(N)
ผ่านไถหลวงพ่อชื่น อินทรปั่นโญ😊
-- พระอริยะสงฆ์แห่งวัดในปราบ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี พลิกฟื้นชะตาชีวิตกลับร้ายเป็นดี ทำการสิ่งใดผ่านตลอด ดีตลอด ไม่มีอะไรติดขัด มีโชคลาภและโภคทรัพย์ ถือเป็นสุดยอดวัตถุมงคลครับผม...!!!
ผานไถนา วัตถุอาถรรพณ์ ชนิดหนึ่งที่ มีคติความเชื่อมาแต่โบราณและปัจจุบันนี้ก็ยังเชื่อกันอยู่ คือ ผานไถนี้ผีกลัวมาก แค่เอาน้ำล้างหัวไถไปพรมคนผีเข้าก็ออกแล้ว ยังเชื่อว่าผานไถทำอะไรก็ผ่านโดยสะดวกตามต้องการ พลิกร้ายกลายเป็นดีด้วย แช่โอ่งน้ำไว้กินอาบใครทำคุณมาผ่านพ้นไม่ต้องตัว และที่เชื่อกันมากที่สุด คือ จะกลับร้ายกลายเป็นดี ดั่งเหมือนกับผานไถ ที่กลับหน้าดิน ในการทำนา
คนสมัยก่อน เมื่อทำนา ผานไถนาหมดอายุการใช้งาน ก็จะอามาเป็นเครื่องราง ยิ่งถ้าได้เอาไปให้อาจารย์ที่เรืองเวทเสก แล้วจะยิ่งมีคุณมากยิ่งขึ้น โดยมักจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ลูกหลาน และญาติมิตรไว้ใช้เพื่อเป็นสิริมงคล และเตือนสติ ในคุณค่าของเครื่องมือสำคัญ อีกชิ้นหนึ่ง ที่ช่วยให้คนมีข้าวกิน
คติการใช้ผานเป็นวัตถุอาถรรพณ์นั้นส่วนใหญ่เป็นคนในภาคใต้ โดยจะใช้ผานในการประกอบพิธีต่างๆ เมื่อหมดอายุใช้งาน หรือมีผานเก่าๆ ก็จะเอาขึ้นหิ้งบูชา บางรายถึงกับใส่ไว้ในโอ่งน้ำเพื่อป้องกันอาถรรพณ์ ขณะเดียวกันการทำพิธีถอนอาถรรพณ์พื้นดิน เมื่อเสร็จจะพิธีสวดถอนก็จะเอาผาลพลิกธรณีทั้ง ๘ ทิศ นอกจากนี้แล้วในการถอนหรือย้ายตำหนิบนร่างกาย (ไฝ-ปาน) จะใช้ผานในการประกอบพิธีถึงจะได้ผลดีที่สุด
"เครื่องรางที่สร้างจากผานไถนา" ปัจุบันต้องยกให้ พ่อท่านชื่น อินทปัญโญ พระอริยะสงฆ์แห่งวัดในปราบ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สร้างเครื่องรางผานไถอันโด่งดัง ท่านให้คติว่า วัตถุจากธรรมชาติและเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตปกติประจำวันหลายชนิดมีอาถรรพณ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องปลุกเสกสามารถนำไปใช้ได้เลย อย่างกรณีผานไถนา ซึ่งใช้ประโยชน์สำหรับไถพลิกพื้นดิน และเป็นของใช้ชนิดเดียวในโลกที่สามารถพลิกแผ่นดินได้ เมื่อไถลงไปในดินแล้วก็สามารถผ่านตลอดโดยไม่มีอะไรติดขัด คนจึงเกิดความเชื่อที่ว่า
ผานเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่สามารถพลิกสิ่งร้ายๆ ให้กลายเป็นดี ทำอะไรก็ผ่านตลอดเช่นเดียวกันผ่านไถ ทั้งนี้ หลวงพ่อชื่นใช้ผานไถนาส่วนที่เป็นเหล็กอายุกว่า ๑๐๐ ปี นำมาตัดเป็นชิ้นๆ ขนาดและรูปร่างต่างๆ กันไปแล้วแต่หลวงพ่อจะจารมือลงไปว่าเป็นยันต์อะไร บางครั้งก็ยันต์นะ บางครั้งก็ยันต์อุ
ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒ ว่าด้วยเรื่อง "ภิกษุอาพาธด้วยโรคต่างๆ" โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธถูกยาแฝด ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ดื่มน้ำที่เขาละลายจากดินรอยไถซึ่งติดผาล"
ตรงคำว่า "ดินติดผาลไถ" นี้ก็ได้แก่ดินที่ติดอยู่ที่ผาลไถที่ชาวนาเขาใช้ไถนานั่นแหละถ้าได้ดินติดผาลไถที่เป็นแบบโบราณ คือไถที่เป็นไม้หรือเหล็ก และใช้เทียมกับควายหรือวัว แล้วก็มีคนจับเดินตามแบบนี้ก็ดีและก่อนจะดื่มน้ำดินผาลไถ ก็อธิษฐานด้วยว่า "ขออำนาจพุทธ - ธรรม - สงฆ์ จงบันดาลบุญข้าให้มาอยู่ที่น้ำดินผาลไถนี้ จงมีฤทธิ์อำนาจล้างอาคมยาแฝดในกายข้าให้มลายไป" เรื่องดื่มน้ำนี้ก็ดื่มไปเรื่อยๆ ทั้งดื่มทั้งอธิษฐานไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการจะดีขึ้น
เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๘ หลวงพ่อได้จัดสร้างวัตถุมงคล รุ่นแรกขึ้นมา หลักจากชาวบ้านได้รูปเหรียญหลวงพ่อห้อยคอ ได้มีประสบการณ์มากมายเป็นที่ร่ำลือในด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม และชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งภาคใต้ เช่าหาบูชากันจนหมดไม่เหลือ จนเป็นที่ต้องการของผู้นิยมสะสมพระเครื่องและชาวต่างประเทศยังเดินทางมาจากมาเลเซียเพื่อกราบขอพร
#เครื่องรางที่สร้างจากผาลไถนา
" ปัจุบันต้องยกให้
พ่อท่านชื่น อินทปัญโญ
พระอริยสงฆ์ แห่งวัดในปราบ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สร้างเครื่องรางผานไถ
อันโด่งดัง ท่านให้คติว่า วัตถุจากธรรมชาติ
และเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตปกติประจำวันหลายชนิดมีอาถรรพณ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องปลุกเสกสามารถนำไปใช้ได้เลย อย่างกรณีผานไถนา ซึ่งใช้ประโยชน์สำหรับไถพลิกพื้นดิน และเป็นของใช้ชนิดเดียวในโลกที่สามารถพลิกแผ่นดินได้ เมื่อไถลงไปในดินแล้วก็สามารถผ่านตลอดโดยไม่มีอะไรติดขัด คนจึงเกิดความเชื่อ
ผาลเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่สามารถพลิกสิ่งร้ายๆ ให้กลายเป็นดี ทำอะไรก็ผ่านตลอดเช่นเดียวกันผาลไถ ทั้งนี้ หลวงพ่อชื่นใช้ผาลไถนาส่วนที่เป็นเหล็กอายุกว่า ๑๐๐ ปี นำมาตัดเป็นชิ้นๆ ขนาดและรูปร่างต่างๆ กันไปแล้ว แต่หลวงพ่อจะจารมือลงไปว่าเป็นยันต์อะไร บางครั้งก็ยันต์นะ บางครั้งก็ยันต์อุด
ผาลไถนา วัตถุอาถรรพณ์ชนิดหนึ่งที่มีคติความเชื่อมาแต่โบราณและปัจจุบันนี้ก็ยังเชื่อกันอยู่ คือ ผาลไถนี้ผีกลัวมาก แค่เอาน้ำล้างหัวไถไปพรมคนผีเข้าก็ออกแล้ว ยังเชื่อว่าผาลไถทำอะไรก็ผ่านโดยสะดวกตามต้องการ พลิกร้ายกลายเป็นดีด้วย แช่โอ่งน้ำไว้กินอาบ ใครทำคุณมาผ่านพ้นไม่ต้องตัว และที่เชื่อกันมากที่สุดคือจะกลับร้ายกลายเป็นดี ดั่งเหมือนผาลไถที่กลับหน้าดินในการทำนา
