากอดีตจวบจนปัจจุบันนิยมสร้าง
วัตถุมงคล พระสุนทรีวาณี มอบให้ลูกศิษย์ลูกหาพกพาติดตัว บาง
ครั้งก็ทำขึ้นประดิษฐานบนฝาครอบบาตรนํ้ามนต์ เพื่อความเป็นสิริ
มงคล
โดยเฉพาะ พระคาถาสุนทรีวาณี สำคัญมาก ว่ากันว่าท่าน
ใดท่องพระคาถาแล้วจักเกิดความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์แก่ผู้เจริญ
พระคาถาและบูชาพระสุนทรีวาณี
ภาควิชาการ พระสุนทรีวาณี แต่เดิมนั้นเป็นภาพพระสุนทรี-
วาณี(นางฟ้า) สถิตอยู่บนดอกบัว สมเด็จพระวันรัต (แดง) วัดสุทัศน
เทพวราราม ทรงคิดแบบขึ้นจากพระสูตรสัททาวิเศษ แล้วทรงให้
หมื่นศิริธัชสังกาศ-เจ้ากรม (แดง) จัดการเขียนขึ้นเอาไว้ในพระตำ หนัก
ของสมเด็จฯ ปรากฏว่าเป็นที่สนพระทัยของพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์จึงได้ทรงมีพระราชวิจารณ์เรื่องภาพ
สุนทรีวาณีนี้ พระราชทานสมเด็จพระบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระนริศ
รานุวัตติวงศ์
ครั้นกาลต่อมาภายหลังพระองค์ได้ทรงเสด็จสวรรคตแล้ว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรด
เกล้าฯ พิมพ์พระราชวิจารณ์สุนทรีวาณีนี้พระราชทานในงานพระราชทานกุศลคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จ
พระพุทธเจ้าหลวง เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2471
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชวิจารณ์ภาพสุนทรีวาณี พระราชทานแด่สมเด็จพระ-
บรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัตติวงศ์ ที่ได้ทูลถามสาเหตุให้ทรงพระราชวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องลัทธิมหายาน
กับหินยาน เป็นรูปดอกบัวขึ้นจากนํ้า ดอกกลางเป็นดอกบัวบาน มีรูปนางฟ้านั่งขัดสมาธิอยู่บนนั้น หัตถ์ซ้ายพาดตัก
อย่างพระมารวิชัย ในอุ้งหัตถ์มีดวงแก้ว หัตถ์ขวาทำอาการกวักดุจพระคันธารราษฎร์ ดอกริมเป็นดอกบัวโรย เบื้อง
ขวามีรูปบุรุษ เบื้องซ้ายมีรูปสตรีนั่งพับเพียบประนมมืออยู่บนนั้น เบื้องบนมีรูปเทวดาถือเครื่องสักการะดั้นเมฆสอง
แถวซ้อนกัน เบื้องล่างมีรูปนาคกับสัตว์ต่างๆ ตีความไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร แต่มีท่วงทีคล้ายพระทางลัทธิมหายาน
ซึ่งทำ เป็นดอกบัวขึ้นจากนํ้า มีพระพุทธรูปนั่งบนนั้น องค์เดียวบ้าง สามองค์บ้าง ห้าองค์บ้าง จึงมีพระราชทานไป
สอบถามกรมพระสมมติอมรพันธ์ แล้วพระราชทาน พระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระ-
นริศรานุวัตติวงศ์
สมเด็จพระบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัตติวงศ์ ไม่ทราบลัทธิทางมหายาน มีใจใคร่จะทราบจึงเขียน
หนังสือกราบทูลถามท้าวถึงความคาดคะเนตามที่สังเกตเห็นมาบ้าง จึงทรงมีพระราชวิจารณ์พระราชทาน
