(N)
พระเถราจารย์ยุคเก่าผู้มีตบะบารมีแก่กล้า พระธรรมดิลก (อิ่ม) วัดราชบูรณะ เป็นชาวเจ้าเจ็ด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อปี พ.ศ.2390 เมื่ออายุได้ 13 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดเทพรังษี บ้านเจ้าเจ็ด แล้วย้ายมาอยู่ที่วัดราชบูรณะ กทม. จนอายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดราชบูรณะ โดยมีพระธรรมวโรดม(สมบูรณ์) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "จนฺทสิริ" ขณะที่เป็นสามเณรอยู่ที่วัดราชบูรณะนั้น ท่านสอบได้เปรียญ 3 ประโยค ภายหลังจึงได้แปลอีก 1 ประโยค รวมเป็น 4 ประโยค ในปี พ.ศ.2428 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูปลัด ฐานานุกรมของพระธรรมไตรโลกาจารย์(แสง) พ.ศ.2434 ได้เป็นพระครูปลัดสุวัฒนสุตคุณ ฐานานุกรมของพระธรรมวโรดม
พ.ศ.2436 ได้รับสมณศักดิ์พระราชาคณะที่ "พระศิริธรรมมุนี"
พ.ศ.2438 ได้เลื่อนสมณศักดิ์พระราชาคณะผู้ใหญ่ที่ "พระราชเมธี ศรีประสาธน์สุตาคม"
พ.ศ.2443 ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุข
พ.ศ.2448 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นที่พระเทพมุนี และย้ายกลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ ในปี
พ.ศ.2466 ได้รับพระราชทานเลื่อนขึ้นมาเป็นที่พระธรรมดิลก และสมณศักดิ์พระธรรมดิลกนี้ เป็นครั้งแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ที่แต่งตั้งขึ้นในรัชสมัยของรัชกาลที่ 6 และท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์นี้เป็นรูปแรก หลังจากที่ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่พระธรรมดิลกได้เกือบหนึ่งปี ท่านก็ได้มรณภาพ ในวันที่ 1 ธันวาคม ปี พ.ศ.2466 สิริอายุได้ 77 ปี พรรษาที่ 55
คุณความดีที่ท่านได้บำรุงพระศาสนา บูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบูรณะอย่างมากมายเสมอมา จึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
ในปี พ.ศ.2470 คณะศิษย์จึงได้พร้อมใจกันจัดงานบุญ และหล่อรูปเหมือนของท่านไว้เพื่อกราบไหว้ ระลึกถึง และได้จัดให้มีการสร้างเหรียญรูปท่านขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อสร้างเสร็จก็ได้ให้ท่านเจ้าคุณพระมงคลทิพย์มุนี(มุ้ย) ปลุกเสกที่วัดจักรวรรดิ หลังจากนั้นก็ได้นำมาทำพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งที่วัดราชบูรณะ จึงได้นำมาแจกให้แก่ศิษย์ และผู้ที่สละทรัพย์ทำบุญในครั้งนี้โดยทั่วกันสร้างไม่กีร้อยเหรียญครับ | 
[พ. 26 ส.ค. 2563 - 21:57 น.]