คนสมัยก่อนเมื่อทำนา ผาลไถนาหมดอายุการใช้งาน ก็จะอามาเป็นเครื่องราง ยิ่งถ้าได้เอาไปให้อาจารย์ที่เรืองเวทเสกแล้วจะมีคุณมากยิ่งขึ้น โดยมักจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ลูกหลานและญาติมิตรไว้ใช้เพื่อเป็นสิริมงคล และเตือนสติในคุณค่าของเครื่องมือสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ช่วยให้คนมีข้าวกิน
คติการใช้ผาลเป็นวัตถุอาถรรพณ์นั้น ส่วนใหญ่เป็นคนในภาคใต้ โดยจะใช้ผาลในการประกอบพิธีต่างๆ เมื่อหมดอายุใช้งาน หรือมีผาลเก่าๆ ก็จะเอาขึ้นหิ้งบูชา บางรายถึงกับใส่ไว้ในโอ่งน้ำเพื่อป้องกันอาถรรพณ์ ขณะเดียวกันการทำพิธีถอนอาถรรพณ์พื้นดิน เมื่อเสร็จพิธีจะสวดถอนก็จะเอาผาลพลิกธรณีทั้ง ๘ ทิศ นอกจากนี้แล้วในการถอนหรือย้ายตำหนิบนร่างกาย (ไฝ-ปาน) จะใช้ผาลในการประกอบพิธีถึงจะได้ผลดีที่สุด
ด้วยเหตุดังกล่าว หลวงพ่อชื่นใช้ผาลไถนาส่วนที่เป็นเหล็กอายุกว่า ๑๐๐ ปี นำมาตัดเป็นชิ้นๆ ขนาดและรูปร่างต่างๆ กันไปแล้วแต่หลวงพ่อจะจารมือลงไปว่าเป็นยันต์อะไร บางครั้งก็ยันต์นะ บางครั้งก็ยันต์อุ
สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยินยันว่า ผาลไถนา
เป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่สามารถผลิกชะตาชีวิตให้ร้ายกลับกายเป็นดีได้คือ อนุสรณ์ผาลไถนา ขนาดกว้างประมาณ ๒ เมตร สูง เกือบ ๓ เมตร น้ำหนักกว่า ๓ ตัน ตั้งอยู่ด้านหลังโบสถ์วัดในปราบ โดยแต่ละวันจะมีคนเดินทางมาปิดทอง จนเหลืองอร่าม พร้อมกับเช่าชิ้นส่วนหัวผาลไถ่นาที่ตัดเป็นรูป ๓ เหลี่ยม แต่ปัจจุบันนี้
#ประวัติของหลวงพ่อชื่น
เจ้าตำรับ "ผาลพลิกแผ่นดิน" ๑ เดียว
พระครูมงคลสมณกิจ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "พ่อท่านชื่น อินทปัญโญ" หรือ "หลวงพ่อชื่น วัดในปราบ" พระอริยสงฆ์แห่งวัดในปราบ ต.บ้านเสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานเจ้าตำรับ "ผาลพลิกแผ่นดิน พลิกชีวิต" ท่านมรณภาพอย่างสงบเมื่อวันพุธที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๓๕ น. สิริอายุรวม ๙๒ ปี
"นายชื่น แก้วศรีมล" เป็นชื่อและสกุลเดิมของพ่อท่านชื่น อินทปัญโญ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๗ บิดาของท่านเป็นที่รู้จักกันในนาม อาจารย์ล่อง ผู้รักษาคนไข้ทางด้านอาคม หรือไสยศาสตร์ในสมัยนั้น เมื่ออายุครบ ๗ ขวบ ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวัดศิลา จ.นครศรีธรรมราช เรียนจบชั้น ป.๔ หลังจากเรียนจบ บิดาของท่านได้นำท่านไปฝากเป็นศิษย์หลวงพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งหลวงพ่อคล้ายมีฐานะเป็นตาของนายชื่น