ส่วนทางที่พระสมมติอมรพันธ์ไปสืบนั้น ได้ความว่า เป็นแบบที่สมเด็จพระวันรัต (แดง) คิดออกมาจากคาถา
บทหนึ่ง ซึ่งมาในหนังสือสัททาวิเศษ ให้เขียนกรอบไว้ ท่านเรียกว่า รูปสุนทรีวาณี กรมพระสมมติอมรพันธ์ ได้นำ
รูปแผ่นต้นนั้นมาถวายทอดพระเนตร รูปนั้นเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเป็นอัน
มากจนถึงพระราชดำ ริจะทำ ประกอบกับแผ่นศิลาจารึกประดิษฐานไว้ที่วัดเบญจมบพิตร ดูประหนึ่งทรงพระราชดำ ริ
ให้เป็นที่ระลึกถึงสมเด็จพระวันรัต ด้วย
สมเด็จพระวันรัต (แดง) ได้อธิบายว่า รูปสุนทรีวาณี นั้น หมายถึง พระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า ตามที่มาใน
พระคาถานี้เป็นหลัก
มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี
ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง ฯ
สมเด็จพระวันรัต (แดง)
5
วาณี หมายถึง นางฟ้า คือพระไตรปิฎก มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี
มีรูปอันงดงาม เกิดแต่ท้องแห่งดอกบัว คือพระโอษฐ์แห่งพระพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมปราชญ์ทั้งหลาย
ปาณีนัง สะระณัง เป็นที่พึ่งแห่งสัตว์ผู้มีปรารถนาทั้งหลาย มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง จงยังใจแห่งข้าพเจ้าทั้งหลายให้
ยินดี
พระสุนทรีวาณี เป็นพระที่ทรงไว้ด้วยความเมตตาอย่างสูง เป็นพระที่เป็นสิริมงคลมหาลาภต่างๆ จึงเหมาะแก่
ห้างร้าน บริษัท และร้านค้าทั่วจะมีไว้บูชาเพื่อเจริญด้วยลาภ ยศ ความสุข สรรเสริญ ตลอดจนการเจริญก้าวหน้าใน
อาชีพการงานของตน
ภาคตำ นาน สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 วัดสุทัศน-เทพวราราม (พ.ศ.2420-
2443) ท่านเจริญพระคาถานี้ดังกล่าวข้างต้นจนกระทั่งวันหนึ่งท่านนิมิตในฝัน ครั้นตื่นจำวัดแล้วจึงเชิญจิตรกรหลวง
มาเขียนภาพนี้ดังความหมายข้างต้นในภาควิชาการและชะรอยว่าจิตกรผู้จำลองเขียนความฝันของท่านจะเป็นจิตรกร
ซึ่งมีเชื้อสายจีนที่เขียนภาพจิตรกรรมปลายสมัยรัชกาลที่ 4 พระรูปแห่งพระสุนทรีวาณีจึงออกมาในลักษณะแบบกึ่ง
จีน-กึ่งไทย สังเกตได้จากเครื่องสักการะที่เทวาและพระพรหมบูชาโดยถือโคมจีนอันสื่อว่าเป็นเครื่องบูชาชั้นสูงของจีน
ในบันทึกหอสมุดแห่งชาติเล่าเอาไว้ว่า คราวครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
จะเสด็จไปเจริญสัมพันธไมตรียังต่างประเทศ ด้วยความที่พระองค์มีพระราชศรัทธาในสมเด็จพระวันรัต (แดง) อย่าง
ยิ่งทั้งโดยศีลาจารวัตร ความเชี่ยวชาญในต้นศาสนา ความสามารถในการบริหารการศึกษา และความเชี่ยวชาญ
เรื่องการบูรณะพระอาราม จนถึงวางพระราชหฤทัยให้ดูแลงานช่างในการที่ทรงสร้างวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
