ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ในหลวงทรงเรือใบ หนึ่งในเหรียญที่สวยที่สุด ชุดเบญจมหามงคล น่าภาคภูมิใจมากๆครับ



(N)


จัดสร้างโดยมูลนิธิ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค
วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือการศึกษาของ บุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต
“เหรียญเบญจมหามงคล” พระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย คือ แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ผมใฝ่ฝันที่จะสร้างถาวรวัตถุเพื่อเทิดพระเกียรติ และพระบารมี สำหรับ “เหรียญเบญจมหามงคล” ชุดนี้ คือ ความสำเร็จแห่งแรงบันดาลใจของผม ที่ต้องการสร้างเหรียญที่สวยงาม มีคุณค่าต่อการสะสม เนื่องจากเทคโนโลยีต่างๆ มีความทันสมัยมากขึ้น ประกอบกับผมมีมูลนิธิที่ตั้งไว้ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต จึงได้ทำหนังสือถึงท่านราชเลขาธิการ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตสร้างในนามมูลนิธิ พลตำรวจเอก สล้าง บุนนาค ผมได้รับหนังสือจากท่านราชเลขาฯ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างได้ทั้ง 5 รูปแบบ ที่ผมดีใจมากที่สุด คือ เหรียญพระพุทธเจ้าหลวง, เหรียญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, และ เหรียญสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นเหรียญไม่สวมฉลองพระองค์ (เหรียญเปลือย) ซึ่งเป็นศิลปะที่นิยมกันมากในหมู่พระราชวงศ์ตะวันตก ซึ่งสร้างครั้งสุดท้ายสมัย ร.5 และตลอดระยะเวลา 105 ปีเศษ ไม่เคยมีการสร้างเหรียญชนิดนี้ เหรียญชุดนี้จึงเป็นเหรียญชุดแรก ในรัชกาลปัจจุบัน เมื่อผมได้รับพระบรมราชานุญาต จึงจำเป็นต้องนำประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้ศึกษาดูงาน และนำความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับศิลปินผู้มีชื่อเสียงทั้งใน และต่างประเทศ ที่ผมเห็นว่าต้องทำงานร่วมกัน เหรียญทั้งหมดผมได้ออกแบบ และแนวคิดต่างๆ ด้วยตัวเอง และมอบหมายให้ ร.ต.อ.สุริยงค์ โพธิจันทร์ กราฟฟิกคอมพิวเตอร์ที่ทำงานอยู่กับผม สร้างรูปแบบ และให้ช่างปั้นตามรูปแบบที่เราทำไว้ให้ แต่ละเหรียญใช้ช่างปั้นอย่างน้อย 2-3 คน เมื่อคัดเลือกได้รูปแบบแล้ว ได้นำไปให้ Mr.Wemer Godec ช่างปั้น High Relief ที่มีชื่อเสียงของยุโรปแก้ไขสัดส่วน ส่วนนูน ส่วนเว้า เพื่อให้เกิดเงา และรายละเอียดที่สวยงาม เมื่อได้รูปแบบที่พอใจแล้ว ได้ทำสัญญากับโรงงานว่า จะทำเหรียญแบบ Matt Finish ซึ่งเป็นกรรมวิธีการผลิตเหรียญที่ดีที่สุด การผลิตวิธีนี้ เหรียญขนาด 32 มม. ลงมา จะปั๊ม 9 ครั้ง อบ 2 ครั้ง เมื่อตรวจสอบแล้วจากรุ่นตัวอย่าง โดยขยายขนาด 80 เท่า เปรียบเทียบกับเหรียญที่มีอยู่ โลหะยังอัดตัวไม่แน่นเท่ากับเหรียญเก่าที่เก็บไว้ จึงได้ตกลงให้ปั๊มใหม่ 25 ครั้ง เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้ เหรียญพื้นราบจะเงางามมาก ที่พวกเราเรียกว่า “เหรียญ Poof” แล้วจะต้องนำมาพ่นทรายละเอียด และทำ Patian ผิว พร้อมขัด ขั้นตอนหลังจาก “เหรียญ Poof” แล้ว ทำด้วยมือทั้งหมด นอกจากกรรมวิธีการผลิตที่ประณีตแล้ว เหรียญที่ระลึกเบญจมหามงคลได้ผ่านการทำพิธีมังคลาภิเษก 9 ครั้ง ณ วัดประจำรัชกาลที่ 1-8 และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) รวม 9 วัด และได้ทำพิธีปลุกเสกเดี่ยว โดย “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” และพิธีกล่าวบวงสรวงวิญญาณของพระบูรพมหากษัตราธิราชเจ้า และดวงวิญญาณสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า พระราชวังดุสิต กล่าวได้ว่า ไม่มีเหรียญที่ระลึกใด ที่ผ่านการประกอบพิธีมังคลาภิเษกขนาดนี้มาก่อน เมื่อเหรียญนี้ชุดนี้เสร็จ ทางโรงงานได้นำไปเสนอต่อ “พิพิธภัณฑ์เมืองเบอร์ลิน” ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีอายุ 600 ปี แล “พิพิธภัณฑ์เมืองเดสกัน” สำหรับเหรียญที่จะเข้าไปแสดงที่ “พิพิธภัณฑ์เมืองเบอร์ลิน” ได้ จะต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการที่ผ่านยากมาก และจะได้ตั้งแสดงปีละ 4 เดือน หมุนเวียนกันไป