ครั้งหนึ่งพ่อท่านคล้ายได้สรงน้ำในขณะที่นายชื่นซักสบงให้พ่อท่านคล้ายอยู่ พ่อท่านคล้ายได้ตักน้ำขันที่สามนำมารดศีรษะและนำมือรับน้ำใต้คาง แล้วส่งให้นายชื่นดื่ม เมื่อดื่มน้ำนั้นแล้วพ่อท่านคล้ายได้เริ่มถ่ายทอดวิชาต่างๆ และท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพ่อท่านคล้าย เช่น วิชาทำนายดวงชะตา ขับไล่ภูตผีปีศาจ การขับไล่คุณไสยต่างๆ อีกมากมายจากพ่อท่านคล้าย และเล่าเรียนวิชาอาคมที่ตกทอดจากตระกูลของบิดาท่าน ซึ่งได้ถ่ายทอดให้จนครบอายุครบ ๑๘ ปี บิดาเสียชีวิตจึงกลับมาบ้านทำงานเลี้ยงดูผู้เป็นมารดา
ขณะอายุ ๕๕ ปี พ่อท่านชื่นได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดไม้เรียง ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๒๒ โดยมีพระครูญาณวรากร เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า อินฺทปญฺโญ พอถึงปี ๒๕๓๒ ท่านได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่ที่พักสงฆ์ที่ชาวบ้านจัดไว้ให้ในหมู่บ้านในปราบ และเริ่มสร้างวัดขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ชื่อว่า วัดในปราบ โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดเจริญประชาธรรม
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ หลวงพ่อมีอาการอาพาธมานานแล้วได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเคียนซามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลวงพ่อมีอาการไอ เหนื่อยหอบ และมีเสมหะมาก แพทย์ระบุปอดติดเชื้อ ต้องนำส่งเข้ารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ก่อนที่จะมรณภาพอย่างสงบ โดยได้ประกอบพีธีสรงน้ำศพวันที่ ๒๕ มิถุนายนที่ผ่านมา
ส่วนกำหนดการสวดพระอภิธรรมกี่คืนคณะกรรมการวัดกำลังหารือ หลังจากครบกำหนดแล้วจะเก็บสรีระของท่านไว้ในพระมหาเจดีย์ ซึ่งหลวงพ่อชื่นท่านได้สร้างไว้ล่วงหน้าเสร็จมาหลายปีแล้ว
#ประสบการณ์ของลูกศิษย์และผู้ศรัทธาที่แขวนวัตถุมงคลของหลวงพ่อชื่นมีเยอะมาก
#ผู้เขียนขอยกตัวอย่างเหตุการณ์จริงที่ผู้เล่าที่แขวนหลวงพ่อชื่นพบเจออภินิหารเรื่องเหลือเชื่อมาเล่าให้ฟัง ขออนุญาตเอ่ยชื่อผู้เล่าบางท่านครับ
คุณSpeed Boat
-ผมเคยรถชนคับ เพื่อนผมเจ็บหนัก แต่ผมมีแค่ลอยถลอกนิดน่อย เนื่องจากวันนั้น เพื่อนผมเปลี่ยนเล้นไปขวา เพื่อจะยูเทริน แต่อยู่ๆมีรถกระบะขับมาเร็วมากพอชนบุ๊บผมกับเพื้อนก็กระเด็นไปคนละทาง แต่ความรู้สึกเหมือนมีอะใรมาผลับผมไป แต่คนเห้นตั้งหลายคน ว่าถ้าผมไม่ไหลไปไกล คงตายไปแล้วเพราะมีรถยนต์วิ่งมา โดยไม่รู้ว่าข้างหน้ารถชนกัน ทีจริงผมคงหัวหลุดไปแล้ว....ใครเชื่อไม่เชื่อผมไม่รุ้ที่รู้ๆ ผมรอดมาหลายครั้งกับผานไถ ตาหลงชื่น.ทุกๆวันนี้ผมยังเก็บไว้ยุ ตั้งแต่รถชน เมื่อ5ปีทีแล้ว