จึงเสด็จไปกราบสมเด็จพระวันรัต(แดง)แล้วออกพระโอษฐ์ว่า...โยมจะไปเจริญสัมพันธไมตรีต่างประเทศ มิเช่น
นั้นชาวต่างชาติจะล่าอาณานิคม โยมมีความกังวลใจ 2 เรื่อง คือ การฝ่าอันตรายในการเดินทาง และเกรงว่าการ
เจริญสัมพันธไมตรีจักไม่สำ เร็จ พระคุณท่านมีอะไรให้โยมติดตัวไปบ้าง
เมื่อพระพุทธเจ้าหลวงตรัสอย่างนี้แล้ว สมเด็จพระวันรัต (แดง) เข้ากุฏิแล้วเขียนพระคาถาสุนทรีวาณีถวาย ทั้ง
ได้ถวายพระพรว่า ถ้ามหาบพิตรเกิดความกังวลพระทัยในสองประการ ขอจงจำ เริญบริกรรมคาถาด้วยศรัทธา
สติ สมาธิ ก็จะเกิดองค์ฌาน สมาบัติ พระราชกิจจะสำ เร็จดังพระราชฤทัย
เมื่อพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จกลับสยามประเทศ ได้เสด็จไปนมัสการสมเด็จพระวันรัต (แดง) แล้วตรัสเล่าว่า
พระคาถาสุนทรีวาณีนี้ศักดิ์สิทธิ์ โยมบริกรรม เวลาเหยียบเรือรบฝรั่งขนาดใหญ่ ก็บริกรรม พอเท้าแตะเรือรบ เกิด
สะเทือนยาบยวบทั้งลำ เรือ พวกฝรั่งตกใจมาก ต่อมาฝรั่งเอาม้าเทศมาให้ขี่ รู้ทีเดียวว่าม้ากับคนไม่คุ้นกันก็จะพยศ
และสะบัด ฝรั่งจะทำ ให้อับอายขายหน้า โยมจึงขอหญ้าหนึ่งกำ มือ บริกรรมคาถาแล้วให้ม้ากิน ม้ามันเชื่อง บังคับ
ง่าย เป็นที่อัศจรรย์ใจของฝรั่ง
เมื่อพระพุทธเจ้าหลวงตรัสแล้ว จึงถามประวัติพระคาถา สมเด็จพระวันรัต (แดง) ถวายพระพรเล่าที่มาแล้ว
จึงอัญเชิญเสด็จเข้าในกุฏิให้ทอดพระเนตรภาพจิตรกรรมพระสุนทรีวาณี พระพุทธเจ้าหลวงทรงเลื่อมใสยิ่ง จึงออก
พระโอษฐ์ยืมไปบูชาเป็นเวลา 5 ปีกาลต่อมาเมื่อสมเด็จพระวันรัต (แดง) อาพาธใกล้มรณภาพ พระพุทธเจ้าหลวง
เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมอาการที่วัดโพธินิมิตรสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระวันรัต (แดง) ได้ถวายพระพรขอคืนภาพพระ
สุนทรีวาณีแก่วัด ซึ่งก็ได้โปรดฯให้อัญเชิญคืนวัด
พระพุทธเจ้าหลวงทรงมีพระราชศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพระสุนทรีวาณี เมื่อทรงโปรดให้สร้างโรงเรียน
วัดเบญจมบพิตร จึงให้ออกแบบพระสุนทรีวาณี เพื่อเป็นสิริมงคลและเพื่อให้ครูอาจารย์นักเรียนได้บริกรรมคาถานี้
ปัจจุบันวัตถุมงคล พระสุนทรีวาณีที่ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสม หายากสนนราคาเล่นหาสูง ไม่ว่าจะเป็น
พระสุนทรีวาณีสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ทรงสร้างเมื่อครั้งที่ได้รับพระราชทานหิรัญบัฏที่ พระพรหมมุนีปี2464
ครอบนํ้าพระพุทธมนต์ปี2464 เหรียญหล่อรูปไข่พระสุนทรีวาณีปี2464เหรียญหล่อพิมพ์เสมา ปี2464เหรียญหล่อ
หยดนํ้าพระสุนทรีวาณีพระมงคลราชมุนี(สนธิ์ยติธโร) หรือท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2495 เป็นต้น |