นี่คือ เหรียญที่สวยที่สุด ทรงคุณค่ามากๆอีกเหรียญนึงครับ

โดยคุณ ninjaykk (2.4K)  [อา. 24 ก.ย. 2560 - 23:06 น.]



โดยคุณ ninjaykk (2.4K)  [อา. 24 ก.ย. 2560 - 23:23 น.] #3836438 (1/4)


(N)


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รับการกล่าวขานจากประชาคมโลก ว่า เป็น “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” ผู้ทรงริเริ่มโครงการต่าง ๆ ทรงงานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทยให้อยู่เย็นเป็นสุข นอกจากนี้ ท่านยังมีพระปรีชาสามารถในด้านกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการกีฬา ซึ่งในอดีต “ในหลวง” ของปวงชนชาวไทย ได้แสดงพระปรีชาสามารถเรื่องของกีฬา และได้รับรางวัลความสำเร็จมาแล้ว

พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ของไทย ทรงโปรดกีฬา “เรือใบ” เป็นอย่างมาก และได้แสดงพระอัจฉริยภาพด้วยการต่อเรือจากฝีพระหัตถ์ โดยเรือใบลำที่พระองค์ทรงต่อด้วยพระหัตถ์ คือ เรือใบพระที่นั่งเอ็นเตอร์ไพรส์ พร้อมพระราชทานชื่อว่า “ราชปะแตน” และต่อมาทรงต่อเรือใบประเภท OK ขึ้นอีก พระราชทานชื่อว่า “นวฤกษ์” ซึ่งเรือนวฤกษ์นี้เองทรงนำมาใช้แข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 (หรือ ซีเกมส์ ในปัจจุบัน)

วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 การแข่งขันเรือใบในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 ณ ประเทศไทย นับเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของพสกนิกรชาวไทย เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นตัวแทนของชาติร่วมแข่งขันเรือใบประเภท OK ร่วมกับ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเรือเวคา 2 ใบเรือหมายเลข TH27 ส่วน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ ทรงเรือเวคา 1 ใบเรือหมายเลข TH 18

รอบชิงชนะเลิศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเรือใบนำมาตลอด ตามด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ และนักกีฬาทีมชาติพม่า ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญ รอบสุดท้ายกระแสลมเปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องทรงเรืออ้อมทุ่นผิดตำแหน่ง กระนั้นก็ยังทรงนำเรือเข้าสู่เส้นชัยเป็นพระองค์แรก ตามด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ โดยภายหลังจากเข้าเส้นชัย และทรงทราบว่า อ้อมเรือผิดทุ่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสรวลก่อนทิ้งพระองค์ลงน้ำ และผลการแข่งขันในครั้งนั้น คณะกรรมการมีมติทำให้ทรงครองเหรียญทอง ร่วมกับ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ

เหรียญทองของท่านได้ทำให้พสกนิกรชาวไทยที่เดินทางมาชมพระปรีชาสามารถถึงขอบสนาม ส่งเสียงกู่ร้องด้วยความยินดี อย่างไรก็ตาม มีเหตุการณ์หนึ่งได้ถูกบันทึกไว้ เขียนโดย พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ว่า “ครั้งหนึ่งเสด็จฯ ออกจากฝั่งไปได้ไม่นาน ก็ทรงแล่นเรือใบเข้าฝั่ง ตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯ อยู่ด้วยความฉงนว่า เสด็จฯ กลับเข้าฝั่งเพราะเรือใบพระที่นั่งแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวล์ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครเห็น"


เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า นอกจากพระปรีชาสามารถในด้านกีฬาแล้ว พระองค์ยังทรงมีพระราชจริยวัตรที่แสดงให้เห็นว่า “ในหลวงของคนไทย” ทรงเข้าใจในเรื่องสปิริตนักกีฬา อันหมายถึงรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ใช้ได้ทั้งในเกมกีฬาและชีวิตประจำวันของคนทั่วไป

ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัสเกี่ยวกับการกีฬาไว้ ว่า “การกีฬามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตของแต่ละคนและชีวิตบ้านเมือง” นั่นแสดงให้เห็นถึงพระราชปณิธานในเรื่องการส่งเสริมการกีฬาว่าเป็นสิ่งจำเป็น และเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาบุคคลและประเทศชาติ จึงทรงส่งเสริมกีฬาทุกประเภท ซึ่งหลังจากนั้นพระองค์ก็ยังทรงฝึกซ้อมและเข้าร่วมการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 5, 6 และ 8 รวมทั้งกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4, ครั้งที่ 8 และครั้งที่ 13 เรื่อยมา รวมถึงทรงเล่นกีฬาหลากหลายชนิด เช่น สกีน้ำ ว่ายน้ำ เรือกรรเชียง เรือพาย แบดมินตัน ยิงปืน กอล์ฟเล็ก การแข่งขันรถเล็ก เครื่องร่อน ฯลฯ ซึ่งแต่ละชนิดพระองค์จะศึกษาข้อมูลกีฬาแต่ละชนิดอย่างละเอียด และฝึกฝนจนปฏิบัติได้ดี

นอกจากจะทรงกีฬาหลายชนิดด้วยพระองค์เองจนสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว ยังทรงเอาพระทัยใส่ติดตามข่าวกีฬาทุกประเภทอยู่เสมอ ในการเปิดกีฬาสำคัญในระดับประเทศและระดับนานาชาติ มักจะมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นอเนกประการ เช่น พระราชทานไฟพระฤกษ์ พระราชทานพระบรมราโชวาท เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นักกีฬาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่นักกีฬาและประชาชนตลอดมา

เหนืออื่นใด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านยังทรงเคารพกฎกติกาของการกีฬาที่ทรงเล่น และมักจะเน้นย้ำให้นักกีฬาทั้งหลายมีวินัยตลอดเวลา ทรงให้ความสำคัญต่อการฝึกซ้อมเป็นอันมาก ทรงสนพระทัยกีฬาที่มีโอกาสได้ฝึกซ้อม ด้วยทรงเห็นว่าการจะเป็นนักกีฬาที่ดีนั้นต้องให้ความสนใจในการฝึกซ้อม เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และปรับปรุงตนเองให้มีประสบการณ์เพิ่มขึ้น “ถ้านักกีฬาคนใดไม่ฝึกซ้อมก็จะเป็นนักกีฬาที่ดีไม่ได้”

สุดท้าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากไม่ได้ทรงกีฬา ก็ยังสนพระทัยในการออกกำลังพระวรกายเพื่อสุขภาพ เช่น วิ่งเหยาะและเดินเร็ว การออกกำลังพระวรกายสม่ำเสมออย่างถูกหลักวิชาการ รวมทั้งทรงกระตุ้นให้เกิดความอบอุ่นแก่พระวรกายก่อนเริ่ม และผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังพระวรกาย โดยทรงปฏิบัติเช่นนี้เป็นกิจวัตรเป็นแบบฉบับของนักกีฬาที่ดีและทำให้พระวรกายของพระองค์แข็งแรง พร้อมที่จะเสด็จพระราชดำเนินไปในที่ต่างๆ เพื่อทรงเยี่ยมเยียนราษฎรของพระองค์ได้เสมอ

สดุดีแด่ “พระมหากษัตริย์นักกีฬา”

ขออนุญาตเผยแพร่บทความ จากนสพ.ผู้จัดการออนไลน์ เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ครับ

โดยคุณ ninjaykk (2.4K)  [อา. 24 ก.ย. 2560 - 23:24 น.] #3836439 (2/4)


(N)


สวยงาม
ทรงคุณค่ามากๆครับ

โดยคุณ ninjaykk (2.4K)  [อา. 24 ก.ย. 2560 - 23:25 น.] #3836440 (3/4)


(N)
หล้งทรงเรือใบ

โดยคุณ pomkaew (15.8K)  [พฤ. 05 ต.ค. 2560 - 12:45 น.] #3841149 (4/4)

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1