กรอบมีแค่รอยแตกนิดน่อยตอนโดนรถชน เหมือนแก่รับแทน จนทุกวันนี้ถ้าผมไปเคียซาผมต้องแวะไปตลอด เพราะเป็นอีกหนึ่งพระที่ผมเคารพที่สุด หลวงตาชื่น วัดในปราบ,🥰😍😍😍😍
คุณAngelo Richard
-ไปสมัครงานเซ็นทรัลภูเก็ต(CPN)ฝ่ายอาคารมีคนเป็นพันคนมาสมัครที่โรมแรมโนโวเปิดรับทุกแผนกสรุปรับเข้าทำงานแค่9แรกตอนนั้นเซ็นทรัลยังไม่เสร็จรับช่างวิศวกรไปคุมงานรับงานช่วงก่อนเปิดผมคือ1ใน9คนมีแค่ผมคนเดียวที่เป็นวิศวกรก่อสร้างนอกนั้นวิศวกรงานระบบ4ฝ่ายLP3ผมด้วยอีก1การเงิน1
พบผาลไถใส่ในถุงรูปถ่ายไปสมัครงาน
-คุณอภิสิทธิ์ สุขใส เล่าว่า
เรื่องสอบเข้าทำงาน สอบแข่งขันต่างๆ ผาลไถพ่อหลวงชื่นแน่จริงครับ
คุณธรรมลักษ์ จันทร์ศรี เล่าว่า
-สมัยก่อนตอนท่านยังไม่ดัง ผมเคยได้ยินว่ามีคนชาวบ้านนิมนต์ท่านไปขึ้นบ้านใหม่ ในระหว่างที่ขับรถยนต์ด้วยความเร็วพาพ่อท่านชื่นไปบ้านรถเกิดล้อหลุด แต่ก็ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไรเลย หลังจากนั้นผมก็ไปเช่าเหรียญท่าน(มันปู) พร้อมผ้ายันต์ที่วัดเลย พอปี49 วัตถุมงคลพ่อท่านชื่นมีประสบการมากๆเด็กเทคนิคเกือบทุกคนต้องหามาแขวนกัน ไม่ว่าเหรียญ ตะกรุด ผ่านไถ ไม้รอด เม็ดพุทธรักษา ดังมากในยุคนั้น
-และเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงสมัยก่อนแถวอำเภอเคียนซาห่างไกลความเจริญมาก เรียกว่าบ้านป่าเมืองเถื่อนคงไม่ผิดนัก มีชาวบ้านแถวนั้นอยากลองว่าวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นเข้มขลังไหม จึงออกอุบายมอบวัตถุมงคลของหลวงพ่อชื่นให้กับคนมอญที่มารับจ้างกรีดยางพาราแขวนบูชาติดตัว เมื่อคนมอญขับรถออกไป ก็ให้พักพวกไปดักยิง ปรากฎว่าปืนไม่คำรามสักนัด จึงได้ฉายาว่าเหรียญลองมอญจนมาถึง ณ ปัจจุบัน
-อีกเหตุการณ์มีงานศพ ทางเจ้าภาพจึงซื้อวัวนำมาล่ามไว้ข้างบ้านเพื่อจะเชือดเพื่อทำอาหารไว้เลี้ยงแขกเหรื่อในงาน ปรากฎว่าวัวตัวนี้ไปกินผ้ายันต์ของบ้านข้างๆที่แกตากไว้เพราะโดนฝน ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าวัวกินผ้ายันต์เข้าไป เมื่อถึงเวลาจะเชือดวัวชาวบ้านเอามีดไปแทงคอ ปาดคอ คมมีดไม่สามารถผ่านผิวหนังวัวตัวนั้นได้เลย แม้จะเอาปืนมายิงวัวตัวนั้น ปืนก็ยิงไม่ออกสักนัด และวัวตัวนั้นเค้าก็ไว้ชีวิตไม่ฆ่ามัน เรื่องนี้เป็นข่าวดังมากๆในแถบนั้น
-และเหตุการณ์สดๆร้อนๆ ลุงในพื้นที่แถวเคียนซา โดนปืนลูกซองยิง ไม่เข้า มีแผลแค่ช้ำเลือดแดงๆ (มีภาพประกอบ)
-ประสบการณ์ล่าสุดยิงถล่มหัวหน้าอุทยาน
ใต้ร่มเย็น ไม่เข้า แขวนผ่านไถหลวงพ่อชื่น วัดในปราบ(มีภาพประกอบ) |